Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: บล. คันทรี่ กรุ๊ป พยัคฆ์ติดปีกร่วมเป็นสมาชิก GAP -เปิดใจ “ สมบัติ นราวุฒิชัย ” หลังนั่งประธานบอร์ดAECS

1,168

 

 

 HotNews: บล. คันทรี่ กรุ๊ป พยัคฆ์ติดปีกร่วมเป็นสมาชิก GAP 

-เปิดใจ “ สมบัติ นราวุฒิชัย ” หลังนั่งประธานบอร์ดAECS


  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(  21 กันยายน  2560 ) ---------บล.  คันทรี่ กรุ๊ป กลายเป็นพยัคฆ์ติดปีก หลังร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายที่ปรึกษาการเงินระดับโลก Global Alliance Partners “ดร.วีรพัฒน์ เพชรคุปต์” มั่นใจตอบโจทย์การลงทุนของลูกค้าได้อย่างครบวงจร เผยเตรียมเข้าร่วมสัมมนาประจำปีของ GAP ในเดือน พ.ย.นี้ โชว์ศักยภาพโบรกเกอร์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีการให้บริการด้านการลงทุนอย่างหลากหลาย ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้-อนุพันธ์-กองทุนส่วนบุคคล เป็นต้น
เปิดใจ “ สมบัติ นราวุฒิชัย ” หลังนั่งประธานบอร์ดAECS   พร้อมลุยขับเคลื่อนธุรกิจโบรกเกอร์ เปิดวิสัยทัศน์หลังกลับมานั่งบริหารธุรกิจหลักทรัพย์อีกครั้ง เตรียมเพิ่มช่องทางขยายฐานลูกค้ากลุ่มสถาบัน -รายย่อยเพิ่ม พร้อมอัดโปรดักส์ใหม่ๆ ซัพเพอร์ตความต้องการลูกค้าให้ทันยุค Digital ทั้ง BLOCK TRADE และ AI.TRADE ส่วนIPO จ่อนำเข้าเทรดในปีนี้อย่างน้อย 2 บริษัท และยื่นไฟลิ่งต่อ ก.ล.ต. อีก 2 บริษัท เชื่อโค้งสุดท้ายปีนี้ดัชนีหุ้นคึก ล้นทดสอบ 1,700 จุดต้นปีหน้า 

ดร. วีรพัฒน์ เพชรคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก Global Alliance Partners (GAP) เครือข่ายที่ปรึกษาทางการเงินระดับโลก ซึ่งมีสำนักงาน 60 แห่ง ใน 20 ประเทศ ดำเนินธุรกิจใน 120 ประเทศ มีการทำธุรกรรมบริษัทกว่า 1,000 รายการ และมีเงินทุนกว่า 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สมาชิก GAP มีการซื้อขายหุ้นและทำธุรกรรมข้ามประเทศที่หลากหลาย มีการควบรวมกิจการ (M&A) กว่ามูลค่ากว่า 47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการระดมทุนในหลายประเทศ ทั้งในส่วนของประเทศที่กำลังพัฒนา ในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ยุโรป และฮ่องกง 

ทั้งนี้ การเป็นสมาชิกของ GAP จะเพิ่มอีกแง่มุมหนึ่งให้กับธุรกิจของเราคือ คู่ค้าต่างประเทศและเครือข่ายทั่วโลกตอนนี้เราอาจจะนำเสนอลูกค้าของเราได้มากยิ่งขึ้น การเข้าร่วม GAP ช่วยให้ บล. คันทรี่ กรุ๊ป สามารถเข้าถึงเครือข่ายนายหน้าการลงทุน ผู้จัดการกองทุนที่ปรึกษาด้านความมั่งคั่งและผู้ค้าหลักทรัพย์ทั่วโลก ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร และทำให้บริษัทฯ ได้รับความเชื่อมั่นใจลูกค้า หรือนักลงทุนในต่างประเทศ ถือเป็นการขยายโอกาส และเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ”
ทั้งนี้ บล. คันทรี่ กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาการลงทุนชั้นแนวหน้าของเมืองไทย มีฝ่ายการตลาดและทีมวิเคราะห์ที่แข็งแกร่งและครอบคลุมทั้งตลาดตราสารหนี้และตราสารทุนการให้คำแนะนำทางการเงินการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ กองทุนส่วนบุคคลและบริการซื้อขายหลักทรัพย์ มีทั้งหมด 7 สาขาทั่วประเทศ

นอกจากนี้ การเป็นสมาชิกของ GAP ยังเป็นประโยชน์ให้กับธุรกิจในเครือของ บมจ. คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (CGH) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) บริษัท ผาแดง อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (PDI) บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CGD) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เจ้าของโครงการ “เจ้าพระยา เอสเตท” บนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มูลค่าโครงการกว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ที่จะกำหนดแล้วเสร็จในปี 2561 ให้เป็นที่รู้จักของนักลงทุนทั่วโลก
        ขณะเดียวกัน บล. คันทรี่ กรุ๊ป เตรียมเข้าร่วมการประชุมร่วมกับนักลงทุนของ GAP ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างกลางเดือนพฤศจิกายน 2560 ที่จะถึงนี้ ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มบริษัท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุนในต่างประเทศทั่วโลก 
ขณะที่ นายเบอร์นาร์ด ไพบูลย์ ประธาน GAP กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บล. คันทรี่ กรุ๊ป และในเครือได้เข้าเป็นสมาชิกของ GAP ทำให้มีโอกาสในการทำธุรกิจร่วมกันไม่ว่าจะเป็นในส่วนของธุรกิจโรงแรม กองทุนรวม โรงเรียน ศูนย์ข้อมูลผู้จัดการสินทรัพย์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พลังงานแสงอาทิตย์ และการจัดการของเสีย ซึ่งมั่นใจว่ากลุ่มนักลงทุนประเทศสมาชิกจะให้การต้อนรับ และเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนของการลงทุนในระยะยาว


นายสมบัติ นราวุฒิชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จํากัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยภายหลังการเข้ารับตำแหน่งกรรมการ และประธานกรรมการบริหารว่า ภาพรวมธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์)ในปัจจุบันมีการแข่งขันเข้มข้น และมีการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับใน 5-10 ปีที่ผ่านมา และมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจโบรกเกอร์เพิ่มขึ้น จนปัจจุบันมีเกือบ 40 บริษัทด้วยกัน สอดคล้องกับการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศจากการขับเคลื่อนของโนบายภาครัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชน 
ดังนั้นมองว่ากลยุทธ์การดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนให้ บล. AECS มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นคงในระยะยาวนั้น ควรให้ความสำคัญระหว่างลูกค้าสถาบัน และรายย่อยควบคู่กันไป พร้อมทั้งการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ เสริมจุดแข็งในด้านของเครื่องมือโปรแกรมเทรดต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในยุคเทคโนโลยีข่าวสารในปัจจุบัน ซึ่งสังเกตได้ว่ากลุ่มลูกค้าสถาบันมีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 7% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนมีความรู้ความเข้าในในการลงทุน และการจัดตั้งกองทุนที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการลงทุนที่หลายหลายมากขึ้น ในขณะที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยกลับลดลงบ้างแต่ไม่มาก 
อีกทั้งเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้จากการผลักดันบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้จำนวน 2 บริษัท และอยู่ระหว่างรอยื่น    ไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ อีกประมาณ 2 บริษัท โดยคาดว่าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ ได้ต้นปี 2561 
    “ บล.เออีซี มีความแข็งแกร่งในส่วนของทีมงานที่มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญทั้งในส่วนของฝ่ายวาณิชธนกิจ ฝ่ายวิจัย  ฝ่ายเจ้าหน้าที่การตลาด ที่มีประสบการที่ยาวนาน และเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เพราะทุกคนมีประสบการณ์ในการทำงานอย่างยาว ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดแข็งของเราที่จะขับเคลื่อนบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้าให้เติบโตอย่างมั่นคง ” นายสมบัติ กล่าว 
ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จํากัด (มหาชน) หรือ AECS  กล่าวเพิ่มว่า นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมการพัฒนาระบบใหม่ๆรองรับการซื้อขายหลักทรัพย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า อาทิ BLOCK TRADE ที่เป็นตัวช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม Set 100 และอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบเทรด AI. Trade ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะตอบโจทย์ลูกค้าด้านการลงทุนของบริษัทได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
สำหรับแนวโน้มทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2560 คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สามารถยืนเหนือระดับ 1,600 จุด และมีโอกาสไปทดสอบที่ระดับ 1,700 จุดได้ในช่วงต้นปี 2561 ได้ ซึ่งเกิดจากปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีความชัดเจนมากขึ้น หนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนเพิ่มขึ้น 
“ ช่วงก่อนสิ้นปีนี้จนถึงปีหน้า คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในปะเทศจะมีการทิศทางการปรับตัวที่ดีขึ้น เกิดจากนโยบายการลงทุนของภาครัฐ และแนวทางการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปลายปี 2561 ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่น และกลับเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้น” นายสมบัติกล่าว
 ดังนั้นจึงมั่นใจในจุดแข็งของบล.เออีซี ที่มีอยู่ และพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ พร้อมกับให้ความสำคัญการบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล ถือเป็นการเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในระยะยาวได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง

----จบ----
 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

อ่อนตัว By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ พรุ่งนี้ ประเทศไทย เข้าสู่ฤดูฝน ตอนนี้แถว รัชดาฯฝนตก อากาศเย็นสบาย นั่งมองหุ้นหลาย....

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้