Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: BANPU ทุ่ม 1.86 พันลบ.ซื้อหุ้นSunseap 25.7% -CHEWA มั่นใจปีนี้มีกำไร เบนเข็มลุยแนวราบ

1,210

 


HotNews:  BANPU  ทุ่ม 1.86 พันลบ.ซื้อหุ้นSunseap 25.7%

-CHEWA มั่นใจปีนี้มีกำไร  เบนเข็มลุยแนวราบ 

  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19กันยายน2560)-------BANPU รุกพลังงานสะอาด ใช้ บ้านปู อินฟิ เนอร์จี  1.86 พันลบ. ซื้อหุ้นเพิ่มทุนSunseap 25.7% ส่งผลให้กลายเป็นหุ้นใหญ่  ระบุ Sunseap  เป็ผู้นำในธุรกิจพลังงานสะอาดรายใหญ่ในประเทศสิงคโปร์
CHEWA มั่นใจปีนี้มีกำไร แม้ครึ่งปีแรกขาดทุน 9.15 ลบ. -คาดรายได้เข้าเป้า 2 พันลบ. ช่วงที่เหลือของปีนี้เปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 960 ลบ.  เตรียมซื้อที่ดิน 3 แปลง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดใช้งบลงทุน 700-800 ลบ.  พร้อม ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้แนวราบเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี62 จากปัจจุบันยังค่อนข้างน้อย  

นางสมฤดี  ชัยมงคล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.บ้านปู BANPU เปิดเผยว่า  บริษัท บ้านปู อินฟิ เนอร์จี จำกัด “BPIN”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายผ่านบริษัทลูก BPINInvestment Co., Ltd. เพื่อทำการเข้าซื้อหุ้นจำนวนร้อยละ 25.7 โดยเป็นหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ ในบริษัท SunseapGroup Pte Ltd. (“Sunseap”) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการพลังงานสะอาดแบบครบวงจร ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ การลงทุนครั้งนีมี้มูลค่าประมาณ 75 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (หรือเทียบเท่าประมาณ 55.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,860 ล้านบาท) 
ความสาเร็จของการซื้อหุ้นครั้งนี้ขึ้น อยู่กับเงื่อนไขบังคับก่อนบางประการ
ภายหลังการซื้อหุ้นลุล่วงแล้ว จะมีผลให้ BPIN Investment เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัท Sunseap เป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานสะอาดรายใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ ฐานลูกค้าประกอบด้วยหน่วยงานรัฐบาล สถาบันการศึกษาและบริษัทต่างๆ นอกจากนี้ยังมีโครงการลงทุนในธุรกิจเดียวกันในอีกหลายประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย กัมพูชา อินเดีย มาเลเซีย ไทย และ เวียดนาม ปัจจุบัน Sunseap มีกำลังการผลิตประมาณ 93.3 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มขึ้นป็นประมาณ 182.9 เมกะวัตต์จากโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาการร่วมทุนกับบริษัท Sunseap ในครังนี้นับเป็นก้าวธุรกิจที่สำคัญสำหรับ BPIN ในการขยายการลงทุนไปยังประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตในธุรกิจพลังงานสะอาด สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบ้านปูฯ ในการพัฒนาสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านพลังงานอย่างเต็มรูปแบบ 
ทั้งนี้ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่คล้ายกันของ BPIN และSunseap จะทำให้เกิดการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายในด้านการให้บริการครบวงจรด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า
ภายใต้การเป็นพันธมิตรครั้งนี้ จะมีการถ่ายทอดโนว์ฮาวและประสบการณ์ของ Sunseap จากการให้บริการลูกค้ายักษ์ใหญ่หลายรายในสิงคโปร์ ทั้งหน่วยงานรัฐบาล สถาบันการศึกษา และบริษัทชั้นนำระดับโลก อาทิ Apple, คณะกรรมการพัฒนาที่อยู่อาศัยแห่งสิงคโปร์ หรือ Housing Development Board, โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์อเมริกัน, สถาบันราฟเฟิลส์, กลุ่มเครือบริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยี, ท่าเรือจูร่ง, เอบีบี และพานาโซนิค ต่อยอดมาสู่ลูกค้าบ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ในประเทศไทย
        นอกจากการเร่งขยายตลาดในไทยแล้ว บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ให้ความสำคัญในการเสริมรากฐานบริษัทให้มั่นคงและแข็งแกร่งด้วยความชำนาญ เพื่อสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในไทย ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เกิดจากการที่บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ และ Sunseap Group  มีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจและวิสัยทัศน์ตรงกันในการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาผนวกกับการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ การให้ความสำคัญในการบริการ และการดูแลระบบ พร้อมผนึกจุดแข็งของทั้งสองฝ่ายในด้านเครือข่ายทางธุรกิจและประสบการณ์ด้านพลังงาน เพื่อมุ่งพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาดแก่ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และสังคม 
          ทั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ BPIN ในการเข้าไปสู่ประเทศที่มีรูปแบบการทำธุรกิจพลังงานที่ทันสมัยและมีศักยภาพการเติบโตในธุรกิจพลังงานสะอาด สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบ้านปูฯ Greener & Smarter ที่มุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นบริษัทชั้นนำด้านพลังงานอย่างครบวงจร  อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตลาดต่างประเทศของบ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ต่อไปในอนาคต
          การลงทุนครั้งนี้จะทำให้บ้านปู อินฟิเนอร์จีฯ ได้สัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีก 47 เมกะวัตต์ จากโครงการที่ได้เซ็นสัญญาแล้ว เสริมแกร่งการเดินหน้าสู่เป้าหมายการผลิต 300 เมกะวัตต์ ที่ตั้งไว้ในอีก 5 ปีข้างหน้า

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่าบริษัทมั่นใจว่าในปีนี้จะมีกำไรแม้ในช่วงครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุนอยุ่ที่ 9.15 ล้านบาท เนื่องจากผลขาดทุนดังกล่าวมาจากการดำเนินงานในช่วงไตรมาส1/60 ที่มีผลขาดทุนอยู่ที่  31.62  ล้านบาท จากผลกระทบในช่วงไตรมาส4/59 ที่บริษัทไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมเข้ามา 
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ต่างๆเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ตั้งแต่ไตรมาส 2/60 ประกอบภาพรวมของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นจากจำนวนลูกค้าที่เข้าชมโครงการของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทคาดว่าความต้องการซื้อยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ โดยบริษัทประเมินว่ารายได้ในปีนี้จะเป้นไปตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้หรือจะอยู่ที่ 2 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้  1.29 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังมียอดรอรับรู้ราย(Backlog)อยู่ที่ 2.26 พันล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้ 1.4 พันล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทคาดว่าจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 960 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการร่วมทุนกันกับคอนโดแมน ซึ่งได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุน "บริษัท ชีวา ฮาร์ท จำกัด" เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์โฮม เจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน จำนวน 2 โครงการมูลค่ารวม 360 ล้านบาท และโครงการที่บริษัทลงทุนเอง  1 โครงการ มูลค่าราว 700 ล้านบาท 
ทั้งนี้ช่วงที่ครึ่งปีแรกบริษัทได้เปิดไปแล้ว 1 โครงการ คือโครงการชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง มูลค่าโครงการ 490 ล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทเตรียมซื้อที่ดินอีก 3แปลง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าจะงบลงทุนราว 700 -800 ล้านบาท
ทั้งนี้ปีนี้บริษัทได้ตั้งไว้สำหรับซื้อที่ดินไว้ที่  1 พันล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้ไปแล้ว 200 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดิน  1 แปลง 
สำหรับการซื้อโครงการต่างๆอย่างบ้านเดี่ยว,คอนโดมิเนียม ,โรงแรมที่ผ่านมามีผู้มาเจรจราอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1-2 โครงการ/เดือน แต่บริษัทประเมินว่ายังไม่มีโครงการที่น่าสนใจและให้ผลตอบแทนที่คุ้มทุน จึงยังไม่ตัดสินใจลงทุน 
นอกจากนี้ บริษัทได้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากแนวราบเพิ่มขึ้นเป็น 50 %    ในปี 62 จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบอยู่ที่ค่อนข้างน้อยหรืออยู่ที่ 10 %    ทั้งนี้บริษัทจะมุ่งเปิดโครงการแนวราบให้มากยิ่งขึ้นเพื่อมาช่วยในกระจายความเสี่ยง จากที่ผ่านมามีโครงการคอนโดมิเนียมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบริษัทประเมินว่าในปี 61 จะเริ่มเห็นสัดส่วนรายได้ของแนวราบที่เพิ่มมากขึ้นคาดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 25% 
“มีความชัดเจนมากขึ้นว่าปีนี้ บริษัทฯ เริ่มกระจายสัดส่วนของพอร์ตโครงการแนวราบ-คอนโด ให้มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน และครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้  จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะทำให้ผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทฯ  มีความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละอย่างน้อย 20%  ซึ่งบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจให้เติบโตมากกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนปีนี้คาดว่ารายได้จะยังคงเติบโตตามเป้าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 50% ”นายบุญ ชุน เกียรติกล่าว
นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ  CHEWA  กล่าวเพิ่มเติมว่า นับต่อจากนี้ธุรกิจของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ ดำเนินธุรกิจได้ตามแผนที่วางไว้ โดยหันมาพัฒนาโครงการแนวราบและเพิ่มสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบเป็น 50% ซึ่งโครงการแรกที่เปิดตัว คือ โครงการชีวารมย์ รังสิต-ดอนเมือง ที่พึ่งได้รับรางวัล Highly Commended จาก Thailand Property Award 2017  และเริ่มพัฒนาที่ดินย่านพุทธมณฑลสาย 1 เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักซ์ชัวรี่ รวมถึงยังมีโครงการย่านคลอง 4 เพื่อพัฒนาเป็นทาวน์โฮมอีกด้วย
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จพร้อมรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์  อโศก และ โครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ  ที่พึ่งได้รับรางวัล Highly Commended จาก Thailand Property Award 2017 และโครงการแล้วเสร็จพร้อมโอนในปี 2561 อีก 4 โครงการ ซึ่งมี 1 โครงการ คือชีวาทัย เพชรเกษม 27 ที่ได้รับรางวัล Highly Commended จาก Thailand Property Award 2017 เช่นกัน รวมถึงการร่วมลงทุนจัดตั้ง บริษัท ชีวา ฮาร์ท จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์โฮม 3.5 ชั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิงหาคม 2018
อีกทั้งยังได้ร่วมทุนกับบริษัท นายณ์ เอสเตท จำกัด,บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ ,บมจ.ช.การช่าง ร่วมลงทุนเพื่อพัฒนา “กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง” โครงการที่พักอาศัยระดับลักชัวรี เพื่อการใช้ชีวิตในวัยเกษียณแห่งใหม่ของเอเชียที่จังหวัดภูเก็ต มูลค่ารวม 3,500 ล้านบาท  เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2018

 

----จบ--- 
 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ไต่เส้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ มองดูหุ้นไทยไต่เส้น แถว 1370 +/- แบบพยาบามฝ่าด่าน 1380 จุด โดยเช้านี้ พี่ DELTA..

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้