Today’s NEWS FEED

News Feed

ASIAN ปั้นแบรนด์ใหม่อาหารสัตว์พรีเมี่ยม 'มองชู' ตั้งเป้าโกยยอดขาย 200 ลบ. ใน 3 ปี

3,370

ASIAN ปั้นแบรนด์ใหม่อาหารสัตว์พรีเมี่ยม 'มองชู'
ตั้งเป้าโกยยอดขาย 200 ลบ. ใน 3 ปี

 

ASIAN  ปั้นแบรนด์ใหม่อาหารสัตว์พรีเมี่ยม 'มองชู' ตั้งเป้าโกยยอดขาย 200 ลบ. ใน3 ปี   คาดใช้งบสร้างแบรนด์'มองชู'ราว 50 ลบ.  เจาะกลุ่ม Pet Shop - โรงพยาบาลสัตว์ -โมเดิร์นเทรดกลุ่มพรีเมี่ยม  ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้อาหารสัตว์Value added  เกิน 40% ภายใน 3 ปี (62-64) จากปัจจุบัน 33%  พร้อม วางงบลงทุนปี 62 ราว 500 ลบ. ใช้สร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ -ปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร-รองรับขยายธุรกิจในจีน 

 

 

 

นายเฮ็นริคคัส แวน เวสเทนดร็อป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN ผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่เยือกแข็ง, ผลิตภัณฑ์ทูน่าบรรจุกระป๋อง, ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยม (Premium Wet Pet food) และผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประกาศแผนการรุกตลาดผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2562 เปิดตัวแบรนด์ใหม่ “มองชู” (monchou) เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

 

“มองชู” (monchou) นับเป็นการรุกตลาดภายใต้แบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงของ ASIAN ครั้งแรก ชูจุดแข็ง ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญจากการเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบพรีเมี่ยมรายใหญ่ ที่มีมาตรฐาน และได้รับการยอมรับในตลาดอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น สนับสนุนให้ยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นทุกปี ณ สิ้นปี 2561 มีสัดส่วนรายได้ราว 35 % ของยอดขายทั้งหมด ทำให้มั่นใจได้ว่า แบรนด์ “มองชู” (monchou) เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง จัดอยู่ในเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งส่วนผสมในอาหารสัตว์เลี้ยง ได้รับการวิจัยและพัฒนาขึ้นอย่างพิถีพิถัน ด้วยทีมวิจัยอาหารสัตว์เลี้ยงที่มากด้วยประสบการณ์ของบริษัทฯ

 


“ในปี 2562 เราประกาศแผนการบุกตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงเต็มกำลัง ปั้นแบรนด์ใหม่ของตัวเอง ในชื่อ “มองชู” (monchou) จากก่อนหน้านี้ เราพัฒนาอาหารธุรกิจสัตว์เลี้ยง และเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงให้แบรนด์ดังในต่างประเทศมากมาย แบรนด์นี้ จะแสดงให้เห็นศักยภาพของ Asian และทำให้คุณภาพของสินค้าเป็นที่รู้จัก เราใส่ใจเรื่องสุขภาพของสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก ต้องการให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง และปลอดภัย โดยแบรนด์มองชู ผลิตจากวัตถุดิบเนื้อสัตว์แท้ 100% คุณภาพพรีเมี่ยมเกรด และ Grain free ปลอดจากข้าว ข้าวโพด แป้งสาลี ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าสัตว์เลี้ยงจะได้สัมผัสรสชาติที่ อร่อย สุขภาพดี ด้วยเมนูที่เต็มเปี่ยมคุณค่าทางโภชนาการอย่างเหมาะสม เพื่อมอบความสุขในทุกๆ มื้อ ให้กับสัตว์เลี้ยงของคุณภายใต้สโลแกน “เสิร์ฟความสุขในทุกวัน ….ให้กับเค้าที่คุณรัก “ Serve the best for your pet” นายเฮ็นริคคัส กล่าว

 


นายจิรชาญ คัมภิรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอเชี่ยน กรุ๊ป เซอร์วิส จำกัด ผู้พัฒนาทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศของผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มของ Asian เปิดเผยว่า จากข้อมูลสถิติย้อนหลัง 10 ปี ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยเติบโต 10-25% ต่อปี ซึ่งในปี 2562 คาดว่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงจะมีมูลค่ารวมอยู่ประมาณ 36,000 ล้านบาท เติบโตอยู่ที่ 10% โดยตลาดกลุ่มอาหารสัตว์พรีเมี่ยมจะอยู่ที่ 4,600 ล้านบาท ซึ่ง Asian เห็นเป็นโอกาสในการขยายฐานธุรกิจ

 

 


แบรนด์ “มองชู” (monchou) ตั้งเป้ายอดขาย 200 ล้านบาท ภายใน 3 ปีแรก ผ่านการสร้างแบรนด์และจัดกิจกรรมทางการตลาดทั่วประเทศ รวมถึง CLMV คาดว่าจะใช้งบประมาณ ในการสร้างแบรนด์ราว 50 ล้านบาท โดยเจาะกลุ่มร้านค้าประเภท Pet Shop โรงพยาบาลสัตว์ และช่องทางโมเดิร์นเทรดกลุ่ม พรีเมี่ยมเป็นหลัก รวมทั้งเสริมช่องทางการจำหน่าย ขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดออนไลน์ด้วย

 

 

สำหรับในไตรมาสแรก บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ “Everyday monchou” เพื่อโปรโมทแบรนด์ภายใต้ concept “เสิร์ฟความสุขในทุกวัน….ให้กับเค้าที่คุณรัก” “Serve the best for your pet” แคมเปญนี้มุ่งเน้นทั้งสื่อ online และ offline ในการสร้าง Engagement กับลูกค้ากลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงระดับพรีเมี่ยม

 

สำหรับตลาดประเทศจีน เมื่อเดือนตุลาคม 2561 บริษัทฯ ได้ดำเนินการ Pre-Launch ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ “มองชู” (monchou) เป็นที่เรียบร้อยแล้วในประเทศจีนและได้รับการตอบรับที่ดี จึงประเมินศักยภาพการเติบโตของผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในประเทศจีนค่อนข้างสูง เนื่องจากในปัจจุบัน ลักษณะที่อยู่อาศัยและการใช้ชีวิตของชาวจีนส่งเสริมให้มีจำนวนผู้รักสัตว์เพิ่มขึ้น สะท้อนจากการขยายเมืองใหม่อย่างต่อเนื่อง และมีรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย สะดวกสบายและรองรับไลฟ์สไตล์เลี้ยงสัตว์ภายในครอบครัว ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะแถลงแผนการตลาดในประเทศจีนได้เร็ว ๆ นี้

 

 


พร้อมกันนี้ บริษัทฯเตรียมงบลงทุนในปี 2562 ไว้ประมาณ 500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นใช้ในการสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติ ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว และคาดว่าจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ พร้อมกันนี้บริษัทฯได้ใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ประมาณ 100 ล้านบาท และใช้ในการรองรับการขยายธุรกิจในจีน อีกประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีแผนที่จะจัดหาโรงงานผลิตสินค้าในจีน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ทันต่อตวามต้องการของลูกค้า และการเติบโตของตลาด และบริษัทฯ ยังได้มีการศึกษาที่จะเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้องด้วย

 


ทั้งนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เป็นประเภทเพิ่มมูลค่า หรือValue added มากขึ้น เนื่องจากมองว่าเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นดี และความต้องการของตลาดมากกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป หรือ คอมมูนิตี้ โดยบริษัทฯคาดว่าจะสัดส่วนของสินค้าValue added จะเกิน 40% ภายใน 3 ปี (2562-2564) จากปัจจุบันอยู่ที่ 33%

 

 

 

"จากผลสำรวจภาพรวมอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยปัจจุบันมีมูลค่ารวมกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท และเป็นของส่วนพรีเมี่ยม 4.6 พันล้านบาท และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเติบโตขึ้นอีก 10-25% ดังนั้นเรามองว่ามันมีรูมอีกเยอะ" นายเฮ็นริคคัส กล่าว

 

นายเฮ็นริคคัส กล่าวว่า บริษัทฯได้ตั้งเป้าที่จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ขึ้นเป็นหนึ่งในห้าอันดับในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนภายใน 3 ปี และจะเป็นหนึ่งในสิบอันดับของโลกภายใน 5 ปี

 

อย่างไรก็ตามจากกรณีที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า บริษัทฯยอมรับว่าเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบกับบริษัทฯ แต่บริษัทฯก็ได้มีการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน โดยการประกันค่าเงินในระยะสั้นไว้ ซึ่งก็สามารถช่วยลดผลกระทบในระยะสั้นได้ และเชื่อว่าบริษัทฯมีความสามารถที่จะบริหารจัดการได้ ส่วนในระยะยาว บริษัทฯก็ได้มีการทำประกับกับลูกค้าไว้ว่าจะมีการปรับราคาขายได้

 


สำหรับภาพรวมรายได้ของบริษัทฯในปีนี้ จะมาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งโดยบริษัทฯจะประกาศแผนการดำเนินงานของปี 2562 อีกครั้งในงานผู้บริหารพบปะนักลงทุน ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งต้องรอสรุปงบของปี 2561 ก่อน ซึ่งเตรียมจะประกาศผลประกอบการในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ โดยเบื้องต้นบริษัทฯตาดว่ารายได้ของธุรกิจอาหารสัตว์ในปีนี้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งของบริษัทฯ และบริษัทฯจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ระดับ 10-12% ซึ่งเป็นไปตามแผนระยะ 5 ปีของบริษัทฯ และในปีก่อนบริษัทฯก็สมารถรักษาอยู่ในระดับนี้ได้เช่นกัน

 

ASIAN 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

GUNKUL ลุยขยายพอร์ตพลังงานทดแทน

ติดตาม By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ หลังจาก นายกฯคุยกับนายแบงก์ วันนี้ สมาคมธนาคารไทย ก็ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้