สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (9 มกราคม 2562)
JWD ตั้งเป้าปี 62 รายได้โต 15-20% จากทุกกลุ่มธุรกิจโตหนุน มั่นใจปี62 ขยายการลงทุนครบทุกประเทศในอาเซียน เล็งลุยโลจิสติกส์เวียดนาม ในQ1/62 -จ่อรุกฟิลลิปปินส์ ราวQ2/62 ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ตปท. แตะ 25% ในปี63 จากปีนี้คาดอยู่ที่ 12-13% ยิ้มรับธุรกิจห้องเย็น รับอานิสงส์หลัง EU ปลดใบเหลืองนำเข้าสินค้าประมงของไทยแล้ว
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) JWD เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี2562 เติบโต15-20% จากปีก่อน โดยปีนี้จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวรายได้จากการลงทุนที่บริษัทฯ ได้มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยธุรกิจห้องเย็น, ธุรกิจรับจัดเก็บเอกสารและข้อมูล,ธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย ,ธุรกิจรับขนย้าย อีกทั้งจะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจอาหาร หลังบริษัทฯ เข้าลงทุนใน CSLF บริษัทผู้ประกอบธุรกิจให้บริการอาหาร (Food Service) ในประเทศไต้หวัน และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก PPSEZ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศกัมพูชาด้วย
" คิดว่าปี 2019 ผลประกอบการเราน่าจะดีกว่าปี 2018 แน่นอน ส่วนฐานกำไรเราตั้งเป้าให้ดีขึ้นเรื่อยๆ" นายชวนินทร์ กล่าว
ขณะที่คาดว่าปี 2562 บริษัทฯ จะขยายการลงทุนครบทุกประเทศในอาเซียน โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีการขยายการลงทุนในประเทศอาเซียนแล้ว ประมาณ 5 ประเทศ ประเทศเมียนมา ,ลาว, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์ เป็นต้น ทั้งในรูปแบบการลงทุนเอง และการร่วมทุน โดยปีนี้บริษัทฯ เตรียมขยายการลงทุนไปสู่ประเทศเวียนนาม โดยจะดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่าจะมีความชัดเจนถึงแผนการลงทุนได้ในไตรมาส 1/2562 ขณะที่มีแผนจะขยายการลงทุนในฟิลิปปินส์ด้วยโดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส2/2562
สำหรับกรณีที่ สหภาพยุโรป (EU) ยกเลิกคำสั่งเตือนนำเข้าผลิตภัณฑ์ประมงจากไทย คาดว่าประเด็นนี้จะส่งผลดีให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการประมง โดยในส่วนของบริษัทฯ มีธุรกิจห้องเย็น ซึ่งปัจจุบันมีคลังห้องเย็นอยู 3 แห่ง รวมพื้นที่คลังสินค้าให้บริการประมาณ 100,000 ตัน ขณะที่มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยกว่า 90% และในเดือนพฤษภาคม 2562 นี้ บริษัทฯ มีแผนจะเปิดคลังห้องเย็นที่มหาชัย เพิ่มอีก 1 แห่ง พื้นที่คลังสินค้าให้บริการประมาณ 15,000 ตัน ส่งผลให้บริษัทฯ จะมีพื้นที่คลังสินค้าให้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 150,000 ต้น
นายชวนินทร์ กล่าวเพิ่มเติมถึง แผนการลงทุนในปี2562 ว่า ปีนี้อาจจะไม่ได้มีการลงทุนขนาดใหญ่เพิ่มเติม แต่มองว่าน่าจะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวการลงทุน รวมทั้งไม่มีแผนขายสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้าห้องเย็นเข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์((REIT) เนื่องจากมีการขายสินทรัพย์เข้ากอง AIMIRT ไปแล้วในปีก่อน ส่วนการขยายการลงทุนในต่างประเทศ ปีนี้คาดว่าจะครบทุกประเทศในอาเซียน โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าในปี 2563 สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นแตะ 25% จากปีนี้ (2562) คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 12-13%
ส่วนปัญหาสงครามการค้า ระหว่างประเทสสหรัฐฯ และจีน เชื่อว่าคงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานลูกค้าทั้งในกลุ่มของประเทศสหรัฐฯ และจีน แต่หากสถานการณ์สงครามการค้ามีความคลี่คลายก็จะส่งผลดีต่อทุกอุตสาหกรรมด้านแนวโน้มดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมในการรับมือโดยมีการเข้าไปเจรจากับธนาคารพาณิชย์ เพื่อบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ ประมาณ 1 เท่า
กูรู KS แนะซื้อ JWD
ชี้มี upside 33.57%
บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ออกบทวิเคราะห์ หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ยังชอบ JWD ในทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน จากการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาที่กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว ทั้งจากฐานธุรกิจที่หลากหลายทำให้มีความผันผวนต่อทิศทางเศรษฐกิจที่ไม่มาก นอกจากนี้การลงทุนในเวียดนามจะเป็นฐานธุรกิจใหม่ที่จะทำให้บริษัทสามารถเสนอบริการที่ครบวงจรในภูมิภาค โดยบริษัทคาดหวังจะสามารถสรุปการลงทุนนี้ได้ในอนาคตอันใกล้ หลังจากนั้นจะใช้ธุรกิจอาหารเป็นหัวหอกสำหรับการสร้างฐานธุรกิจในประเทศอื่นๆ เนื่องจากใช้เงินลงทุนไม่มากแต่สามารถสร้างกำไรได้ทันที
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/2561 เราคาดกำไรปกติเติบโต 18.8% YoY แต่ลดลง 0.4% QoQ แต่หากรวมกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้า AIMIRT คาดกำไรจะลดลง 83.0% YoY แต่เพิ่มขึ้น 13.3% QoQ เป็น 79 ลบ. ในเชิงมูลค่าบริษัทซื้อขายในระดับ 12M Fwd PER ที่ -1SDV และ 12M Fwd PBV ที่ -1.5SDV ซึ่งถือว่าไม่แพง กอรปกับ upside จากราคาเป้าหมายของเราที่ 33.57% เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 9.35 บาท/หุ้น
JWD