Today’s NEWS FEED

News Feed

Hotnews : STI - TQM ไม่หวั่นกระแส IPO ขาลง เทรด ธ.ค. นี้

3,064

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (6 ธันวาคม 2561)

เรียกได้ว่าในระยะหลังๆมานี้ จะเห็นได้ว่า หุ้น IPO ที่เข้ามาเทรดบนกระดาน ไม่ว่าจะเป็น SET หรือ mai ต่างก็พากันราคาเปิดต่ำกว่าราคาจองมาหลายบริษัทแล้ว จนหลายๆคนมองว่า หรือนี่จะเป็นช่วง IPO ขาลง ซึ่งงานนี้ก็ทำเอานักลงทุนกระเป๋าฉีกกันเป็นแถวเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็แล้วแต่ก็ยังมีหุ้นที่มีจิตใจกล้าหาญ พื้นฐานธุรกิจแกร่ง เตรียมที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ส่งท้ายปี 2561 กันอีกมากมาย ได้แก่ บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI และบริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ที่คาดว่าจะเข้าเทรดภายในเดือนธันวาคมนี้อย่างแน่นอน

6 ธ.ค. ดีเดย์ STI เตรียมเซ็นอันเดอร์ไรส์ ขาย IPO 68 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรด mai ธันวานี้ ด้าน TQM เตรียมเซ็นอันเดอร์ไรส์ ขาย IPO ไม่เกิน 75 ล้านหุ้น 11 ธ.ค. นี้ วงการโบรกฯคาดเข้าเทรดบนกระดาน SET ภายในธ.ค.นี้

 

มากันที่บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างและให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม, งานตกแต่งภายใน และงานอนุรักษ์โบราณสถาน เตรียมที่จะลงนามแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ STI ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2561 เวลา 10.00 – 12.00 น. ณ ห้องประชุม 601 ชั้น 6 อาคาร B ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นไปตามแผนการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 68 ล้านหุ้น และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในปีนี้

 

ทั้งนี้ STI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 68,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 25.37% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะทำให้ STI มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วอยู่ที่ 134,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 268,000,000 หุ้น

 

สำหรับการระดมทุนในครั้งนี้ วางแผนจะนำไปลงทุนจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทักษะความรู้พนักงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ ประมาณ 40 ล้านบาท ลงทุนอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์โปรแกรมด้านการออกแบบ ควบคุมงานก่อสร้าง และการเงิน-การบัญชี ประมาณ 30 ล้านบาท ลงทุนงานระบบและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ประมาณ 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และเงินทุนในการเข้าลงทุนในกิจการอื่นๆ เพิ่มขีดความสามารถของกลุ่ม STI ให้ได้มาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งในประเทศไทยและในระดับภูมิภาคต่อไป

 

นอกจากนี้ กลุ่ม STI เป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างและให้บริการอย่างครบวงจร มีสัดส่วนรายได้ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 จำแนกตามส่วนงานของกลุ่ม STIแบ่งป็น 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง 88.82% และรายได้จากธุรกิจออกแบบ สถาปัตยกรรม และวิศวกรรม 11.18% ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมด

 

ด้าน นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยว่า ผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – มิถุนายน) กลุ่ม STI มีรายได้จากการให้บริการ 277.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.56% เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 อยู่ที่ 215.63 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง มีปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น เช่น โครงการ One Bangkok โครงการ The PARQ โครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์ เป็นต้น สำหรับธุรกิจออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ได้งานโครงการออกแบบผังเมืองเข้ามาเพิ่มเติมในปีนี้ จากการได้รับว่าจ้างเป็นผู้ออกแบบผังเมืองในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) สำหรับจังหวัดชลบุรี

 

ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) จำนวน 716.53 ล้านบาท หรือประมาณ 100 โครงการ แบ่งเป็นงานที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 659.69 ล้านบาท และงานออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม จำนวน 56.84 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือดังกล่าวตามความสำเร็จของงาน ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 ไปจนถึง 2-3 ปีข้างหน้า จึงคาดว่าแนวโน้มธุรกิจในปีนี้จะสามารถเดินตามเป้าหมายที่วางไว้ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 494.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 57.51 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งบริษัทที่เตรียมที่จะลงนามแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน มาติดๆหลังจาก STI นั่นก็คือบริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM ผู้นำธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย และธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ตลอดจนธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และซอฟต์แวร์ และธุรกิจให้บริการคำแนะนำที่เกี่ยวกับประกันภัย ซึ่งจะลงนามฯในวันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561 เวลา 13.00-14.30 น. ณ หอประชุมศุกรีย์แก้วเจริญ ชั้น 3 อาคาร B ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง ซึ่งเป็นไปตามแผนการเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น เพื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขณะที่วงการโบรกเกอร์คาดว่า TQM จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่ได้เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้วจะทำให้ธุรกิจของบริษัทฯมีศักยภาพในการเติบโต และสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างเเข็งแกร่ง

 

ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้านำเงินจากการระดมทุนเพื่อปรับปรุง และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟท์แวร์ รับสังคมยุคดิจิทัล และรับการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันภัย ย้ำบริษัทฯ มีศักยภาพพร้อมเติบโต จากอุตสาหกรรมประกันภัยที่เติบโตต่อเนื่อง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย

 

สำหรับปัจจุบันบริษัทฯ แบ่งการดำเนินธุรกิจเป็น 4 ด้าน คือ ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ให้บริการผ่าน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (“TQM Broker”)โดยมีการขายผลิตภัณฑ์ประกันวินาศภัยทั้งสิ้นกว่า 130 ผลิตภัณฑ์ ทั้งในกลุ่มประกันรถยนต์ (Motor) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ และกลุ่มประกัน Non-Motor ในรูปแบบประกันอัคคีภัย ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และประกันวินาศภัยเบ็ดเตล็ด เป็นต้น , ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ดำเนินธุรกิจผ่าน บริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด (“TQM Life”) ซึ่งมีการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตทั้งสิ้นกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิตประเภทรายบุคคลและประกันชีวิตประเภทกลุ่ม ,ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ผ่านบริษัท แคสแมท จำกัด (“Casmatt”)

 

ซึ่งครอบคลุมการให้คำปรึกษาด้านกระบวนการทางธุรกิจ งานวิจัยตลาดดิจิตอล เป็นต้น และ ธุรกิจให้บริการด้านคำแนะนำเกี่ยวกับประกันภัย ผ่านบริษัท ทีคิวแอลดี จำกัด (“TQLD”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วม เพื่อเป็นช่องทางให้กับลูกค้าในการค้นหาและเปรียบเทียบข้อมูลประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดเวลา ผ่านรูปแบบการกรอกข้อมูลของลูกค้า ทั้งนี้ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทฯ มีพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกันภัยกว่า 40 แห่ง มีพนักงานขายที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าประกันภัยให้บริการกว่า 2,000 คน ผ่านสาขาและศูนย์บริการทั่วประเทศรวม 95 แห่ง ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมและทั่วถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย

 

ด้าน ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันทำให้โอกาสเติบโตมีมาก นอกจากนี้ อัตราการทำประกันภัยในประเทศไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน

 

โดยจากข้อมูลรายงานธุรกิจประกัน ประจำปี 2559 ของ สวีส รีอินชัวร์รัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันชั้นนำของโลก พบว่าธุรกิจประกันของประเทศในทวีปเอเชีย ประเทศไทย มีสัดส่วนเบี้ยประกันรับรวมทุกประเภทต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Insurance Penetration) ที่ร้อยละ 5.42 หากพิจารณา เบี้ยประกันภัยต่อคน (Insurance Density) พบว่า ประเทศไทยมีเบี้ยประกันภัยต่อคน (Insurance Density) เพียง 323.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน (GDP) ต่อจำนวนประชากร ต่ำกว่าประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้

 

ซึ่งผลดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมประกันที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกในอนาคต โดยกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้าประกันภัย จึงไม่มีความเสี่ยงด้านการดำรงเงินกองทุนฯและการบริหารผลตอบแทนจากเบี้ยประกันภัย

 

“ปัจจุบันรูปแบบการทำธุรกิจนายหน้าประกันภัยนั้นมีความท้าทายมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เห็นโอกาสนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้ดีมากยิ่งขึ้น จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินและรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยให้แก่บริษัทฯ อย่างยั่งยืน” ดร.นภัสนันท์กล่าว

 

STI       TQM

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

รอดเท่ากับไม่เทรด By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองไม่ค่อยเห็น ผู้ชนะในเกมหุ้น แต่นักลงทุนที่รอด ชัวร์ๆ นั่นคือ หยุดเทรด ไม่เทรด ไม่ซื้อขาย ...

มัลติมีเดีย

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

NER กางปีก..รับราคายางพาราพุ่ง - สายตรงอินไซด์ - 18 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้