(เพิ่มเติม) สัมภาษณ์พิเศษ : "ประเดช" กับภารกิจ
ปั้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ เข้าตลาดหุ้น
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 12 กันยายน 2560 ) ------- หากเอ่ยชื่อบริษัทพลังงานไซด์ใหญ่ ต้องมีชื่อของ บริษัทวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ที่ตอนนี้ยังอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ......ย้อนไปก่อนหน้านี้วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ เคยประกาศจะเข้าตลาดหุ้น ในปี 57 แต่แล้วแผนต้องมีอันสะดุดจากข้อพิพาท ของผถห.ใหญ่ ที่ตอนนี้กลายเป็นอดีต ผถห.ไปแล้วที่จนถึงวันนี้ข้อพิพาทยังไม่เป็นที่สิ้นสุด
จนกระทั่งวันหนึ่ง "ณพ ณรงค์เดช" ผู้ถือหุ้นใหญ่ เคพีเอ็น โฮลดิ้งส์ ได้ให้ "ประเดช กิตติอิสรานนท์" ชายผู้มีหัวใจรักในหุ้นพลังงานทดแทน เข้ามาช่วยร่วมกันทำงาน สานฝันวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ
วันนี้ "ประเดช "คือหนึ่งในกรรมการ วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ พร้อมเปิดใจ เปิดตัว เชิญติดตาม............
Q:การประชุมผู้ถือหุ้น "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา
การประชุมครั้งนี้ก็ราบรื่นครับ ผลได้เข้าประชุมทุกครั้งรู้สึกปัญหาค่อนข้างเยอที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้รู้สึกราบรื่นดีมาก
Q:มีวาระอะไรที่พิเศษหรือไม่
วาระพิเศษครั้งนี้ก็มีเรื่องการเพิ่มคณะกรรมการบริษัทโดยจะมีเพิ่มขึ้นมาอีก 3 ท่าน คือมีตัวผม และลูกสาว (นันทิดา กิตติอิสรานนท์ ) รวมทั้งมีกรรมการอิสระเข้ามาอีกท่านหนึ่งมาด้วย และก็จะมีวาระเรื่องการเปลี่ยนชื่อบริษัท จาก บริษัทวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) เป็น บริษัท เคพีเอ็น พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และมีวาระเพิ่มเติมมาอีกวาระหนึ่ง คือว่าวาระอื่นๆ ที่กำหนดเป็นวาระให้มีการโหวตเสียงกันก็คือวาระว่ามีคนชอบมาก่อกวน "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" อาจจะเป็นผู้ถือหุ้นหรือไม่เป็นก็แล้วแต่ ก็เลยกำหนดว่าถ้าทำให้บริษทเสียประโยชน์ ผู้ถือหุ้นทั่วไปก็จะเสียประโยชน์ด้วย ให้ผู้ถือหุ้นลงมติให้ผู้บริหาร และกรรมการบริษัทมีอำนาจฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย หรือฟ้องเป็นคดีอาญา ถ้าหากว่าทำได้กับคนที่มาก่อกวน
Q:ตรงจุดนี้เพื่อทำให้แผนงานต่างๆ ไม่สะดุด
ก็คิดว่าจะราบรื่นแล้วครับ เพราะว่าตอนนี้โครงการทั้ง 5 โครงการที่มีปัญหากันอยู่ก็แก้ปัญหากันได้หมด โครงการนี้มีขนาดกำลังการผลิต 450 เมกะวัตต์ ตอนนี้ทางธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) SCB ก็ปล่อยกู้ Project finance ให้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าปีหน้าจะก่อสร้างเสร็จ 4 โครงการ ต้นปี 62 ประมาณเดือนกุมภาพันธ์จะเสร็จอีก 1 โครงการ คิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรแล้วครับ
Q:แผนเข้าตลาดหุ้นของ "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง"
ก็มีความเป็นไปได้ครับ ตอนนี้กำลังเตรียมตัวที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ผมมองว่าความเป็นไปได้น่าจะกลางปีหน้า
Q:กระแสพลังงานทดแทนจะทำให้ความน่าสนใจหรือเสน่ห์ของ "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" น้อยลงหรือไม่ เมื่อเทียบกับ 1-2 ปีที่ผ่านมาที่กระแสพลังงานทดแทนแรงมาก
ผมว่าตอนนี้พลังงานทดแทนยังแรงมากนะ เพราะว่าประเทศต่างๆ รอบบ้านเรารวมทั้งประเทศจีน รวมทั้งทางยุโรป ก็ยังมุ่งไปทางพลังงานทดแทนค่อนข้างเยอะ และวินด์ฯ เองก็ยังมีการเตรียมการที่จะทำโครงการอื่นๆ นอกจากโครงการที่ได้รับเงินกู้มาในครั้งนี้ โดยมีการเตรียมทำโครงการในต่างประเทศด้วย
Q: Update โครงการที่ "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" ลงทุน
โครงการของวินด์ฯ มีโครงการที่จ่ายไฟแล้วประมาณ 4 ปีอยู่ 2 โครงการ คือโครงการห้วยบง ทั้ง 2 โครงการนี้มีขนาดกำลังการผลิตรวมกัน 207 เมกะวัตต์ และอีก 1 โครงการขนาด 60 เมกะวัตต์ ที่วะตะแบกโครงการนี้จ่ายไฟมาเมื่อปลายปีที่แล้ว และมีอีก 5 โครงการที่กำลังดำเนินการก่อสร้างซึ่งได้รับอนุมัติเงินเงินกู้มาเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 5 โครงการนี้ มีกำลังการผลิตโครงการละ 90 เมกะวัตต์ รวม 450 เมกะวัตต์
Q:คุณประเดชถือหุ้น "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง"กี่%
ผมรวมครอบครัวถืออยู่ 38% ซึ่งเราจะถือในระยะยาว
Q:การที่เราถือ SUPER ด้วย และ "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง" ด้วย จะมีคำถามตามมาหรือไม่
ตัว SUPER ผมแค่ไปลงทุนไม่ได้เข้าไปบริหาร และไม่ได้เป็นกรรมการบริษัทด้วยคือเป็นการลงทุนอย่างเดียวเลย ส่วนวินด์ฯ ก็เป็นครั้งแรกที่จะเข้าไปเป็นกรรมการ และผมคิดว่าพลังงานทดแทนการที่จะขัดผลประโยชน์กันโอกาสความเป็นไปได้ค่อนข้างน้อยเพราะโครงการค่อนข้างเยอะอยู่ที่เม็ดเงินลงทุนมากกว่า ถ้าหากว่าใครมีเม็ดเงินลงทุนเยอะก็มีโอกาสซื้อโครงการได้มากกว่า ทำโครงการได้มากกว่า ผมจึงมองว่าโอกาสที่จะไป Conflict กันเองน่าจะค่อนข้างน้อย แต่ในอนาคตอาจจะเป็นการร่วมมือกันก็เป็นได้
Q:กังวลมั้ยว่าพอนักลงทุนเห็นคุณประเดชมาบริหารวินด์ฯ แล้วจะขาย SUPER
ผมว่าตรงนี้ไม่เกี่ยวกัน ตอนนี้วินด์ฯ ก็ยังไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ กว่าจะเข้าตลาดได้คงเป็นปี ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นก็ต้องไปเปรียบเทียบกันว่าบริษัทไหนผลงานดีกว่า นักลงทุนเขาก็มีสิทธิเลือก หุ้นในตลาดมีตั้งหลายบริษัทไม่ใช่มีแค่ SUPER กับวินด์ฯ
Q:ผลประกอบการ "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง"
เท่าที่จำได้วินด์ฯจะได้ปันผลจากโครงการที่ COD แล้วเช่นจากห้วยบงปีหนึ่งก็ประมาณ 700-800 ล้านบาท แต่ถ้าดูในงบการเงินวินด์ฯจะมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงการซึ่งบุ๊คเป็นค่าใช้จ่ายไม่ได้บุ๊คเป็นเงินลงทุน ซึ่งทำให้กำไรของวินด์ฯ ในช่วงแรกๆ ดูค่อนข้างน้อย แต่ถ้าก่อสร้างทั้ง 5 โครงการนี้เสร็จการขยายโครงการต่างๆ ยังไม่ค่อยมากก็มีโอกาสที่วินด์ฯจะทำกำไรได้เยอะต่อปี ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าถ้าไม่มีการขยายต่อหลังจากก่อสร้างเสร็จ 5 โครงการ รวมโครงการเก่าด้วย วินด์ฯน่าจะมีกำไรปีละประมาณ 7,000 ล้านบาท
Q:โครงสร้างผู้ถือหุ้นของ "วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง"
ตอนนี้เป็นกลุ่มเคพีเอ็นฯประมาณ 46% กลุ่มครอบครัวผมประมาณ 38% ที่เหลือเป็นนักลงทุนอื่นๆ อีก10%
Q:เงินเพิ่มทุน IPO จะมหาศาลหรือไม่
ความจำเป็นของการเพิ่มทุนผมคิดว่าขึ้นอยู่กับโครงการ ว่าโครงการที่วินด์ฯเตรียมทำในโอกาสต่อไป ไม่ใช่ 5 โครงการนี้ว่ามีโครงการมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ด้วยว่าต้องเพิ่มทุนกี่% ซึ่งผมไม่แน่ใจว่ากี่% ต้องไปดูในรายละเอียดครับ
---จบ---
By: Sunday