Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews: BM คาดผลงานปี 61 โตก้าวกระโดด -ปลายปีนี้จบดีลขายPP พันธมิตรญี่ปุ่น -AIT มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าแตะ 5พันลบ.

1,192

 

 

HotNews: BM  คาดผลงานปี 61 โตก้าวกระโดด -ปลายปีนี้จบดีลขายPP พันธมิตรญี่ปุ่น

-AIT มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าแตะ 5พันลบ. 


  สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(  7 กันยายน  2560 ) -------BM คงเป้ารายได้ปีนี้โตราว10%   เผยยอด Backlog  200 ลบ.รับรู้ทั้งหมดในปีนี้ เร่งเดินหน้าเข้ารับงานกลุ่มรับเหมา ด้านออเดอร์สินค้า B2B โต หลังได้งานชิ้นส่วนรถตัดอ้อย จ่อตั้งบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นบุกเมียนมาร์ หนุนรายได้ปี 61 โตกระโดด   คาดปลายปีนี้ขายPP  10-20% ให้พันธมิตรญี่ปุ่น  เผยจะเดินเครื่องโรงงานแห่งที่ 2 ปลายปีเพิ่มกำลังผลิต 30% หวังดันผลงานปี 61 โตก้าวกระโดด
AIT มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าแตะ 5พันลบ. จากปีก่อน 4.41พันลบ. หลังตุนงานในมือ3.69พันลบ.รับรู้ปีนี้2.4พันลบ.  เผยโครงการเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำที่เมียนมาร์ เริ่มดำเนินการได้ภายใน ก.ย.-ต.ค. มูลค่าลงทุน 70 ล้านเหรียญฯ   คาดให้บริการ Data Center ภายในQ4/60 ระบุมีผู้เช่าแล้ว 30% จาก 600 Racks พร้อมคาด3ปี เข้าสู่จุดคุ้มทุน  อยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงาน มูลค่า 117ลบ. หวังเน้นงานประเภท Service Provider คาดรู้ผลปีนี้  
 
 
  นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโตประมาณ 10% โดยการเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้าตู้โลหะ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ มากขึ้น และเพิ่มสัดส่วนรายได้กลุ่ม B2B ให้เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงบริหารจัดการต้นทุน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ ด้านโครงการการก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ โดยใช้แหล่งเงินทุนจาก IPO ในปี 2559 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มดำเนินการผลิตภายได้ในปี 2560 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือที่รอส่งมอบ และรอรับรู้รายได้ หรือ Backlog อยู่ที่ 200 ล้านบาท ทั้งงานในกลุ่มของผู้รับเหมา หรือ Contractor และงานในกลุ่มของการจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการ หรือ B2B โดยจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งหมดได้ภายในปีนี้ ในขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีนี้ทิศทางผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีทิศทางที่เติบโตขึ้น หลังจากบริษัทฯ ได้เข้าเสนอราคาเพื่อรับงานในกลุ่มผู้รับเหมาอีกหลายโครงการ มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งจะทยอยทราบผลการได้งานตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป สำหรับงานในกลุ่มของการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการ หรือ B2B ก็ได้รับคำสั่งผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังบริษัทฯ ได้รับออเดอร์ใหม่สำหรับผลิตชิ้นส่วนรถตัดอ้อยอีกราว 70-100 คันต่อวัน รวมถึงบริษัทฯ ได้รับคำสั่งผลิตชิ้นส่วนรถเกี่ยวนวดข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 120 คันต่อวัน จากปีก่อนที่มีการผลิตเพียง 80 คันต่อวัน ทำให้บริษัทฯ คาดว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ งานในกลุ่มของ B2B จะมีการเติบโตอย่างชัดเจน และจะมีสัดส่วนรายได้ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ คงเป้ารายได้เติบโตอยู่ที่ระดับ 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 850.86 ล้านบาท
  ในขณะเดียวกันในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทฯ เตรียมที่จะเดินเครื่องกำลังการผลิตของโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งเป็นแห่งที่ 2 โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มดำเนินการผลิตได้ในช่วงปลายปี 2560 ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นได้อีกกว่า 30% ในขณะที่แผนการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นในการเข้าไปลงทุนก่อสร้างโรงงานในประเทศเมียนมาร์ คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และจะสามารถเริ่มก่อสร้าง และเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2561 ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการหนุนรายได้ของปี 2561 ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด
ทั้งนี้ ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.07 ล้านบาท และมีรายได้รวม 405.78 ล้านบาท
ด้านนายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น  ปัจจุบันอยู่ระหว่างจ้างนักกฎหมาย เพื่อดำเนินการร่างสัญญาเพื่อทำสัญญาร่วมทุน โดยบริษัทจะขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP)  ให้พันธมิตรญี่ปุ่นเข้ามาถือหุ้น  BM  ในสัดส่วนประมาณ 10-20% หรือกว่า40ล้านหุ้นของจำนวนหุ้นทั้งหมด  โดยคาดว่าสัญญาร่วมทุนจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้
ทั้งนี้หลังจากการทำสัญญารวมถึงขั้นตอนการดำเนินงานเสร็จสิ้น บริษัทจะขยายธุรกิจไปยังประเทศเมียนมาร์อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยจะร่วมกับพันธมิตร 3 ราย ได้แก่ 1.พันธมิตรประเทศญี่ปุ่น 2. พันธมิตรประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีสำนักงานโชว์รูมและโรงงาน รองรับไว้เรียบร้อยแล้ว  และ 3. พันธมิตรจากประเทศสิงคโปร์  แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้สรุปสัดส่วนการถือหุ้น 
  นายธีรวัต  กล่าวทิ้งท้ายว่า คาดกำไรสุทธิปีนี้จะใกล้เคียงปีก่อนที่ 59.42 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะพยายามทำกำไรให้ได้ใกล้เคียงกับปีก่อน   แม้ช่วงครึ่งปีแรกทำได้16.07 ล้านบาท   รวมทั้งมีปัจจัยเรื่องราคาวัตถุดิบหลักอย่างสินค้าประเภทเหล็กที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก แต่บริษัทมีการเจรจาระหว่างลูกค้าเพื่อจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบ แต่ในส่วนของงานกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง อาจจะไม่สามารถปรับราคาได้เนื่องจากรับมาเป็นงานขนาดใหญ่และมีการล็อคราคาจัดจ้างไว้หมดแล้วและเพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้  ประกอบกับบริษัทยังพยายามบริหารจัดการต้นทุนให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเร่งทำการขายให้เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแม้ว่ามาร์จิ้นจะลดลงก็ตาม

นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ดวานซ์อินฟอร์เมชั่นเทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT  เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แตะ 5,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 4,419.08   ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกสามารถทำได้แล้ว 2,484.68  ล้านบาท จากที่บริษัทมีงานในมือ(Backlog) อยู่อีกราว 3,690 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ 2,400 ล้านบาท และในส่วนที่เหลือจะรับรู้ภายในปี 2561  ประกอบกับบริษัทยมีรายได้ประจำอีกราว 20% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นงานประเภทบริการและบำรุงรักษา ซึ่งมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  
พร้อมกันนี้บริษัทคาดโครงการเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำที่เมียนมาร์ไปถึงสิงคโปร์ นั้นจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือน ก.ย. - ต.ค. นี้ โดยมีมูลค่าลงทุน 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นโครงการที่บริษัทได้ร่วมทุนกับบมจ.ล็อกซเล่ย์ (LOXLEY) โดยบริษัทถือหุ้น 23% คาดว่าระยะเวลาที่จะแล้วเสร็จนั้นคือในช่วงเดือน ต.ค.61   ขณะเดียวกันยังมีงานโครงการเคเบิ้ลใยแก้วภาคพื้นดินเส้นทางพม่า-กรุงเทพฯ-หาดใหญ่-สิงคโปร์ ที่มูลค่าการลทุนไม่มากนัก โดยจะเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมา4/2560 
ขณะที่บริษัทคาดเตรียมให้บริการ Data Center ในช่วงไตรมาส 4/2560นี้  ภายใต้บริษัท Genesis โดยมี AIT, ITEL และ WHA ลงทุนร่วมกัน  โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นรายละ 33.33%  ซึ่งในปัจจุบันนั้นได้มีผู้เช่าเข้ามาเตรียมความพร้อมใช้บริการแล้วราว 30% ของจำนวน 600 Racks ซึ่งคาดว่าในระยะต่อไปจำนวนผู้เช่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินว่าภายในระยะ 3 ปีจากนี้ จะสามารถเข้าสุ่จุดคุ้มทุนได้  และปริมาณการเช่าจะอยู่ราว 80-90%  ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ประจำของบริษัทให้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก  
นายศิริพงษ์  กล่าวทิ้งท้ายว่าบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงาน ของหน่วยงานภาครัฐ  มูลค่า 117 ล้านบาท โดยหวังจะได้รับงานประเภท ให้บริการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Service Provider)  ซึ่งจะรู้ผลภายในปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทยังหางานในมือใหม่ๆเข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลประกอบการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ  โดยเบื้องต้นงานที่จะเข้าร่วมประมูลใหม่ๆที่จะออกมานั้น คาดจะมีมูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท


----จบ--- 





 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ไต่ขึ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้ หุ้นอิงการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะ CPF รับบทเป็นพระเอกดันSET ไต่ขึ้น ส่วนหุ้นแบงก์....

ย่อเล่น By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองกลเกมหุ้น ช่วง บจ.ประกาศงบไตรมาส1/67 นักลงทุน คงต้องหาจังหวะย่อเล่น เทรดตามสัญญาณทางเทคนิค....

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้