สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (29 ตุลาคม 2561)

KBANK ประกาศแผนปี 2562 เดินหน้าต่อเนื่อง หวังเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่ลูกค้าเลือกเพื่อตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิต ชูศักยภาพ K PLUS พร้อมนำเสนอบริการทางการเงินและไลฟ์สไตล์แบบรายบุคคล พร้อมยกระดับขีดความสามารถองค์กรด้านการเงินและไอทีให้พร้อมตอบสนองทุกสถานการณ์ โดยใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจและขับเคลื่อนธุรกิจ บนรากฐานการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ตั้งเป้าหมายสินเชื่อรวมเติบโต 5-7% ฟาก โบรกฯ ยังคงแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2562 เป็น 240 บาท จากเดิม 248 บาท

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2562 มีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าแรงส่งของอุปสงค์จากต่างประเทศจะลดลง แต่คาดว่าการใช้จ่ายในประเทศจากการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนจะเข้ามามีบทบาทต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2562 จีดีพีจะขยายตัวที่ 4.3% ผ่อนแรงลงจากปี 2561 ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 4.6% เนื่องจากการชะลอตัวของภาคการส่งออกและท่องเที่ยวจากปัจจัยฐานที่สูง ตลอดจนประเด็นเรื่องข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่อาจจะส่งผลให้การค้าโดยรวมของโลกชะลอตัว

ในขณะที่ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่สำคัญในปีหน้า จะมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องของภาครัฐและความชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้งทั่วไปที่น่าจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมให้ดีขึ้นด้านทิศทางดอกเบี้ยของไทยยังเป็นขาขึ้นท่ามกลางหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

ภายใต้ปัจจัยความท้าทายต่าง ๆ ธนาคารกสิกรไทยกำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2562 โดยยังคงยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) พร้อมตอกย้ำยุทธศาสตร์การเป็น Customers’ Life Platform of Choice หรือ แพลตฟอร์มหนึ่งเดียวที่ลูกค้าเลือกเพื่อตอบโจทย์ทุกด้านของชีวิต ด้วยการใช้ศักยภาพ K PLUS โมบาย แบงกิ้ง ที่มีผู้ใช้งานสูงที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง นำเสนอบริการทางการเงินและไลฟ์สไตล์ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบรายบุคคล เดินหน้ายกระดับขีดความสามารถไปอีกขั้นทั้งด้านการเงินและเทคโนโลยีขององค์กรให้สามารถตอบสนองทุกสถานการณ์ พร้อมเป็นองค์การที่ใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจและขับเคลื่อนธุรกิจ (Data-Driven Bank) บนรากฐานการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืนในทุกมิติ (Bank of Sustainability)

ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 2562 โดยตั้งเป้าการเติบโตเงินให้สินเชื่อที่ 5-7% ซึ่งจะสอดคล้องกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้า แบ่งเป็นสินเชื่อธุรกิจลูกค้าบรรษัทเติบโต 3-5% สินเชื่อธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการเติบโต 2-4% และสินเชื่อลูกค้าบุคคลเติบโต 9-12% อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net Interest Margin : NIM) อยู่ที่ 3.3-3.5% อัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ -5 ถึง -7% ในส่วนของคุณภาพสินทรัพย์ คาดว่ามีสัดส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL Ratio) ที่ 3.3-3.7%

นายบัณฑูร กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยยังคงดำเนินธุรกิจบนรากฐานของการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ภายใต้การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม มีธรรมาภิบาลที่ดี สร้างความสมดุลทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยยุทธศาสตร์ที่ทำให้บรรลุเป้าหมายและสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งปรัชญาของการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนนี้ได้ถูกปลูกฝังและหล่อหลอมในทุกกระบวนการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมจนเป็น กรีน ดีเอ็นเอ ขององค์กรที่สร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทย

เซียนหุ้นเอเชีย เวลท์
เชียร์ ซื้อ แต่หั่นเป้าเหลือ 240 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 2562 โดยผู้บริหารคาดว่าปี 2562 จะเป็นอีกปีที่ท้าทายท่ามกลางสภาวะอุตสาหกรรมธนาคารที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะทางฝั่งรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารคาดว่าจะยังปรับลด 5-7% ในปีหน้า เนื่องจากผลกระทบเต็มปีจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมดิจิทัล ผลของกำไรจากการลงทุนซึ่งเป็น One-time ที่หายไป และธุรกิจประกันที่ชะลอตัวอันเป็นผลจากตลาดที่เริ่มอิ่มตัวและกฎเกณฑ์ที่เคร่งครัดขึ้น อย่างไรก็ตาม KBANK คาดฐาน Data analytics ที่แข็งแกร่งขึ้นของธนาคารจะช่วยเพิ่มโอกาสในธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย KBANK ตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อปี 2562 โดยรวมที่ 5-7% โดยคาดการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยที่ 9-12% (เทียบกับ 5-7% ในปี 2561) สินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่ที่ 3-5% และสินเชื่อ SME ที่ 2-4% อีกทั้ง ธนาคารคาดอัตราส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ปี 2562 ที่ช่วง 3.3-3.5% สูงกว่าเป้าหมายปีนี้ที่ 3.2-3.4% หนุนโดยทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นและการขยายตัวสินเชื่อรายย่อยที่เร็วขึ้น

สำหรับ เป้าหมาย NPL ratio ที่สูงขึ้น ไม่ใช่สัญญาณว่าคุณภาพสินทรัพย์แย่ลง KBANK คาดการณ์อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ปี 2562 ที่ 3.3-3.7% ซึ่งขอบบนสูงกว่าปีนี้ที่ 3.3-3.4% การคาดการณ์ของหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น หลักๆ เกิดจากการจัดการภายในของธนาคาร และไม่ใช่สัญญาณว่าคุณภาพสินทรัพย์แย่ลง ในทางตรงกันข้าม KBANK คาด Recovery rate ของ NPL จะเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว ทำให้ธนาคารเปลี่ยนการตัดสินใจว่าจะไม่ขาย NPL บางก้อนออก นอกเหนือจากนั้นแล้ว เป้าหมายอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อเฉลี่ย (Credit cost) ที่ผ่อนคลายลง ในอัตราไม่เกิน 165bps สะท้อนถึงความกังวลประเด็นคุณภาพสินทรัพย์ที่ลดลงอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ได้มีการปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 โดยปรับลดสมมติฐานการเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยปี 2562 เป็น -6% จากเดิม +1% และปรับเพิ่ม NPL ratio เป็น 3.4% จาก 3.2% อย่างไรก็ตาม เป้าหมายทางการเงินอื่นๆ ค่อนข้างเป็นไปตามคาดการณ์ของเรา ทำให้เรายังคงการเติบโตของสินเชื่อและ NIM ปี 2562 ที่ 7% และ 3.4% ตามลำดับ และคงประมาณการ Credit cost ที่ 165bps นอกจากนี้ เราคงสมมติฐานอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้รวม (Cost-to-income ratio) ที่ 42.5% โดยรวมแล้ว เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ลง 4% เป็น 3.97 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2562 เป็น 240 บาท จากเดิม 248 บาท คำนวณจากค่า PBV ที่ 1.4 เท่า ถึงแม้ว่า KBANK จะเป็นธนาคารที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากโครงการยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมดิจิทัล แต่เรามองว่าความเป็น Fast mover ด้านดิจิทัลแบงก์กิ้งของธนาคารจะทำให้ KBANK มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่งในการหาแหล่งรายได้และโอกาสธุรกิจใหม่ๆ รวมทั้งช่วยให้ธนาคารก้าวผ่านความท้าทายต่างๆ ได้อีกด้วย

KBANK