
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (26 กันยายน 2561)
PF คาด Q3/61 โกยยอดขาย 5.3 พันลบ. โต 35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดัน 9 เดือนแรกปีนี้ยอดขายแตะ 1.32 หมื่นลบ. ทั้งปีมั่นใจแตะ 2.12 หมื่นลบ.ตามเป้า เผยQ4/61 เตรียมเปิด 9 โครงการ ทั้งแนวราบ-คอนโดฯ มูลค่ารวม 1.43 หมื่นลบ. ระบุ Q3 นี้ บุ๊ครายได้ขายที่ดิน ราว 800 ลบ. พร้อมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ล่าสุด "เพอร์เฟค เรสซิเดนท์" ประเดิม 2 โครงการ มูลค่ารวม 1.48 พันลบ.
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่าบริษัทฯมั่นใจรายได้รวมปีนี้จะแตะที่ระดับ 24,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 16,730.71 ล้านบาท โดยในงวด 6 เดือนแรกปีนี้บริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 9,137.84 ล้านบาท ขณะที่เป้ายอดขายรวมปีนี้ บริษัทฯ มั่นใจทำได้ตามเป้าที่ 21,200 ล้านบาท โดยบริษัทฯคาดว่าไตรมาส 3/2561 จะสามารถทำยอดขายได้ 5,300 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันกว่าปีก่อน 35% ถือเป็นยอดขายสูงสุดที่บริษัทฯ เคยทำได้ เนื่องจากบริษัทฯ มียอดขายจากโครงการแนวราบเข้ามาราว 3,500 ล้านบาท และจากโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามา 1,800 ล้านบาท ทำให้เมื่อรวมยอดขาย 9 เดือนแรกของปีนี้จะมียอดขายรวม 13,250 ล้านบาท เติบโต 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับแผนเปิดโครงการใหม่ บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงไตรมาส 4/2561 บริษัทฯ มีแผนเตรียมเปิดโครงการใหม่ 9 โครงการมูลค่ารวม 14,316 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 7 โครงการ่มูลค่าโครงการรวม 7,836 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเพอร์เฟค พาร์ค เวสเกต มูลค่า 1,600 ล้านบาท ,โครงการ เพอร์เฟค พาร์ค ราชพฤกษ-ปทุมธานี มูลค่า 1,200 ล้านบาท, โครงการเมโทร บิชทาวน์ พหลโยธิน-สุทธิสาร มูลค่า 360 ล้านบาท, โครงการ เดอะเมโทร เพชรเกษม 48 มูลค่า 600 ล้านบาท, โครงการ เพอร์เฟคเพลส ราชพฤกษ์-ปทุมธานี มูลค่า 1,284 ล้านบาท ,โครงการเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศ-ไทรม้า มูลค่า 1,050 ล้านบาท และโครงการเดอะเมโทร แจ้งวัฒนะ มูลค่า 1,292 ล้านบาท รวมทั้งโครงการคอนโดมิเนียมอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 6,930 ล้านบาท ได้แก่ โครงการไอคอนโด พัฒนาการ มูลค่า 930 ล้านบาท และโครงการHyde Heritage Thong-lor มูลค่า 6,000 ล้านบาท

อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ล่าสุด "เพอร์เฟค เรสซิเดนท์" ซึ่งเป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นในกลุ่มเซ็กเม้นท์ของบ้านไฮคลาส จุดเด่นอยู่ที่รูปแบบโครงการที่เน้นความเป็นส่วนตัว ด้วยจำนวนยูนิตไม่มาก และแบบบ้านสไตล์ Classic Revival ที่ผสมผสานความสวยงามคลาสสิกและความทันสมัย มาพร้อมนวัตกรรมแห่งการอยู่อายในรูปแบบบ้านอัจริยะ Smart Living Solution อาทิ Smart IP Camera กล้องวงจรปิดที่ดูภาพได้จากมือถือ , Smart Air Condition Controller IR Transmitter ระบบควบคุมเครื่องปรับอากาศ , Smart Motion Sensor อุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหว เพื่อเปิดปิดไฟอัตโนมัติ , Power Monitoring ระบบตรวจติดตามการใช้พลังงานไฟฟ้า ประปา ในบ้านแบบเรียลไทม์ , Amazon ระบบควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ในบ้านด้วยเสียง เป็นต้น โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายในราคา 10-15 ล้านบาท ที่ต้องการสังคมส่วนตัวและชื่นชอบเทคนโลยี
ทั้งนี้ เพอร์เฟค เรสซิเดนท์ จะเปิดตัวพร้อมกันใน 2 ทำเล บนฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ คือสุขุมวิท 77 พื้นที่ 33 ไร่ จำนวน 108 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,050 ล้านบาท และพระราม9-กรุงเทพกรีฑา พื้นที่ 16 ไร่ จำนวน 39 ยูนิต มูลค่าโครงการ 430 ล้านบาท ทั้งนี้โครงการบ้านหรูทำเลพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมีการขยายตัวต่อเนื่องโดยเฉพาะเมื่อมีการก่อสร้างถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ถนนเส้นนี้กลายเป็นทำเลที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นใหม่ที่ได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเดินทางได้สะดวก สามารถเชื่อต่อกับถนนศรีนครินทร์ รามคำแหง และเดินทางไปย่านธุรกิจถนนพระรามเก้า เพชรบุรี ได้โดยตรง โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการภายใต้การพัฒนาบนทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ รวม 6 โครงการ เป็นพื้นที่รวม 312 ไร่ รวมมูลค่าโครงการ 10,050 ล้านบาท และยังมีแลนด์แบงก์อีก 100 ไร่
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ในช่งที่เหลือของปียังมีแนวโน้มดี หลังการเลือกตั้งชัดเจนส่งผลให้การลงทุนในประเทศดีขึ้นทุกกลุ่ม ขณะที่มองว่าดีมานด์ของเซ็กเม้นตลาดอสังหาริมทรัพย์แนวราบในระดับไฮ เอนด์ (High end) ยังมีดีมานด์ในระดับดี เนื่องจาก ไม่ค่อยประสพปัญหาเรื่องการปฎิเสธสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์

"ไตรมาส 4 ยังดีที่มีการกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนทำให้การลงทุนภายในประเทศชัดเจนขึ้น การลงทุนในประเทศก็เริ่มขยับ ซึ่งดีขึ้นในทุกกลุ่ม ดีมานด์ก็ขยายดีทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มโครงการแนวราบระดับบน แต่สำหรับกลุ่มระดับล่างยังติดปัญหาเรื่องการปฏิเสธสินเชื่อกับทางธนาคาร โดยปัจจุบันยอดปฏิเสธสินเชื่อเฉลี่ยรวมของบริษัทฯอยู่ที่ระดับ10% ซึ่งคงที่จากปีก่อน"นายวงศกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้นอกจากบริษัทฯ จะมีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เองแล้ว ยังมีโครงการร่วมทุนที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตร จากต่างประเทศทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ฮ่องกง แลนด์ ในการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ทำเลแจ้งวัฒนะ ขนาด 130 ไร่ 179 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท ได้ดำเนินการขายที่ดินเข้าบริษัทร่วมทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีการบันทึกรายได้จากการขายที่ดินในไตรมาส 3/2561 ประมาณ 800 ล้านบาท

ส่วนของความร่วมมือกับ เซกิซุย เคมิคอล เพื่อพัฒนาบ้านระบบโมดูลาร์ในโครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีช กรุงเทพกรีฑา , รามคำแหง,แจ้งวัฒนะ และรัตนาธิเบศร์ รวม 74 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 2,230 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2562 ด้านความร่วมมือกับ ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ในโครงการไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ คอนโดมิเนียมไฮเอนด์ 319 ยูนิต มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท จะกำหนดเปิดขายในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้
นายวงศกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตือนการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านของธนาคารพาณิชย์ และเตือนผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไนการขายโครงการ หลังเกิดปัญหาผู้ซื้อโครงการแบบยกล็อตบางรายว่า บริษัทฯไม่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้ เนื่องจากบริษัทฯเน้นกลุ่มลูกค้า ที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศียจริง แต่ในแง่ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ คาดอาจได้รับผลกระทบโดยเฉาะในส่วนของคอนโดมิเนียม เพราะการคุมเข้มการปล่อยวงเงินสินเชื่อจะทำให้เงินที่ได้จากการปล่อยสินเชื่อน้อยลง ซึ่งตลาดระดับล่างจะมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยเหล่านี้โดยเฉพาะกลุ่มแนวราบที่มีราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมต่ำกว่า 2 ล้านบาท
PF