สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 12 กันยายน   2561)

SGP ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังโตแรงภายหลังราคาก๊าซ LPG ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 เดือนในไตรมาสที่ 3/2561 “ศุภชัย วีรบวรพงศ์”มั่นใจยอดขายปี 61 ทะลุเป้า 3.5 ล้านตัน หลังบุกตลาดใหม่ในเอเชียตะวันออก

นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) (SGP) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตามราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดยล่าสุดาราคาก๊าซ LPG ในเดือนกันยายน 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 617.5 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/61 ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 560 ดอลลาร์/ตัน หรือเพิ่มขึ้น 57.5 ดอลลาร์/ตัน

“ผลงานครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี จากราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ยืนเหนือระดับ 600 ดอลลาร์/ตัน และเข้าสู่ช่วง High Season ธุรกิจ”

นอกเหนือจากราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น SGP ยังได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอในประเทศจีน และมาเลเซีย รวมถึงยอดขาย Trading ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆในต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านในแถบ CLMV และตลาดใหม่ๆในแถบเอเชียตะวันออกที่มีความต้องการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะแตะที่ระดับ 3.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.2 ล้านตัน

ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/61 มีรายได้รวม 16,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,659 ล้านบาท หรือ 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 13,527 ล้านบาท และบอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2561) ในอัตรา 0.25 บาท/หุ้น (บริษัทมีการแตกพาร์จาก 1 บาท เป็น 0.50 บาท) กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 5 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

SGP มั่นใจรายได้แตะ 6.5 หมื่นลบ. 

นางจินตนา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจรายได้ปีนี้แตะระดับ 65,000 ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปี 2560 ที่มี่รายได้อยู่ที่ 59,627 ล้านบาท และมียอดขายเติบโต 10% จากปี 2560 ที่มียอดขายอยู่ที่ หลังจากที่ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 31,928 ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทคาดว่ามีแนวโน้มเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเข้าสู่ไฮซีซั่นของธุรกิจ และราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยล่าสุดาราคาก๊าซ LPG ในเดือนกันยายน 2561 เฉลี่ยอยู่ที่ 617.5 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2/61 ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 560 ดอลลาร์/ตัน หรือเพิ่มขึ้น 57.5 ดอลลาร์/ตัน ประกอบกับรายได้ของบริษัทจะมาจากต่างประเทศกว่า 70% จึงทำให้มีความได้เปรียบเมื่อราคาก๊าซในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกันบริษัทฯยังได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายที่เติบโตอย่างสม่ำเสมอในประเทศจีน และมาเลเซีย รวมถึงยอดขาย Trading ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆในต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของประเทศเพื่อนบ้านในแถบ CLMV และตลาดใหม่ๆในแถบเอเชียตะวันออกที่มีความต้องการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะแตะที่ระดับ 3.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.2 ล้านตัน

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซลที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งปัจจุบันมี 2 โรง ขนาดกำลังการผลิต 230 เมกะวัตต์ และ 10 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการจ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ไปแล้ว

สำหรับการขยายธุรกิจเพิ่มเติมในต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทฯยังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อธุรกิจ LPG ขนาดใหญ่ในบังคลาเทศใช้งบลงทุนราว 600-700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปภายในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้บริษัทฯได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ PACIFIC GAS BANGLADESH LIMITED เพื่อดำเนินธุรกิจค้าผลิตภัณฑ์ก๊าซปิโตรเลียม ในประเทศบังคลาเทศ มีทุนจดทะเบียน 4,000 ล้านทากา หรือประมาณ 1,566 ล้านบาท ไปแล้ว

ส่วนความคืบหน้าในการลงทุนสร้างท่าเรือ และโรงบรรจุก๊าซ LNG ในประเทศอินโดนีเซีย ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่น จะมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยบริษัทฯถือ 55% และพันธมิตรท้องถิ่น 45% ซึ่งจะใช้งบลงทุนราว 20 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงต้นปี 2562 อีกทั้งบริษัทนยังมีแผนที่จะก่อสร้างโรงบรรจุก๊าซที่ประเทศเมียนมาร์ ร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นบริษัทฯถือ 65% และพันธมิตรท้องถิ่น 35% ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนปี 2562

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างเตรียมเขาประมูลงานในการเป็นตัวแทนจำหน่ายก๊าซ LNG ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) ราวปีละ 1.5 ล้านตัน ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) ในการที่จะยื่นซองเข้าประมูลไม่เกินวันที่ 14 กันยายนนี้ และในขณะนี้ก็ได้มีผู้ประกอบการที่จะเสนอขายก๊าซให้กับบริษัทแล้ว 3 ราย ซึ่งบริษัทเห็นว่าการเสนอราคาอยู่ในระดับที่น่าพอใจ คาดว่าจะสามารถเห็นความชีดเจนภายในต้นปี 2562

อีกทั้งบริษัทฯ เตรียมเสนอแผนลงทุน สร้างท่าเรือ และคลังบรรจุ LNG ที่จังหวัดระยอง ให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) พิจาณาภายในไตรมาสที่ 4/2561 ซึ่งขณะนี้บริษัทฯได้มีการซื้อที่ดินขนาด 100 ไร่รองรับโครงการดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

SGP