สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (11  กันยายน  2561)

WHAUP มั่นใจรายได้ปี 62 โตก้าวกระโดด หลัง รับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเพิ่ม - รับรู้รายได้ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติเต็มปี เล็ง ผุดท่อส่งก๊าซแห่งที่ 3 ร่วมกับพันธมิคร ปลายปี 62 แย้มอยู่ระหว่างศึกษาเข้าซื้อกิจการ ระบบสาธารณูปโภคในเวียดนาม คาดชัดเจนปี 62     พร้อมเจรจาพันธมิตรในนิคมติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปอีก 10 MW 

นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า คาดรายได้ในปี 2562 จะเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากบริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้น 33 เมกะวัตต์ เป็น 553 เมกะวัตต์ จากสิ้นปีนี้ที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ COD แล้ว 520 เมกะวัตต์ ประกอบกับยอดขายน้ำในนิคมอุตสาหกรรมยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่จะรับรู้รายได้จากธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติในนิคมอุตสาหกรรมเต็มปีในปีหน้า

ทั้งนี้ ในช่วงต้นปี 2562 โครงการผลิตไฟฟ้า 2 แห่ง จะเริ่ม COD ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า SPP กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 30 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่ม COD ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 และมีโรงไฟฟ้าขยะ กำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 3 เมกะวัตต์ ที่จะเริ่ม COD ในช่วงต้นปี 2562 "เรามั่นใจรายได้ปี 62 จะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากปี2561 เนื่องจากบริษัทฯจะมีโครงการโรงไฟฟ้าเข้าสู่ระบบราว 553 เมกะวัตต์โดยวันที่ 1 มกราคม 2562 บริษัทฯจะมีโครงการโรงไฟฟ้า SPP ที่จะสามารถจ่ายไฟเข้าสู่ระบบได้ 133 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯได้ถือหุ้นโครงการดังกล่าวในสัดส่วน 30% คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 30 เมกะวัตต์ และจากโครงการโรงไฟฟ้าขยะกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์" นายวิเศษ กล่าว นายวิเศษ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทอยู่ระหว่างทำงบลงทุนปี 2562 และงบลงทุนในช่วง 5 ปีใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนที่จะเกิดขึ้นใหม่ โดยจะนำเสนอใหมที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) พิจารณาในช่วงเดือนพฤศจิกายน นี้ ซึ่งมีโอกาสใช้งบลงทุนมากขึ้นกว่าปีนี้ที่ 1.8 พันล้านบาท โดยงบลงทุนตามปกติของบริษัทจะอยู่ที่ราว 1.8-2 พันล้านบาท

สำหรับโครงการลงทุนที่อยู่ในระหว่างการพิจารณา ได้แก่ โครงการศึกษาการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติในนิคมอุตสาหกรรมในนิคมอีเทิร์นซีบอร์ด 3 ที่อยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับพันธมิตร คือ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) , มิตซุย ซูมิโตโม่, โตเกียวแก๊ส โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนได้ภายในปี 2562 หลังจากที่โครงการวางท่อส่งก๊าซในนิคมอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมอีเทิร์นซีบอร์ด 2 ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มให้บริการในช่วงปลายปีนี้ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ บริษัทฯ ยังเน้นการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งมีความคืบหน้าโครงการบริหารจัดการสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่ม WHA จะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2562 และจะเริ่มจำหน่ายน้ำอุตสาหกรรมได้ในปี 2563 อีกทั้งยังสนใจลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจระบบบริหารจัดการสาธารณูปโภคนอกนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนาม ซึ่งรูปแบบ อาจะเป็นการซื้อกิจการที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้ว หรือเป็นการร่วมมือกับพันธมิตร โดยยังอยู่ระหว่างการศึกษา คาดว่าจะชัดเจนในปี 2562
นอกจากนี้ยังมองโอกาสลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมในเวียดนามด้วย

อนึ่ง WHAUP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ (ธุรกิจน้ำ) จำนวน 423.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบจากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (ธุรกิจพลังงาน) จำนวน 246.8 ล้านบาท ลดลง 64.0% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในจำนวนนี้ประกอบด้วยผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 315.3 ล้านบาท ในขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 98.9 ล้านบาท ซึ่งการบันทึกผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นรายการทางบัญชีที่ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานที่แท้จริงและกระแสเงินสดของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของจำนวน 295.9 ล้านบาท ลดลง 57.8 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามในแง่ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ มีจำนวน 611.2 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ (ธุรกิจน้ำ) จำนวน 845.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน (ธุรกิจพลังงาน) จำนวน 906.1 ล้านบาท ลดลง 3.3% เมื่อเทียบจากปีก่อนในจำนวนนี้ประกอบด้วยผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 64.7 ล้านบาท ในขณะที่ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 338.9 ล้านบาท

ซึ่งการบันทึกผลกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นรายการทางบัญชีที่ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานที่แท้จริงและกระแสเงินสดของ บริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิส่วนที่บริษัทเป็นเจ้าของจำนวน 1,012.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.0 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่อย่างไรก็ตามในแง่ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ มีจำนวน 1,076.8 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 69.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

WHAUP