สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (20 สิงหาคม 2561)

 

ดร. ประสิทธิ์ ตั้งโต๊แถลงข่าว เปิดใจ ยืนยันบริสุทธิ์ ชี้เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ถูก ปริญญา จารวิจิต ใช้เครดิตของตน หลอกลูกค้าโอนหุ้น มูลค่า 600-700 ลบ. เข้าบัญชี ปริญญา ระบุตลอดชีวิตทำงานด้วยความซื่อสัตย์-รับผิดชอบ-รักษาความลับลูกค้า 

 

 

ดร. ประสิทธิ์ ยันบริสุทธิ์ ชี้เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ถูก ปริญญา ใช้เครดิตของตน หลอกลูกค้าโอนหุ้น มูลค่า 600-700 ลบ. เข้าบัญชี ปริญญา พร้อม ยันไม่ใช่เจ้าพ่อตลาดหุ้น ตลอดชีวิตทำงานด้วยความซื่อสัตย์-รับผิดชอบ-รักษาความลับลูกค้า เปิดสายสัมพันธ์ เบื้องหลัง รู้จัก ปริญญา จารวิจิต ผ่านเฟสบุ๊ค หลังศึกษาความรู้ธุรกิจBlockchainจากนั้น ปริญญา พา เออาร์นี เจ้าพ่อบิทคอยน์พร้อม แตงโม มารู้จัก ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ซีอีโอหมื่นล้านและเจ้าพ่อตลาดหุ้นเปิดใจเป็นครั้งแรกกับกรณีบิทคอยน์หลังวงแตก ยันบริสุทธิ์ถูกต้อง และถือเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ดร.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ผมไม่ใช่เจ้าพ่อตลาดหุ้น ผมเป็นคนตั้งใจทำงานสูงมากและทำงานหนักและรักงาน โดยตั้งแต่เด็กตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้บริหาร 1 ใน 3 ของผู้บริหาร และวงการเราสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ ความซื่อสัตย์และความลับของลูกค้า และผมจะมีความรับผิดชอบสูง ขนาดน้ำท่วมเกือบ 2 เมตรและ 2 เมตรกว่าในหาดใหญ่ ยังว่ายน้ำมาทำงานเพื่อทำหน้าที่และความรับผิดชอบให้ลูกค้าสูงสุด

 

ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ซุปตาร์โบรกเกอร์ มนุษย์ทองคำ ซีอีโอหมื่นล้าน และเจ้าพ่อตลาดหุ้น เปิดแถลงข่าวในวันนี้ (20 สิงหาคม 2561) ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีบิทคอยน์เป็นครั้งแรก หลังตกเป็นแพะรับบาปปัญหาที่เกิดขึ้นว่าได้มีโอกาสรู้จักกับนายปริญญาจากผ่านเฟสบุ๊ค หลังจากที่ได้ไปศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับ ธุรกิจบล็อกเชนมาจากประเทศสิงคโปร์ ต่อจากนั้นนายปริญญา จารวิจิต ได้พา นายเออาร์นี โมตาวา ชาริมา ชาวฟินแลนด์ เจ้าพ่อบิทคอยน์ พร้อมนางสาวชนนิกานต์ แก้วกาสี (แตงโม) ซึ่งเป็นแฟนสาวเข้ามาทำความรู้จักกับข้าพเจ้าและสนิทสนมกัน ดร.ประสิทธิ์ กล่าวว่า อาร์นีถือเป็นเด็กที่มีความเก่ง ฉลาด และอัจฉริยะเป็นอย่างมาก เค้าอ่านหนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ธุรกิจเป็นประจำ มีความสามารถใน เรื่องบล็อกเชนและ Exchange crypto currency ทำให้เราได้รู้จักกันและเข้าใจหลักธุรกิจและการบริหารอย่างดี ส่วน แตงโม ซึ่งเป็นแฟนสาวของอาร์นีถือว่าเป็นคนที่มีความละเอียดทางด้านการเงิน และเป็นคนให้ความสำคัญและจริงจังกับการทำงาน เรียกว่า เศษสตางค์ไม่ให้หล่น ถือว่าเป็นคนที่ตั้งใจทำงานดีมาก

 

 

สำหรับจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจด้วยกันทั้ง 4 ฝ่าย ซึ่งประกอบด้วย ปริญญา ซึ่งมีคอนเน็คชั่นส์ในประเทศเกาหลีและมาเก๊า ส่วนชาคริส อาห์มัด มีคอนเน็คชั่นส์ในยุโรป และเป็นผู้ทำสัญญากับอาร์นี และอาร์นีมีความสามารถพิเศษด้านความรู้ความสามารถที่ทันสมัย และอัจฉริยะด้านบล็อกเชน "ในส่วนตัวของผมเองทำหน้าที่เป็น Deal Maker เพราะผมมีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับหุ้น เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างครบ เราเลยมาจัดตั้ง ฟอร์มทีมงาน เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน" อย่างไรก็ตาม หลังจากทำงานร่วมกันได้ไม่ถึง 4 เดือน ตนและนางสาวชนนิกานต์ แก้วกาสี (แตงโม) เริ่มสงสัยแล้วทำไมไม่โอนค่าหุ้นให้ลูกค้า และไม่โอนเงินเข้าบริษัทและนายปริญญา เพราะมีพฤติกรรมแปลกๆ ในเรื่องความไม่เสียงกันระหว่างผมกับปริญ ทำให้วงแตกและขอยุติการร่วมงานกัน และทางปริญได้ไล่ผม อาร์นี และแตงโมออกจากห้องประชุมในวันนั้น

 

 

"ผม อาร์นี และแตงโม เครียด และมานั่งทานอาหารกันที่เอ็มควอเทียร์ พูดกัน เราต่างได้รับความเสียหายร่วมกัน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอาร์นี และแตงโมเสียหายบิทคอยน์ ส่วนกลุ่ม2 คือ ผมเสียหายหุ้นให้กับนายปริญญาโดยลูกค้าของผม โอนเข้าปริญญา โดยใช้เครดิตจากตัวกระผม จากนั้นเราทั้ง 3 คนมีผู้ใหญ่แนะนำให้มาหาผู้กองธรรมนัส จากนั้นผู้กองธรรมนัสมาเป็นคนกลาง โดยทางปริญญาได้มีความเกรงใจ และผมคิดว่าผู้กองอัธยาศัยดี ทางปริญญาเลยโอนหุ้นมาฝากไว้ที่ผู้กอง จำนวน 400 กว่าล้านหุ้นและเป็นหุ้นที่ทางนายปริญญายังชำระค่าหุ้นไม่ครบ ข้าพเจ้าได้รับความช่วยเหลือจากผู้กองธรรมนัสจากการแนะนำของผู้ใหญ่ โดยทางผู้กองให้ปริญญาให้โอนหุ้นจำนำประมาณ 400 กว่าล้านหุ้น ถือว่าผมโชคดี และหุ้นดังกล่าวโดนล็อคจำนำคือห้ามซื้อขายและยังไม่มีการชำระเงิน โดยทางผู้กองกล่าวว่า ถ้าเรื่องคลี่คลายก็อาจจะทำการโอนหุ้นคืนไปยังลูกค้าตามเจตนารมณ์ข้างต้น ดร.ประสิทธิ์ กล่าวว่า อาร์นีได้รับหุ้น ดีเอ็นเอ เป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันที่ 3 / 11 / 2560 จำนวน 185,000,000 หุ้น ที่ราคา 1.23 บาท เป็นเงิน 227, 550,000 และวันที่ 17 / 11 / 2560 จำนวน 160,000,000 หุ้น ที่ราคา 1.50 บาทเป็นมูลค่า 240 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะมีเอกสารการลงนามของผู้ซื้อและผู้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดร.ประสิทธิ์ กล่าวว่า หลังจากผู้กองได้รับหุ้น ได้คุยในเรื่องธุรกิจกับตน โดยให้ข้าพเจ้าในฐานะ Deal Maker โดยหาซื้อหุ้นนี้ให้ได้มากกว่า 65% ในราคาไม่เกิน 1.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งผู้กองและเพื่อนนักธุรกิจ ต้องการทำธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต โดยต้องการทำธุรกิจเดิมและหาธุรกิจใหม่ที่สามารถทำให้หุ้นตัวนี้มีปัจจัยพื้นฐานที่ดีและน่าลงทุนในระยะยาว ดร.ประสิทธิ์ กล่าวขอบคุณผู้กองที่ช่วยเจรจากับ นายปริญญา นำหุ้นมาคืน โดยหุ้นดังกล่าว ยังไม่ชำระเงินให้ลูกค้า และเป็นหุ้นที่ล็อคซื้อขาย และขอโทษที่ทำให้ผู้กองเดือดร้อน และมีชื่อผ่านสื่อต่างๆ

 

 

สำหรับกรณีข่าวลือที่ ตำรวจบุกบ้านนั้น ตอบว่า ตำรวจมาจริงและพูดคุยปกติและตำรวจมาพูดจาอย่างสุภาพเพื่อสอบถามในเรื่องกรณีดังกล่าวข้างต้น และในวันพฤหัสที่ 16 สิงหาคมนั้น ตนได้ไปกองปราบโดยไม่มีหมายเรียกแต่ไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ และไปให้ปากคำตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและยืนยันพร้อมที่จะไปให้ปากคำตลอดเวลาตามที่กองปราบต้องการ ดร.ประสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย โดยมีการสอนเรื่องปัจจัยพื้นฐานของการเล่นหุ้นอย่างชาญฉลาด และขอความเห็นใจจากสื่อ และพี่พี่นักข่าวทุกท่าน ในการลงข่าวสารต่างๆ ขอความเห็นใจในการลงข่าวสาร เพราะกระทบและเป็นห่วงความรู้สึกของแม่

 

 

 

NINE  คลอดหุ้นเพิ่มทุน 220.50  ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.40 บาท  ดึงทุนนอกและพวกรวมถือหุ้นกว่า 56%   คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 308.70  ล้านบาท  นำเงินเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพิ่มสภาพคล่อง  หวังหนุนนำรายได้ - กำไรเติบโต

 

นายพนา จันทรวิโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) NINE เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 7/2561 ซึ่งประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2561 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ แบบกำหนดวัตถุประสงค์ (Specific Objective) จำนวน 220,500,000 หุ้น ซึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ได้แก่ Silom Road Limited จำนวน 175,950,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.4000 บาท คิดเป็นมูลค่า 246,330,000 บาท นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร จำนวน 19,550,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.4000 บาท คิดเป็นมูลค่า 27,370,000 บาท และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล จำนวน 25,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1.4000 บาท คิดเป็นมูลค่า 35,000,000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 308,700,000 บาท และภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนในคราวนี้ Silom Road Limited นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในจำนวนร้อยละ 45.05 5.01 และ 6.40 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ตามลำดับ

 

 

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ Silom Road Limited นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล ที่ราคาหุ้นละ 1.4000 บาท ถือเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาตลาด ซึ่งไม่เกินกว่าร้อยละ 10 ของราคาตลาดตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ. 72/2558 เรื่อง การอนุญาตให้บริษัทจดทะเบียนเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศ ทจ. 72/2558”) (“การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ Silom Road Limited นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล”)

 

 

การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ Silom Road Limited นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล ดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพรเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ตามประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกันฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศรายการที่เกี่ยวโยงกันฯ”) จึงจำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันโดยมีมติอนุมัติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจานวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย ตามที่ปรากฏในวาระที่ 8 เรื่องการพิจารณาอนุมัติการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกันกรณีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร ของการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 อีกด้วย

 

 

นอกจากนี้ แม้บริษัทฯ จะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ Silom Road Limited นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล แล้ว บริษัทฯ จะต้อง (ก) ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 10 เรื่องการออกหุ้นและการโอนหุ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนหุ้นที่ถือโดยคนต่างด้าวในขณะใดขณะหนึ่งให้มีจำนวนรวมกันไม่เกินร้อยละ 49 ของจำนวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด (ข) ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ให้เข้าทารายการที่เกี่ยวโยงกันกรณีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และ (ค) ได้รับอนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัดจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามที่กำหนดในประกาศ ทจ. 72/2558 ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ Silom Road Limited นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล

 

 

อนึ่ง หาก Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร จองซื้อหุ้นจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร จนเต็มจำนวนจะส่งผลให้ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร ถือครองหุ้นของบริษัทฯ ในลักษณะที่เพิ่มขึ้นจนถึงหรือข้ามผ่านจุดที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกากับตลาดทุน ที่ ทจ.12/2554 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงากิจการ (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศ ทจ. 12/2554”) นอกจากนี้ ในการร่วมกันซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ของ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร มีการกระทาการอันมีลักษณะความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมที่เข้าลักษณะเป็นการกระทำร่วมกัน ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 7/2552 เรื่อง กาหนดลักษณะความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมที่เข้าลักษณะเป็นการกระทำร่วมกับบุคคลอื่น และการปฏิบัติการตามมาตรา 246 และมาตรา 247 (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศ ทจ. 7/2552”) ในการนี้ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร จะต้องมีหน้าที่ในการดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศ ทจ. 12/2554 ต่อไป

 

 

***รายละเอียดของการเสนอขาย***

ก) บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 220,500,000 หุ้นซึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ Silom Road Limited ในราคาหุ้นละ 1.4000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 246,330,000 บาท ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดให้แก่ Silom Road Limited ที่ราคาหุ้นละ 1.4000 บาท ถือเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาตลาด ตามที่กาหนดในประกาศ ทจ. 72/2558 และภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนในคราวนี้ Silom Road Limited จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในจำนวนร้อยละ 45.05 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ซึ่ง Silom Road Limited ชำระราคาหุ้นที่เสนอขายภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2561 Silom Road Limited เป็น company limited by shares ที่จัดตั้งขึ้นใน The British Virgin Islands (BVI) และมีนาย Peh Pit Tat สัญชาติมาเลเซีย เป็นกรรมการของบริษัท ถือเป็นนักลงทุนประเภทนิติบุคคลที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง ที่จะช่วยเสริมสนับสนุน และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทฯ ได้ ทั้งนี้เนื่องจาก บริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทย่อยที่มีการถือหุ้นร้อยละ 100 โดยบริษัทใหญ่ในลำดับบนสุดคือ Argyle Street Management Holding Limited (“ASMH”) ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ ของกลุ่มบุคคล 3 ราย ประกอบด้วย Mr. Kin Chan, Ms. Angie Yick Yee Li และ Mr. V-Nee Yeh

 

 

ในส่วนของประสบการณ์นั้น ASMH ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 และถือหุ้นร้อยละ 100 ใน Argyle Street Management Limited (ASM) ซึ่งเป็นบริษัทรับบริหารทรัพย์สินให้กองทุนต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเซีย โดยมีการลงทุนในหลากหลายธุรกิจและในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ลงทุนในตลาดทุน ตลาดเงิน การให้กู้ยืม หรือการถือครองทรัพย์สิน (Property) โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ASM มีสินทรัพย์ที่บริหารอยู่ประมาณ 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

 

นอกจากนี้ กลุ่มบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ ASMH ซึ่งเป็นผู้มีอานาจควบคุมสูงสุด (Ultimate Shareholders) ซึ่งประกอบด้วย Mr. V-Nee Yeh, Mr. Kin Chan และ Ms. Angie Yick Yee Li ยังเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในหลากหลายธุรกิจ เช่น Mr. V-Nee Yeh ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ASM จบการศึกษาปริญญาเอกจาก Columbia University’s School of Law ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์ด้านการบริหารและจัดการโดยเคยดารงตาแหน่งกรรมการใน Next Media Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหนังสือพิมพ์และนิตยสารรายใหญ่ของประเทศฮ่องกง และยังมีประสบการณ์ในด้านการเงินและการลงทุนในหลากหลายบริษัท อาทิ Lazard Freres (New York) และ Value Partners Limited ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนประเภท Non-Japan ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบัน Mr. V-Nee Yeh ยังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการกิตติมศักดิ์ในบริษัทดังกล่าวอีกด้วย นอกจากประสบการณ์ในด้านการบริหารธุรกิจแล้ว Mr. V-Nee Yeh ยังเคยดำรงตาแหน่งในหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กรรมการบริหารของรัฐบาลฮ่องกง (Executive Council of the Hong Kong Government) กรรมการใน Hong Kong Stock Exchange Mr. Kin Chan

 

 

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ ASM จบการศึกษาปริญญาตรีในด้านบริหารจาก Princeton University ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาโทด้านบริหารจาก Wharton School of the University of Pennsylvania ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบัน Mr. Kin Chan ยังดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการใน TIH Limited และเป็นกรรมการใน OUE Limited ซึ่งทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการอิสระใน Mount Gibson Iron Limited ซึ่งเป็นบริษัททาเหมืองแร่และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย และเป็นกรรมการใน Citic Resources Holdings Limited ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอีกด้วย Ms. Angie Yick Yee Li ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของ ASM จบการศึกษาปริญญาตรีในด้านบริหารและศิลปศาสตร์จากมหาวิทยาลัย California at Berkeley ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยได้รับทุนการศึกษาของ Sir Edward Youde Memorial Fund Scholarship จากรัฐบาลฮ่องกง นอกจากนี้ Ms. Angie Yick Yee Li ยังจบการศึกษาปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์จาก Columbia University ประเทศสหรัฐอเมริกา และ Executive MBA จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากการดำรงตำแหน่งใน ASM แล้ว Ms. Angie Yick Yee Li ยังเป็นกรรมการในบริษัท TIH Limited ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์

 

 

ข) บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 19,550,000 หุ้นซึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่ นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร ในราคาหุ้นละ 1.4000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 27,370,000 บาท ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดให้แก่ นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร ที่ราคาหุ้นละ 1.4000 บาท ถือเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาตลาดตามที่กาหนดในประกาศ ทจ. 72/2558 และภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนในคราวนี้ นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในจำนวนร้อยละ 5.01 ของทุนจดทะเบียนชาระแล้ว ซึ่ง นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร ชาระราคาหุ้นที่เสนอขายภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2561 นายวิโรจน์ ตั้งเจตนา จบปริญญาตรีสาขาการเงิน จากประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของ ASM Asia Recovery Fund ตำแหน่งที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) ตำแหน่งประธานคณะกรรมตรวจสอบและกรรมการอิสระของบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)และกรรมการอิสระของบริษัท ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) เป็นนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง ที่จะช่วยเสริมสนับสนุน และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทฯ ได้

 

 

ค) บริษัทฯ ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 25,000,000 หุ้นซึ่งมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่นางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล ในราคาหุ้นละ 1.4000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 35,000,000 บาท ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดให้แก่ นางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล ที่ราคาหุ้นละ 1.4000 บาท ถือเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในราคาที่มีส่วนลดไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาตลาดตามที่กำหนดในประกาศ ทจ. 72/2558 และภายหลังการเพิ่มทุนจดทะเบียนในคราวนี้ นางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในจำนวนร้อยละ 6.40 ของทุนจดทะเบียนชาระแล้ว ซึ่ง นางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล ชำระราคาหุ้นที่เสนอขายภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2561

 

 

นางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล เป็นนักลงทุนที่มีความสนใจลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและสามารถเจริญเติบโตได้ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ถือหุ้นและกรรมการผู้จัดการของบริษัทจากัดที่ประกอบธุรกิจโรงแรมในภาคใต้ซึ่งมีรายได้มั่นคง ณ สิ้นปี 2560 มีสินทรัพย์รวมประมาณ 44 ล้านบาท และมีประสบการณ์ในการบริหารกิจการโรงแรมรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมาเป็นระยะเวลายาวนาน ซึ่งเป็นนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง และมีศักยภาพในการลงทุนได้จริง ที่จะช่วยเสริมสนับสนุน และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้แก่บริษัทฯ ได้

 

 

กำหนดการขายภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2561 หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 มีมติอนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทฯ ข้อ 10 เรื่องการออกหุ้นและการโอนหุ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนหุ้นที่ถือโดยคนต่างด้าวในขณะใดขณะหนึ่งให้มีจานวนรวมกันไม่เกินร้อยละ 49 ของจานวนหุ้นที่จาหน่ายได้ทั้งหมด อนุมัติการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ Silom Road Limited นายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร และนางเตือนใจ ปุรินทราภิบาล และอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ให้เข้าทารายการที่เกี่ยวโยงกันกรณีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ให้แก่ Silom Road Limited และนายวิโรจน์ ตั้งเจตนาพร รวมทั้ง บริษัทฯ ได้ดำเนินการจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับข้อ 10 ดังกล่าวกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนมาใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงการใช้เงินทุนสำหรับลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งอาจจะมีในอนาคต ซึ่งท้ายที่สุดจะส่งผลให้รายได้และผลกำไรของบริษัทฯ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตามลำดับ

 

 

อนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ในวันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 11B อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ (อาคารเนชั่นทาวเวอร์ เดิม) ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260 และมอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทมีอำนาจในการพิจารณาแก้ไข วาระการประชุม วัน เวลา และสถานที่สำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ตามความเหมาะสมโดยพิจารณาประโยชน์และผลกระทบที่มีต่อบริษัทฯ เป็นสำคัญ

 

NINE      ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ