Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TU กระอัก บาทแข็งกระทบยอดขาย ปีนี้พลาดเป้าโต 5%

2,965

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (17 สิงหาคม 2561)

TU คาดยอดขายปีนี้พลาดเป้า ที่ตั้งเป้าโต 5% รับผลกระทบบาทแข็ง ระบุครึ่งปีแรก บาทแข็งค่าเฉลี่ย 9% ส่งผลให้ครึ่งปีแรกยอดขายหดตัวแล้ว 3.6% แต่ยังหวังตรึงอัตรากำไรขั้นต้นที่ 13.8% พร้อมตั้งงบลงทุนปีนี้ 4,800 ล้านบาท รองรับขยายธุรกิจทั่วไป ทั้
ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต - ซื้อเครื่องจักรใหม่ ด้าน 2 เซียนหุ้น แนะซื้อ TU คาดอัตรากำไรขั้นต้น 2H61 ดีขึ้น


นายบัลลังก์ ไวยานนท์ ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยอมรับยอดขายปีนี้จะพลาดเป้า ที่ตั้งเป้าโต 5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า ซึ่งครึ่งปีแรก เงินบาทแข็งค่าเฉลี่ย 9% ส่งผลให้ครึ่งปีแรกยอดขายหดตัวแล้ว 3.6%"เราคาดยอดขายปีนี้จะต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 5% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากอัตราการแลกเปลี่ยน ในครึ่งปีแรกเงินบาทแข็งค่า 9% เมื่อเทียบกับดอลร์ล่าสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อยอดขาย เนื่องจากมียอดขายจากต่างประเทศสัดส่วนอยู่ที่ 90%" นายบัลลังก์ กล่าว



อย่างไรก็ตาม ปีนี้ บริษัทฯจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ที่อยู่ในระดับ 13.8 % เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนเจรจากับคู่ค้าทางธุรกิจเพื่อต่อรองราคาต้นทุน และหวังว่าราคาวัตถุดิบจะเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทฯมีแผนขยายตลาดในประเทศไทย และประเทศจีนซึ่งล่าสุดบริษัทฯได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัท ธรรมชาติ ซีฟู้ดเป็นจำนวน 25% และถือหุ้นอยู่ในบริษัท TUMD Luxembourg S.A.R.I (TURM) 45% เพื่อกระจายความเสี่ยงของค่าเงินบาทสำหรับปีนี้บริษัทฯตั้งงบลงทุนไว้ที่ 4,800 ล้านบาท แบ่งใช้สำหรับการขยายธุรกิจทั่วไป ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และซื้อเครื่องจักรใหม่ทดแทนเครื่องจักรเดิม โดยครึ่งปีแรกใช้ไปแล้ว 2,500 ล้านบาท ซึ่งงบลงทุนดังกล่าวไม่รวมการเข้าซื้อกิจกาจ

 

 

 

 

2 เซียนหุ้น แนะซื้อ TU
คาดอัตรากำไรขั้นต้น 2H61 ดีขึ้น

 


บล.บัวหลวง ออกบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ เห็นการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรหลักอย่างมีนัยสำคัญ QoQ ในไตรมาส 2/61 จากจุดต่ำสุดในไตรมาส 1/61 แนวโน้มของการฟื้นตัวคาดว่าจะต่อเนื่องไปยังไตรมาส 3/61 และช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ซึ่งจะมีปัจจัยหนุนจากการปรับราคาขายอย่างต่อเนื่องสำหรับธุรกิจแบรนด์ ความสอดคล้องกันมากขึ้นระหว่างราคาวัตถุดิบรายวันและต้นทุนสต๊อกวัตถุดิบ และแนวทางการควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น TU

 

 

 

เนื่องจากการฟื้นตัวของกำไรหลัก (นำโดยการฟื้นตัวของมาร์จิ้นของธุรกิจปลาทูน่า) ราคาเป้าหมาย 22.50 บาท/หุ้น ถึงแม้ว่าธุรกิจแซลมอนแช่แข็งในยุโรปจะยังคงเป็นปัจจัยท้าทายสำหรับ TU (เนื่องจากราคาปลาแซลมอนที่ผันผวนมาก) และการต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อยหนึ่งปีกว่าที่ธุรกิจเรดล็อบสเตอร์จะพลิกกลับมาเป็นกำไรหลังจากที่เพิ่งเปลี่ยนทีมผู้บริหาร แต่เราก็ยังคงมั่นใจว่ากำไรหลักไตรมาส 3/61 ของ TU มีแนวโน้มเติบโต 29% QoQ มาอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาทหนุนโดยอัตรากำไรของธุรกิจปลาทูน่าที่ฟื้นตัว นอกจากนี้การควมคุมต้นทุนการดำเนินงานที่ดีขึ้นจะนำไปสู่ต้นทุนที่ลดลงได้อีก 1 พันล้านบาทในปี 2561 ทั้งนี้เราปรับลดประมาณการกำไรหลักปี 2561 ลงอีก 12% (เหลือ 3.77 พันล้านบาท) เพื่อสะท้อนกำไรหลักไตรมาส 2/61 ที่ต่ำกว่าคาด แต่ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2561 ไว้เท่าเดิม

 

 


ด้านบล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ TU ประเมินราคาเป้าหมาย 20 บาท/หุ้น มีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากการประชุมนักวิเคราะห์ ทั้งนี้ TU รายงานกำไรสุทธิ 2Q18 ที่ 9.6 ล้านบาท -99.3%YoY,-98.9%YoY เนื่องจากต้องตั้งสำรองค่ายอมความในคดีฟ้องร้อง Chicken of the Sea ขณะที่ในส่วนของการดำเนินงานปกติ ราคาต้นทุนปลาทูน่าลดลงและมีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มดีขึ้น เรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018 โดยครึงปีหลังจะเป็นฤดูกาลที่มีคำสั่งซื้อมากเพื่อรองรับการทานอาหารนอกบ้าน และคำสั่งซื้อเพื่อรองรับช่วงคริสตมาส(pre-Christmas order) เราคาดว่า TU ผ่านจุดที่แย่สุดแล้ว และจะเข้าสู่ high season ในครึ่งปีหลัง ราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจากที่ลงไปต่ำสุดในช่วงปลายเดือนมิ.ย. แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าในอดีตช่วงที่ราคาต้นทุนทูน่าต่ำ เราประเมินมูลค่าโดย PE เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 18.5 เท่า กับกำไรปกติ ได้ราคาเหมาะสมที่ 20 บาท คงแนะนำ "ซื้อ"

 

 

 

คาดแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นใน 2H18 ปรับตัวดีขึ้นจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าที่ลดลงและมีความผันผวนน้อยลง โดยบริษัทฯคาดว่าราคาทูน่าจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1600 USD/ton ใน2H18 สำหรับ 2Q18 อัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวอยู่ที่ 13.8% เทียบกับ 11.3% ใน 1Q18 หนุนโดยราคาต้นทุนทูน่าจากสต็อกของปลาที่ถูกจากไตรมาสก่อนเข้าสู่ขบวนการผลิตมากขึ้น

 

ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2018 ที่ 5.1 พันล้านบาท โดยกำไรปกติ 1H18 คิดเป็น 42% ของทั้งปี แต่ผลประกอบการในครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกตามฤดูกาลและคำสั่งซื้อที่มากขึ้น โดยใน 3Q18 จะเป็นฤดูกาลที่มีคำสั่งซื้อมากเพื่อรองรับความต้องการที่สูงของการทานอาหารนอกบ้าน และในช่วงปลาย 3Q18 ถึงกลาง 4Q18 จะเป็นความต้องการเพื่อรองรับคำสั่งซื้อก่อนช่วงคริสตมาส (pre-Christmas order) ขณะที่ต้นทุนปลาทูน่าที่ถูก 1,300-1,600 USD/ton จะช่วยหนุนอัตรากำไรใน 218 ดีขึ้นเป็น 14%-15% ได้ อย่างไรก็ตาม เรามีการปรับลดกำไรสุทธิปี 2018 ลง 8% เนื่องจากการตั้งสำรองเป็นจำนวน 44 milUSD (1,427 พันล้านบาท) ใน 2Q18 สำหรับค่ายอมความในคดีฟ้องร้อง Chicken of the Sea และปรับกำไรปี 2019 ขึ้น 5% สะท้อนมาร์จิ้นเพิ่มจาก 14.1% เป็น 14.7%

 

 

คงคำแนะนำ "ซื้อ แต่ปรับราคาเป้าหมายขึ้น เป็น 20 บาท (จากเดิมที่ 17 บาท) โดยเราได้ปรับ PER เป้าหมายขึ้นเป็น 18.5 เท่าของกำไรปกติ (เท่ากับค่าเฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลัง) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่16.0 เท่า (-0.5SD ของค่าเฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลัง) ราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาจากที่ลงไปต่ำสุดในช่วงปลายเดือนมิ.ย. แต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าในอดีตช่วงที่ราคาต้นทุนทูน่าต่ำ ในขณะที่เราคาดว่ากำไรของ TU ผ่านจุดทีต่ำสุดแล้ว และจะเข้าสู่ high season ในครึ่งปีหลัง ดังนั้นเรายังคงแนะนำ "ซื้อ"

 

ความเสี่ยง: กฎระเบียบและมาตรการกีดกันทางการค้า การเปลี่ยนแปลงของราคาทูน่า สภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหารทะเล ความผันผวนของสกุลเงินต่างประเทศ

 

TU

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ความหวัง By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้หุ้นไทยปรับขึ้นตามหุ้นต่างประเทศด้วยมีความหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ....

ตามตัวเลข By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม นั่งเล่นในดงกล้วย มองดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของบ้านเราที่ประกาศออกมา ทั้งตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค.ที่หดตัวเป็น...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้