Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : BANPU ปักหมุดรายได้ปี 61 โต 25% BPP ลุ้น EBITDA ปีนี้แจ่มกว่าปีก่อน

4,072

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (16 สิงหาคม 2561)

BANPU ตั้งเป้า รายได้ปี 61 โต 25% หลังปริมาณการขายถ่านหิน-ราคาถ่านหินเพิ่มขึ้น คงเป้าปริมาณขายถ่านหินที่ 45 ล้านตัน ด้าน BPP คาดปีนี้ EBITDA ดีกว่าปีก่อน แม้มีหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสาในลาว คาดสิ้นปีนี้ COD แตะ 2,160 Mw

 

นางสาวสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่ารายได้ปี 2561 อยู่ที่ 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25% จากปี 2560 ที่ทำได้ 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผลจากราคาขายถ่านหินที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดราคาขายถ่านหินในตลาดโลกอยู่ที่ระดับ 119 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน อีกทั้งบริษัทฯยังมีปริมาณถ่านหินที่ยังไม่ได้ขายล่วงหน้าอีก ทำให้ราคาขายถ่านหินในอนาคตอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นได้ทั้งนี้บริษัทฯยังคงเป้าหมายปริมาณการขายถ่านหินในปี 2561 ไว้ที่ระดับ 45 ล้านตัน ซึ่งได้ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่อยู่ที่ระดับ 42 ล้านตัน แบ่งเป็น ปริมาณการขายในประเทศออสเตรเลียจำนวน 14.10 ล้านตัน ประเทศอินโดนีเซียจำนวน 26 ล้านตัน และประเทศจีนจำนวน 4.70 ล้านตัน ซึ่งบริษัทฯได้มีการขายล่วงหน้าไปแล้วประมาณ 97%

 

 


ขณะที่แนวโน้มราคาถ่านหินในช่วงครึ่งหลังปี 2561 บริษัทฯคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ซึ่งเป็นผลจากปริมาณความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในประเทศ อินเดีย จีน และไทย โดยเฉพาะประเทศอินเดียยังคงมีปริมาณการใช้ถ่านหินที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้ยังคงมีปัจจัยจากนโยบายด้านถ่านหินของประเทศจีนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาถ่านหินในช่วงที่เหลือของปี 2561อีกทั้งบริษัทฯได้วางงบลงทุนในปี 2561 ไว้ 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับการเข้าซื้อกิจการเพิ่ม ซึ่งบริษัทฯได้มีการใช้เงินลงทุนไปแล้วจำนวน 120 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่วนที่เหลือจะแบ่งเป็นการลงทุนในการซื้อแหล่งเซลล์แก๊ซที่สหรัฐฯ จำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และส่วนเหลือจะเป็นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า และเหมืองถ่านหิน

 

 


อนึ่ง ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2561 มีรายได้จากการขายรวม 813 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26,964 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 180 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,711 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายถ่านหินและราคาขายถ่านหินเฉลี่ยที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) ในไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 290 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 9,618 ล้านบาท) ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 27.8 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เท่ากับ 124 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4,112 ล้านบาท) สูงขึ้นเกือบเท่าตัวจากกำไรสุทธิ 66 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

 



ด้านนายสุธี สุขเรือน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) BPP เปิดเผยว่า คาดกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี, ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีนี้จะดีกว่าปีก่อน ที่ระดับ 5,410 ล้านบาท แม้ครึ่งหลังของปีนี้จะมีหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าหงสาในลาว และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ซึ่งเป็นการหยุดในระดับใกล้เคียงกับปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าหงสาใน สปป. ลาว จะเดินเครื่องได้มีประสิทธิภาพอนึ่ง ครึ่งแรกปีนี้ EBITDA อยู่ที่ 3,742 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/61 มี EBITDA จำนวน 2,108 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาสก่อนหน้าพร้อมกันนี้ บริษัทฯคาด จะมีการจะมีโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้งสิ้น 2,160 เมกะวัตต์ ในสิ้นปีนี้ จากปีก่อนที่ 2,068 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 28 แห่งในไทย,ลาว,จีน,ญี่ปุ่น และเวียดนาม กำลังผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 2,869 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอย COD ครบในปี 2566


นอกจากนี้ บริษัทยังคงมองหาโอกาสการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ โครงการใหม่ต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 4,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 68 โดยในส่วนนี้จะเป็นโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน 20% จากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแล้วสัดส่วน 16% ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 80 ล้านเหรียญสหรัฐ รองรับการลงทุนในมือและโครงการใหม่ ๆ ที่จะเข้ามา โดยเฉพาะในแถบเอเชียแปซิฟิก อย่างเวียดนามที่มีศักยภาพการเติบโต และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ตลอดจนในประเทศด้วย โดยมองโอกาสทั้งโครงการพลังงานลม แสงแดด และถ่านหิน

 



สำหรับการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (Shanxi Lu Guang: SLG) ในจีนยังคงดำเนินไปตามแผนเพื่อให้โครงการทั้ง 2 หน่วย กำลังผลิตติดตั้ง 1,320 เมกะวัตต์ พร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในปี 2562-2563 เช่นเดียวกับการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นก็คืบหน้าตามแผนอย่างชัดเจน ล่าสุดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มุกะวะ (Mukawa) กำลังผลิตติดตั้ง 17 เมกะวัตต์ สามารถ COD ได้อย่างราบรื่น เมื่อรวมกับการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม ส่งผลให้ปัจจุบัน บ้านปู เพาเวอร์ฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าและโรงไฟฟ้าทั้งหมด 28 แห่ง ในประเทศไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม แบ่งเป็น COD แล้ว 16 โรงไฟฟ้า และอยู่ระหว่างการพัฒนา 12 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 2,869 เมกะวัตต์เทียบเท่า หากนับเฉพาะกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนของโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วคิดเป็น 2,129.2 เมกะวัตต์เทียบเท่า เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป 1,955 เมกะวัตต์เทียบเท่า และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 174.2 เมกะวัตต์

 

BANPU     BPP

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

SNNP รับรางวัล Supplier ดีเด่นจากแม็คโคร

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

PTG ลงนาม MOU กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และองค์กรภาคีเครือข่ายร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูป่าชายเลน

เก็งหุ้น By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อยขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแกว่งขึ้น ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนการเล่นการเทรดเป็นไปตามแรง...

มัลติมีเดีย

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

APO มาเหนือเฆม - สายตรงอินไซด์ - 2 เม.ย.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้