สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (3 สิงหาคม 2561) DCC ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 10% หลังปรับราคาขึ้นราคาขายเฉลี่ย 5-6 % คาดอัตรากำไรสุทธิปีนี้ อยู่ที่ 15-16% จากปีก่อนอยู่ที่ 15.11% วางงบลงทุน 3 พันลบ. เพื่อปรับปรุงสาขาเดิม-ซื้อที่ดินเปิดสาขาใหม่ คาดแผนควบรวมกิจการ RCI ชัดเจนปี 62 ระบุปัจจุบันถือหุ้นใหญ่ 17% เริ่มเจรจากับนักลงทุนสถาบันมากขึ้น เผย 14 ส.ค. นี้ ออกโรดโชว์พบ 12 กองทุน หวังเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันแตะ 18-19% จากปัจจุบันอยู่ที่ 13%

นายมารุต แสงศาสตรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2561 เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 7,392.66 ล้านบาท และจะรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 15-16% จากปี2560 ที่มีอัตรากำไรอยู่ที่ 15.11% ขณะที่ไตรมาสแรกมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 12.52% ทั้งนี้ประเมินตลาดวัสดุก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง มีแนวโน้มดีกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่บริษัทฯจะปรับราคาขายกระเบื้องเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 5-6% ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรของบริษัทฯ สูงขึ้น อีกทั้งจะขยายตลาดไปสู่ลูกค้าระดับบนมากขึ้น เช่นงานโครงการ และบริษัทฯ ยังมีสาขาครอบคลุมกว่า 200 แห่ง ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและสะดวกขึ้น

ขณะที่บริษัทฯ เตรียมเงินลงทุนจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ (DCC-W1) ที่จะเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 8 พ.ค.2562 จนถึง 8 พ.ค.2564 โดยคาดว่าจะได้เงินประมาณ 3,000 ล้านบาท บริษัทฯ มีแผนจะนำเงินที่ได้รับมาใช้ลงทุน 3 ส่วน ประกอบด้วย การปรับรูปแบบพื้นที่สาขาเดิมให้มีพื้นที่ให้เช่า โดยในปีนี้จะเริ่มปรับรูปแบบ 21 สาขา ใช้งบลงทุนราว 15 ล้านบาท และในปี 2562 จะเพิ่มขึ้นเป็น 61 สาขา และมีแผนเปิดสาขาใหม่ในรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์วัสดุก่อสร้าง โดยปีนี้คาดจะเริ่มก่อสร้างได้ 5 สาขา และภายในปี 2563 จะมีสาขาแบบคอมมูนิตี้มอลล์ครบ 12 สาขา

นอกจากนี้ จะเจรจากับเซเว่น อีเลฟเว่น และ แฟมิลี่มาร์ท ให้มาเช่าพื้นที่การเปิดสาขา โดยบริษัทมีพื้นที่มีศักยภาพในการเปิดร้านสะดวกซื้อ 23 สาขา ซึ่งจะต้องสรุปรายใดรายหนึ่งภายในปี 2562 ขณะที่คาดว่าภายในปี 2563 จะมีสัดส่วนรายได้จากการเช่าพื้นที่เป็น 300 ล้านบาท จากปีนี้คาดมีรายได้ 10 ล้านบาท หลังจากล่าสุดเป็นพันธมิตรกับ บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่นจำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ที่เข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อนำสินค้าของ ZIGA มาขายในสาขาของ DCC เบื้องต้น 10 สาขาในภาคตะวันออกสำหรับความร่วมมือกับ ZIGA ในการนำสินค้าของ ZIGA เข้ามาจัดจำหน่ายในสาขาของบริษัทฯที่กระจายอยู่ทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้ามากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากกระเบื้องเซรามิค ทำให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น “จุดเด่นของเรา คือ มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 200 สาขา ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและสะดวกขึ้น ซึ่งการเพิ่มสินค้าของ ZIGA เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสาขาจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทฯเพิ่มขึ้น โดยเป็นไปตามนโยบายที่เราตั้งเป้าจะเป็นศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างได้ในอนาคต” นายมารุต กล่าว

พร้อมกันนี้ปี 2562 บริษัทจะใช้งบลงทุน 600 ล้านบาทเพื่อขยายอาคารและเพิ่มกำลังการผลิต จากปัจจุบันมีกำลังผลิตรวม 71 ล้านตารางเมตรต่อปี จะเพิ่มเป็น 80 ล้านตารางเมตรต่อปี คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 3/2562 ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภายการผลิตมากขึ้น นายมารุต กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มีแผนจะควบรวมกิจการกับ บมจ.โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม (RCI) หลังจาก DCC เข้าถือหุ้นใหญ่ใน RCI สัดส่วน 17% คาดว่าจะเห็นความชัดเจนของแผนงานภายในปี 2562 โดย RCI เป็นผู้นำด้านกระเบื้องบุผนัง ซึ่งมีตลาดที่ชัดเจน และ DCC จะเข้าไปช่วยเรื่อง Know How ของธุรกิจเพื่อต่อยอดในอนาคต นายมารุต กล่าวทิ้งท้ายว่า ทิศทางการลงทุนของบริษัทฯ มีความน่าสนใจ ทำให้บริษัทฯ จะเริ่มเจรจากับนักลงทุนสถาบันมากขึ้นหลังจากไม่ได้ออกไปให้ข้อมูลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยช่วงที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับนักลงทุนสถาบันทั้งสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งวันที่ 14 ส.ค. 2561 จะเดินทางไปโรดโชว์ร่วมกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เพื่อพบ 12 กองทุน โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนนักลงทุนสถาบันไปที่ 18-19% ใกล้เคียงในอดีต จากปัจจุบันอยู่ที่ 13%

DCC