Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : BEAUTY ยังไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน หลังราคาหุ้นร่วง

12,620

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (4 กรกฏาคม 2561)  BEAUTY ตั้งโต๊ะแถลงข่าว โต้ทุกข่าวลือฉุดหุ้นดิ่ง ยันไม่มีออร์เดอร์ปลอม(เมคออเดอร์) -ไม่มีปัญหาคุณภาพการผลิต เหตุฐานการผลิตในตปท. ทั้งเกาหลี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เยอรมันได้มาตรฐาน ระบุไม่มีแผนซื้อหุ้นคืนหลังราคาหุ้นร่วง แต่ขอเน้นบริหารให้มีประสิทธิภาพ สร้างผลประกอบการเติบโต มองแนวโน้ม Q2/61 ต่ำกว่าเป้า แต่มั่นใจรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 20% ยันคงเป้ารายได้ 4.29 พันลบ.

บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) BEAUTY เปิดแถลงข่าว ชี้แจงทุกข่าวลือที่เป็นสาเหตุให้ราคาหุ้นร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันว่าไม่มีการปลอมออร์เดอร์ (เมคออเดอร์) พร้อมยืนยันไม่มีปัญหาคุณภาพการผลิต เนื่องจากฐานการผลิตในต่างประเทศ ทั้งเกาหลี อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เยอรมันได้มาตรฐาน
นายแพทย์สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY กล่าวด้วยว่าบริษัทฯยัง ไม่มีแผนซื้อหุ้นคืนหลังราคาหุ้นร่วง แต่ขอเน้นบริหารให้มีประสิทธิภาพ สร้างผลประกอบการเติบโต

 

 

โดยปีนี้ยังคงรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 20 % และยังคงเป้าหมายการเติบโตของทั้งปีไว้เช่นเดิมที่รายได้ไม่ต่ำกว่า 4,290 ล้านบาทใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ O2O (Online to Offline synchronization) ใช้สื่อออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มรวมทั้ง Influencer ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิด Engagement กับลูกค้าในวงกว้าง กระตุ้นการสร้างยอดขายให้แก่ช่องทางออฟไลน์ และ ออนไลน์มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่รองรับเทรนด์ความต้องการ ซึ่งการที่บริษัทพัฒนาความสามารถของพนักงานหน้าร้าน ให้สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ได้ทั้งช่องทาง Online และ Offline นั้น ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น กระแสความนิยมของผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกันนี้ ขอยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่มีการขายหุ้นออกมาอีกแล้ว แม้ ส่วนตัวจะมีการขายหุ้น Big Lot มาหลายครั้ง โดย จะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นของส่วนตัวและครอบครัวไม่ต่ำกว่า 20% เพื่อเป็นผู้บริหารที่สามารถกำหนดนโยบายได้

 


"ในกรณีการขายหุ้นบิ๊กล็อต มีความตั้งใจที่จะคงสัดส่วนการถือหุ้นไว้ที่ระดับ 20% ส่วนหุ้นที่ขายไปไม่ได้มีเจตนาที่จะลดระดับผู้ถือหุ้นลง โดยจะเน้นการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่า และไม่ได้มีแผนที่จะออกจากบริษัทฯ ยืนยันว่ายังเป็นผู้บริหารและกำหนดนโยบายต่อไป ส่วนกรณีการปลอม ออร์เดอร์ (เมคออเดอร์) บริษัทฯไม่ได้มีบริษัทส่วนตัวและไม่มีบริษัทลูกในต่างประเทศ ในการสั่งซื้อออเดอร์เข้ามาหรือมีการสั่งออเดอร์ล่วงหน้า ทั้งนี้บริษัทฯอยู่ในตลาดฯมานานกว่า 5-6 ปี จึงทำให้มั่นในศักยภาพของบริษัทว่าจะมีการเติบโตที่ดีบริษัทฯยืนยันว่าไม่มีปัญหาด้านคุณภาพในการผลิต เนื่องจากฐานการผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย เกาหลี ญี่ปุ่น และเยอรมัน มีมาตรฐานในการผลิตและผ่านการตรวจสอบจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

 

 

อย่างไรก็ตามบริษัทฯคาดว่าแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/2561 จะลดลงต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ เนื่องจากสินค้าจากร้าน BEAUTY COTTAGE บางกลุ่มมียอดขายที่ลดลง หลังมีกระแสสินค้าที่ไม่ได้รับมาตารฐานตามสำนักคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน เนื่องจากขบวนการนำเข้าและการตรวจสอบต่างๆมีการรัดกุมมากขึ้น จึงทำให้สินค้ามีการส่งออกที่ล่าช้า แต่ทั้งนี้บริษัทฯมองว่าเป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้นขณะที่ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 บริษัทฯยังได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่คือ LUXURY ในร้าน BEAUTY COTTAGE เพื่อมาทดแทนสินค้าบางกลุ่มที่ได้รับความนิยมลดลง และสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์รวมถึงมาตรฐานของสินค้ามากขึ้น

 

ส่วนแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของตลาดในประเทศ บริษัทฯเตรียมที่จะขยายสาขาของทุก Shop Brand โดยเน้นการขยายสาขาไปต่างจังหวัด หัวเมืองท่องเที่ยวและในกรุงเทพ รวมทั้งการพัฒนาสินค้าและขยายช่องทางจำหน่ายเข้าสู่ตลาดคอนซูเมอร์ที่เป็น Mass Market เพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการเจรจากับ 7-11 ปรับขนาดสินค้าเพื่อจะนำไปวางจำหน่ายใน 7-11 กว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ รองรับกำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าในประเทศ นักท่องเที่ยวทั้งจีนและประเทศอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ด้านตลาดต่างประเทศ บริษัทจะยังมุ่งเน้นช่องทางขายรูปแบบใหม่ Cross-border E-commerce หรือ การซื้อขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ได้รุกขยายไปในจีนแล้ว ปัจจุบัน BEAUTY มีช่องทางจำหน่ายในอีคอมเมิร์ซทั้ง 5 เว็บไซต์สำคัญของจีน ได้แก่ TMALL, KAOLA, VIP, YUNJI และ JD ซึ่งเป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซใหญ่อันดับต้นของจีน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายสำหรับ 5 แพลตฟอร์มนี้ไว้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท/ปี เริ่มทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้

 

 

นอกจากนี้ยังมีการขยายตลาดเชิงรุกในต่างประเทศมากขึ้น โดยเน้นการสร้าง “Shop License” และ “Product Distributor” ในกลุ่มประเทศ AEC ซึ่งรูปแบบการขายสินค้าจะเป็นช่องทางการจำหน่ายที่เข้าถึงง่ายทั้ง Offline Retailer และ Online Retailer ที่ได้รับความนิยมในแต่ละประเทศ อีกทั้งได้มีตัวแทนจำหน่ายใน 9 ประเทศเป้าหมายเรียบร้อย คือ ในรูปแบบ Independent Shop จำนวน 17 สาขา ที่ประเทศฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รูปแบบ Counter sale จำนวน 10 จุดจำหน่ายที่ประเทศ ลาวและเมียนม่า และรูปแบบ Shop in Shop จำนวน 131 จุดจำหน่าย คือ ฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย อินโดนีเซีย
ในไตรมาส 3/2561 มีแผนจะเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายใน 3 ประเทศ คือตะวันออกกลาง สิงคโปร์ และกัมพูชา โดยจะมีการจัดประชุม Annual Meeting ตัวแทนจำหน่ายพร้อมกันทั้ง 11 ประเทศเพื่อวางแผนขยายตลาดสู่ความเป็นรีจินอลแบรนด์ (Regional Brand) ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 348 สาขา แบ่งเป็น BEAUTY BUFFET 265 สาขา BEAUTY COTTAGE 75 สาขา BEAUTY MARKET 8 สาขา อีกทั้งยังมีจุดขาย ณ คิง พาวเวอร์ 8 สาขา 22 จุดจำหน่าย วางจำหน่ายสินค้าผ่านร้าน 7-ELEVEN จำนวน 650 สาขา และ Boots 145 สาขา


ปิดการซื้อขายวันนี้ ราคาหุ้น BEAUTY อยู่ที่ 9.10 บาท ลดลง 3.90 บาท หรือ 30% มูลค่าการซื้อขาย 1.09 หมื่นล้านบาท

 BEAUTY 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

MMM เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

MMM เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

เจ๊ชะเอม เคลมหุ้น (7 พ.ย. 68)

เจ๊ชะเอม เคลมหุ้น เห็นเส้นกราฟ เส้นเทคนิคของ ดัชนีหุ้นไทย กลับมายืนเหนือ 1,300 จุด..

จิ้งจอกเฒ่า (7 พ.ย. 68)

จิ้งจอกเฒ่า เห็นสภาวะตลาดหุ้นไทย ในตอนนี้ ก็ได้แต่ ก็ต้องทำใจ เข้าใจ และปรับตัว ...

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้