สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (8 มิถุนายน 2561)    - "พระนาย กังวาลรัตน์" บิ๊ก PSTC อัพเดทแผนนำ BIGGAS เข้าตลาดหุ้น ล่าสุด ตั้งบล.ฟินันเซีย ไซรัส เป็นกุนซือ หวังดัน BIGGAS เข้า SET ปี 63

นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) PSTC เปิดเผยว่า วันที่ 8 มิถุนายน 2561 บริษัท PSTC โดยนายภาณุ ศีติสาร ประธานกรรมการ บริษัท PSTC และนายธนัช ปวรวิปุลยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Biggas ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการนำบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จำกัด (BIGGAS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยตั้งเป้าเข้าจดทะเบียนในตลาด SET ในปี 2563

ทั้งนี้เพื่อระดมทุนในการขยายงานด้านการค้าปลีก / ส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว ก๊าซธรรมชาติเหลวและการให้บริการทางด้านวิศวกรรมพลังงาน รวมถึงการลงทุนในโครงการท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติ EIA ในปลายปีนี้ Biggas ได้ถูก PSTC เข้าควบรวมโดยถือหุ้น 51% เมื่อปลายปี 2560 โดยปี 2560 Biggas มีรายได้กว่า 1,200 ล้าน และปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโต 100% ซึ่งจากงบไตรมาส 1 ที่เปิดเผยผ่านตลาดตัว Biggas กำไรร่วม 20 ล้าน นอกจากนี้ Biggas มีโครงการในมือที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คือโครงการวางท่อขนส่งน้ำมันส่วนขยายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากจังหวัดสระบุรีไปจังหวัดข่อนแก่น โดยอยู่ระหว่างการทำการวิเคราะห์ผลตอบแทนการลงทุน และมูลค่าการลงทุนเพื่อเสนอขออนุมัติผู้ถือหุ้นต่อไปในปลายปีนี้

นอกจากนี้โครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศเวียตนาม ทางบริษัทน่าจะบรรลุข้อตกลงในการเข้าลงทุนภายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยโครงการดังกล่าวได้สัญญา PPA แล้วมีขนาดกำลังการผลิต 50 MW มูลค่าโครงการประมาณ 48 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้บริษัทร่วมทุนที่เวียตนามนี้ตั้งเป้าที่จะได้ใบอนุญาต PPA อีกกว่า 150 MW ภายใน 1 ปีข้างหน้าตามโครงการสนับสนุนของรัฐบาลเวียตนาม และโครงการแรกนี้ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทยด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษปล่อยกู้เป็นระยะเวลา 15 ปี

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายพระนาย เปิดเผยว่า ตั้งเป้ายื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงต้นปี 2563 และคาดว่า BIGGAS จะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นปลายไตรมาส 2/2563 สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจของBIGGAS ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่ง BIGGAS ประกอบธุรกิจด้านวิศวกรรมพลังงานและจำหน่ายเชื้อเพลิงประเภทก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/61 ของ PSTC คาดรายได้จะเติบโตมากกว่าไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ารายได้ปี 2561 เติบโตมากกว่า 200% จากปี 2560 ที่มีรายได้ 1,362.66 ล้านบาท อนึ่ง PSTC รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2561 มีกำไรสุทธิ 24.36 ล้านบาท และมีรายได้ 658.39 ล้านบาท

ด้าน"หลุยส์ เตชะอุบล" แม่ทัพ TRITN ประกาศปรับเป้ารายได้ปีนี้เป็นทะลุ 3 พันลบ. จากเดิมคาดโต 80% หลังมี Backlog กว่า 4 พันลบ. ยื่นประมูลงานใหม่ 2 หมื่นลบ. หวังได้งาน 5 พันลบ. - 1 หมื่นลบ.

นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN เปิดเผยว่า บริษัทฯปรับเป้ารายได้ปี 2561 เป็นไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้ารายได้เติบโต 80% จากปีก่อนที่มีรายได้ 969.75 ล้านบาท เนื่องจาก บมจ.สเตรกา (STREGA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่มีงานในมือ (Backlog) กว่า 4,000 ล้านบาท จะสามารถรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้กว่า 50% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่มีรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านเข้ามาสนับสนุนอีกราว 80-100 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีป้ายโฆษณาเปิดให้บริการแล้ว จำนวน 80 ป้าย โดยตั้งอยู่ในส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างต่างจังหวัด ซึ่งมีการรับรู้รายได้มาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังไม่มีแผนที่จะเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง"ธุรกิจสื่อโฆษณายังมีแนวโน้มดี และธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่ดำเนินการโดย STREGA เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดย STREGA สามารถทำรายได้ให้กับบริษัทฯได้ถึง 80% โดยในปี 2561 บริษัท STREGA มี Backlog อยู่ 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ ประมาณ 50%" นางสาวหลุยส์ กล่าว

พร้อมกันนี้ STREGA ยังมีโอกาสได้รับงานประมูลใหม่ โดยบริษัทฯอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ในปีนี้ 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานในประเทศ 10,000 ล้านบาทและงานต่างประเทศ 10,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯคาดหวังว่าจะได้งานประมูล มูลค่า 5,000-10,000 ซึ่งขณะนี้บริษัทฯได้รับงานจากการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. มูลค่า 150 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/2561 และบริษัทยังจะเข้าประมูลงานประเภทขุดเจาะ ประมูลงานธุรกิจน้ำมัน และในไตรมาส 2/2561

อีกทั้งบริษัทฯก็อยู่ระหว่างเซ็นสัญญางานใหม่อีก มูลค่า 300-400 ล้านบาท ส่วนงานประมูลที่ต่างประเทศ มูลค่า 10,000 ล้านบาท บริษัทฯจะแบ่งเป็นงานวางท่อก๊าซ ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งบริษัทฯคาดว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซในประเทศเวียดนาม มีโอกาสที่จะเติบโตได้ดี รวมถึงบริษัทฯจะเข้าประมูลงานก่อสร้างคลังน้ำมันที่ประเทศเมียนมาโดยคาดว่าจะสามารถทอยยรับรู้ได้ภายในปี 2561 อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ชะลอแผนที่จะนำบริษัท STREGA เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไว้ก่อน เนื่องจาก STREGA ยังสร้างรายได้หลักให้บริษัทฯ ขณะที่คาดว่ามีการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มของ STREGA จากปัจจุบันที่บริษัทฯ ได้มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 84%