Today’s NEWS FEED

News Feed

ดีลอยท์ เผยผลสำรวจ Deloitte APEC CEO Survey 2025 พบผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อมั่นในการเติบโตของ APEC ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

105

 สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(18 ธันวาคม 2568)-------ประเด็นสำคัญ:


• ผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 47 ระบุว่า ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์เป็นความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อการเติบโตทางธุรกิจในปัจจุบัน


• ผู้นำส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เข้าร่วมการสำรวจ มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มของบริษัทตนเอง (ร้อยละ 75) และเศรษฐกิจ APEC (ร้อยละ 66) แต่มีไม่ถึงครึ่ง (ร้อยละ 46) ที่แสดงความรู้สึกเช่นเดียวกันต่อเศรษฐกิจโลก


• ร้อยละ 45 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตหลักของตนในปัจจุบัน


• ในอีก 3 ปีข้างหน้า นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ใหม่จะมีความสำคัญเป็นอันดับแรกต้นๆ (ร้อยละ 47)


• ร้อยละ 50 ของผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแผนที่จะขยายหรือกระจายความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของตนภายในปีหน้า


• ผู้นำส่วนใหญ่ (ร้อยละ 73) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งใจที่จะเพิ่มการลงทุนด้านความยั่งยืนในปีหน้า เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 32 ในปีที่ผ่านมา


• ความต้องการในการควบรวมกิจการ (M&A) และการตัดสินใจด้านเงินทุนที่เด็ดขาดกำลังเพิ่มสูงขึ้น โดย ร้อยละ 42 ของผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแผนที่จะเจรจาข้อตกลงอย่างจริงจังในปีหน้า และ ร้อยละ 61 มีแผนที่จะทำเช่นนั้นในอีก 3 ปีข้างหน้า

กรุงเทพฯ – 18 ธันวาคม 2568 – รายงานผลการสำรวจ 'Bridging the Certainty Gap' ของ CEO ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกครั้งแรกของดีลอยท์ ซึ่งจัดทำเพื่อสำรวจทัศนคติของผู้บริหารในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) โดยตรวจสอบมุมมองของผู้นำทางธุรกิจเกี่ยวกับองค์กรของตนและเศรษฐกิจโลก ตลอดจนมุมมองเกี่ยวกับความเสี่ยง โอกาส กลยุทธ์ด้านเงินทุน ความยั่งยืน ภูมิรัฐศาสตร์ และอิทธิพลของเทคโนโลยีเกิดใหม่และ AI

การสำรวจได้รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำธุรกิจอาวุโสใน APEC จำนวน 1,252 คน ครอบคลุม 18 เขตเศรษฐกิจ และกว่า 12 อุตสาหกรรม ตั้งแต่บริษัทข้ามชาติ องค์กรระดับภูมิภาค ไปจนถึงบริษัทเอกชนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ในจำนวนผู้นำที่ตอบแบบสอบถาม มีผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 270 คน

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้นำกำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยความเชื่อมั่น โดยตระหนักถึงโอกาสภายในภูมิภาค APEC แต่มีทัศนคติเชิงลบเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกในวงกว้าง ผู้นำส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจ (ร้อยละ 75) มีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มของบริษัทตนเอง สำหรับเศรษฐกิจ APEC นั้น ร้อยละ 66 มีมุมมองที่เป็นบวก แต่มีไม่ถึงครึ่ง (ร้อยละ 46) ที่แสดงความรู้สึกเช่นเดียวกันต่อเศรษฐกิจโลก

“ผู้นำองค์กรทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความมั่นใจในผลการดำเนินงานของบริษัทตนเอง และมองเห็นโอกาสที่เป็นรูปธรรมในความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แต่ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกกิจโลก เรามองว่านี่คือ ช่องว่างแห่งความแน่นอน ที่ผู้นำองค์กรต้องเติมเต็มด้วยวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ รวมทั้งเปลี่ยนความไม่แน่นอนนี้ให้เป็นโอกาส” นายยูจีน โฮ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีลอยท์ เซาท์อีสต์เอเชีย กล่าว

“ผลสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่า ผู้นำธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บริหารจัดการความเสี่ยงด้วยการกระจายความหลากหลายในห่วงโซ่อุปทาน และชะลอการลงทุนครั้งใหญ่ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ พวกเขาใช้เทคโนโลยีเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ก็มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมและความยั่งยืนในระยะยาว นอกเหนือจากความกังวลในระยะสั้น ผู้นำองค์กรกำลังบูรณาการ AI เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน และเตรียมความพร้อมสำหรับการรายงานความยั่งยืนและการเงินที่ยั่งยืนตามข้อกำหนด ความสามารถในการปรับตัวโดยมีเป้าหมายเช่นนี้ช่วยให้ธุรกิจในภูมิภาคเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากความร่วมมือภายในกลุ่ม APEC” นายยูจีน กล่าวเสริม

การเติบโต: ปัจจัยขับเคลื่อน จุดเปลี่ยน และเส้นทาง
ผู้นำองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโต แต่กลยุทธ์ของพวกเขากำลังเปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้นเพียงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปเน้นการขยายตัวด้วยนวัตกรรม และการสร้างโอกาสทางมูลค่าใหม่ข้ามพรมแดน นอกจากนั้น สภาพแวดล้อมที่มีความพลวัตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกำลังสร้างความต้องการใหม่ ๆ ต่อทั้งองค์กรและผู้นำ

แม้ว่าผู้นำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบันจะระบุว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตอันดับหนึ่ง (ร้อยละ 45) แต่แนวโน้มดังกล่าวกำลังเปลี่ยนไป ภายใน 3 ปีข้างหน้า ร้อยละ 47 ของผู้นำจะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ใหม่และนวัตกรรม (เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 28 ในปัจจุบัน) นอกจากนี้ การขยายตัวทางภูมิศาสตร์ ก็กำลังเพิ่มแรงส่ง โดยผู้บริหารคาดว่า รายได้มากกว่าครึ่งหนึ่งจะมาจากเศรษฐกิจในกลุ่ม APEC ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 17 ในปัจจุบันเป็น ร้อยละ 35 ภายใน 3 ปี

การดำเนินงานและห่วงโซ่อุปทาน: การสร้างความยืดหยุ่นในอนาคต
สำหรับผู้นำองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ห่วงโซ่อุปทานถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสามารถปรับตัว มีความคล่องตัว และเป็นส่วนสำคัญต่อกลยุทธ์การแข่งขัน

ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ผู้นำองค์กรครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 50) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะขยายหรือกระจายความหลากหลายของห่วงโซ่อุปทานของตน โดยบางส่วนกำลังสร้างความยืดหยุ่นเชิงกลยุทธ์ผ่านศูนย์กลางระดับภูมิภาค ซัพพลายเออร์ทางเลือก และการมองเห็นประสิทธิภาพของซัพพลายเออร์และการไหลของโลจิสติกส์แบบดิจิตัล มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง ร้อยละ 12 เท่านั้นที่คาดว่าจะไม่มีผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของพวกเขา

แรงผลักดันด้านความยั่งยืน
ความยั่งยืนก็มีความสำคัญเพิ่มขึ้นในหมู่ผู้นำเช่นกัน แม้ว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีผู้นำเพียง ร้อยละ 21ที่คาดว่าจะเกิดความปั่นป่วนต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจของตนภายใน 12 เดือนข้างหน้า แต่คาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 40 ภายใน 3 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ ร้อยละ 69 ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าความยั่งยืนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อกลยุทธ์ด้านเงินทุน ท่ามกลางความโดดเด่นที่เพิ่มขึ้นของการเงินที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้