สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 15 ธันวาคม 2568 )------- บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) UBIS เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท 8/2568 เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2568 โดยได้มีมติอนุมัติการเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์โดยการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท Metal Printing Indústria e Comércio Ltda (“MP”) จาก กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 1,440,522 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62.41 ของ จำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ MP ในราคาหุ้นละ BRL 17.35 (สกุลเงินของประเทศบราซิล) รวมเป็นเงินจำนวน BRL 25,000,000 หรือประมาณ 147.75 ล้านบาท อ้างอิง 1 BRL เท่ากับ 5.91 บาท โดยเป็นค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 180 วัน อ้างอิง จาก World Bank ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 (ไม่รวมภาระภาษี ค่าธรรมเนียมการโอน ค่าด าเนินธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง) โดยจะ ทำการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นของ MP คือ (1) Ms. Maria Luiza Perez Molinari (2) Mr. Fernando Alberto Gomes (3) Mr. Gustavo Perez Molinari (4) Mr. José Rogério Garcia (“ผู้ขาย”) ซึ่งถือหุ้นใน MP รวมกันจำนวน 1,440,522 หุ้น ซึ่งผู้ขาย ไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท โดยต่อไปนี้จะเรียกธุรกรรมดังกล่าวว่า “ธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน MP”

ในการนี้ บริษัทจะชำระค่าตอบแทนสำหรับธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน MP เป็นเงินสดที่ได้รับจากกระแสเงินสด จากการดำเนินงานของบริษัท

บริษัทจะเข้าทำธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน MP ภายหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท และภายหลังจากที่เงื่อนไขบังคับก่อนภายใต้สัญญาซื่อขายหุ้นของ MP เป็นผลสำเร็จ และ/หรือได้รับการผ่อนผันจาก คู่สัญญาฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้บริษัทคาดว่าธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นสามัญใน MP จะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2 ปี 2569

อนึ่ง MP ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ แลกเกอร์ และสารเคลือบเงาบนแผ่นเหล็ก รวมถึงฝากระป๋องทุก ชนิด ให้แก่ลูกค้าในประเทศบราซิลเป็นหลัก

ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นกับบริษัท บริษัทคาดว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่บริษัท ดังต่อไปนี้

(1)การเข้าถึงตลาดใหม่ในภูมิภาคอเมริกาใต้และประเทศใกล้เคียง จะช่วยให้บริษัท สามารถขยายฐานลูกค้าได้ ทันที โดยไม่ต้องใช้เวลาหรือทรัพยากรในการสร้างเครือข่ายลูกค้าใหม่ ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและ เพิ่มยอดขายรวมถึงรายได้อย่างต่อเนื่อง

(2)การลงทุนนี้จะช่วยเพิ้มอำนาจในการแข่งขันให้กับบริษัท โดยสามารถลดจำนวนคู่แข่งและสร้างความ ได้เปรียบในตลาด อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการครองส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

(3)บริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่กว้างขวาง ช่วยลดความ เสี่ยงจากการพึ่งพาผลิตภัณฑ์ที่จำกัดและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

(4)การลงทุนนี้จะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตในระยะยาว ลดความผันผวนของรายได้จากการ พึ่งพาตลาดเดิม ๆ ทำให้บริษัทมีเสถียรภาพในการสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง บริษัทสามารถนำ ผลิตภัณฑ์หรือเทคโนโลยีที่มีอยู่ของบริษัทเป้าหมายมาปรับปรุงและต่อยอดเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ ทันที ช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด การใช้ทรัพยากร ทางเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่มีอยู่ยังช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มความหลากหลายและความแตกต่างให้กับ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทใน ระยะยาว