Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

80

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 9 ธ.ค.68 ปิด +8.48 จุด อยู่ที่ 1,269.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 25,889 ลบ. ต่างชาติซื้อ 911 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 554 ลบ. สถาบันขาย 1,566 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,209 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 816ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น AOT,DELTA,SCB,BH,BDMS และยอดขายหุ้น KBANK,MINT,TRUE,PTTEP,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,263 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CNROBOAI23, CNSEMI23, HK01 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 2,689 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 95,192 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 237ลบ.

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐ (พุธ 10 ธ.ค.) ปิดบวก ดัชนี DJI +1.05%, S&P500 +0.67%, Nasdaq +0.33% หนุนจากเฟดลดดอกเบี้ยลง 25% (มติ 9 ต่อ 3) ตามคาดสู่ระดับ 3.50-3.75% โดยในแถลงการณ์ระบุว่าตลาดแรงงานมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง ส่งผลให้ตอบรับทางบวก US 10Yr Bond Yield เริ่มปรับลง ท่ามกลางความคาดหวังเฟดจะเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยงลงอีกในปีหน้า สอดคล้องกับรายงาน Dot Plot ที่คาดการณ์ว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% จำนวน 1 ครั้ง ในปี 2569 และลด 0.25% อีก 1 ครั้งในปี 2570 (ไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งก่อนในเดือน ก.ย.) อย่างไรก็ตามเฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ US GDP ในปี 2568-2569 จากเดิม 1.6%, 1.8% เป็น 1.7%, 2.3% คงอัตราการขยายตัวในระยะยาวที่ 1.8% คาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2568-2569 ที่ 4.5%, 4.4% คงเดิม ขณะที่อัตราการว่างงานระยะยาวอยู่ที่ระดับ 4.2% คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อตามดัชนี PCE ในปี 2568-2569 ที่ 3.0%, 2.5% ลดลงจากเดิมเล็กน้อย
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัว ดัชนี STOXX 600 +0.07% ถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่มยานยนต์ อากาศยานและกลาโหม หลังจากปรับขึ้นไปในช่วงก่อนหน้า ส่วนกลุ่มที่หนุนตลาดได้แก่ ธนาคาร พลังงาน บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมนักลงทุนรอผลการประชุมเฟดและถ้อยแถลงของพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยในปี 2569 ขณะที่ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่า ECB อาจปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงแข็งแกร่ง ด้านตลาดหุ้นลอนดอน ดัชนี FTSE100 +0.14% นักลงทุนรอข้อมูล UK GDP เดือน ต.ค.ที่จะประกาศวันศุกร์ อีกทั้งตลาดคาดว่า BoE จะปรับลดดอกเบี้ย 25% ในสัปดาห์หน้า
  • ตลาดหุ้นเอเชียปิดลบ ดัชนี Shanghai Composite -0.23% จากสัญญาณเงินฝืดหลังสำนักงานสถิติจีน (NBS) เปิดเผยตัวเลข PPI จีนเดือน พ.ย.-20%YoY (vs คาดการณ์ -2% และเดือน ต.ค.-2.1%YoY) ส่วนตัวเลข CPI จีนเดือน พ.ย.+0.7%YoY (vs เดือน ต.ค.+0.2%YoY) โดยวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ยืดเยื้อและตลาดแรงงานอ่อนแอ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง +0.42% โดยโปลิตบูโรของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เน้นย้ำถึงการกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศในปี 2568 แต่ก็ส่งสัญญาณถึงการระมัดระวังในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้านดัชนี Nikkei -0.1% ระหว่างรอผลการประชุมเฟด และการประชุม BOJ วันที่ 18-19 ธ.ค.ที่อาจตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • SET วันอังคารที่ผ่านมา +0.67% ปริมาณการซื้อขาย 59 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 911 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 554 ลบ. สถาบันขาย 1,566 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,209 ลบ. ภาพรวมตลาดไทยมีการซื้อขายเบาบางก่อนวันหยุด และแม้ว่าจะยังมีแรงกดดันจากสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ดัชนีสามารถปรับตัวสูงขึ้นได้หนุนด้วย DELTA +2.86%(ส่งผลต่อ SET +5.39 จุด) และเริ่มมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากคาดการณ์กนง.ลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า รวมถึงหุ้นใหญ่ในกลุ่มปลอดภัย เช่น กลุ่มสื่อสาร(ทิศทางรายได้ 4Q68 ยังดี) กลุ่มโรงพยาบาล(ได้ประโยชน์จากฝนตกและโรคระบาดที่กินเข้ามาไตรมาส4) กลุ่มโรงไฟฟ้า(ราคาก๊าซอ่อนตัว) ส่วนการประชุม ครม. รอบที่ผ่านมา หลายมาตรการเศรษฐกิจจะไปเข้าสัปดาห์หน้าแทน เช่น โครงการ TISA และ คนละครึ่งพลัส เฟส2 ทั้งนี้ ประเด็นการลงทุนในประเทศที่ยังต้องติดตาม ได้แก่ 1.สถานการณ์การเมืองหลังเปิดสภา 2.ชายแดนไทย-กัมพูชา และ 3.การประชุมกนง. 17 ธ.ค.68.  

   Daily Strategy

  • ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,255-1,265 จุด แนวต้าน 1,275-1,285 ปรับขึ้นได้ตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในภูมิภาคจากการลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ยังคาดหวังกับ fund flow ได้ยากจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 68-69 ที่ชะลอตัว ผลจากสงคราม อุทกภัย หนี้สินครับเรือนที่กดดันกำลังซื้อ ดังนั้นทยอยซื้อกลุ่ม Defensive สื่อสาร-ร.พ. ADVANC, TRUE, BDMS หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของ กนง.ในสัปดาห์หน้า SAWAD, MTC, CPALL รวมถึงมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ERW, MINT, CENTEL, CPN
  • TOA* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 17.70 บาท)บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 688 ล้านบาท +6%QoQ, +266%YoY หนุนจากยอดขายที่กลับมาเติบโต YoY จากตลาดต่างประเทศ ขณะที่ GPM อยู่ในระดับ 38% หนุนจากต้นทุน TiO2 และ Oil link ที่ปรับลดลง แนวโน้ม 4Q68 คาดว่าจะยังได้รับประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลงอยู่ ส่วนรายได้คาดเติบโตได้ QoQ, YoY จากตลาดเมียนมาและเวียดนาม ส่วนประเทศไทยคาดมี demand ซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม สำหรับแนวโน้มปี 69 บริษัทตั้งเป้ารายได้ในไทย +2%ToT และต่างประเทศ +10%YoY ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่7 พันล้านบาท +39%YoY และ 2.9 พันล้านบาท +9%YoY
  • ADVANC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 345.0บาท)กำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 12,039 ลบ.(+37%YoY, +10%QoQ) มีแรงหนุนทั้งในเชิงรายได้ที่สูงขึ้นและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลง โดยฝั่งรายได้บวกจาก 1.การปลี่ยนถ่ายแพกเกจมือถือไปเป็น 5G และการอัพเกรดแพกเกจอินเตอร์เน็ต 2.การให้บริการลูกค้าองกรณ์(EDS, Cloud) และ 3.การขาย iPhone17 ขณะที่ฝั่ง Cost ลดทั้งค่าเสื่อม และค่าใช้จ่ายโครงข่าย/ค่าใช้จ่ายการเป็นพันธมิตรกับ NT ส่วน 4Q68 เบื้องต้นคาดการดำเนินงานปกติจะยัง +YoY +QoQ หนุนตามฤดูกาลและEconomies of Scale

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ม.ค.+$0.21 อยู่ที่ $58.46 / บาร์เรล, Brent ก.พ. +$0.27 อยู่ที่ $62.21/บาร์เรล ปรับตัวชึ้นตามความตึงเครียดที่สูงขึ้นระหว่างสหรัฐฯและเวเนซุเอลาหลังมีรายงานว่าสหรัฐฯยึดเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา

 

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ. -$11.50 อยู่ที่ $4,224.70 /ออนซ์ ปิดลบรับแรงขายทำกำไร โดยตลาดทองคำปิดก่อนที่การประขุมธนาคารกลางสหรัฐฯจะประกาศผลการตัดสินใจเกี่ยวกับดอกเบี้ย

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -15.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลาดหุ้นไทยปิดทำการ ขายหุ้นอินโดฯ -2.60 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นฟิลิปปินส์ -13.31 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(-) ค่าเงินบาทเช้านี้แข็งค่าอยู่ที่ 31.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 4.141 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -127 อยู่ที่ 2,430

(-) BitCoin เช้านี้ -1.25% อยู่ที่ 90,923 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 Economic Calendar

 

ในประเทศ

17 ธ.ค.     ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 6/2568

สัปดาห์ที2 ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

ต่างประเทศ

09 ธ.ค.     US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (ก.ย.)

10 ธ.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ต.ค.)              

11 ธ.ค.     US การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ FOMC

US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย          

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

               

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: WHAUP*, BDMS, ADVANC, AMATA, TOP,PTT

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลงยาก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เมื่อเดือนธันวาคม เปิดมาต้นเดือน จนถึง 9 ธันวาคม ต่างชาติซื้อหุ้นไทย 5,566.63 ล้านบาท ส่วน....

HotNews: PTG ลุยธุรกิจ “ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย”

PTG ส่ง "กาแฟพันธุ์ไทย" จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ "ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย" รุกตลาด Street Food แสนล้าน...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้