Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

87

 

 


ปัจจัยภายนอกยังหนุนตลาดหุ้นนอก ส่วนไทยรอก่อน


HORIZON MARKET VIEW
• วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นราว +0.3% ถึง +1.3% ด้วยแรงหนุนจาก FEDมีมติ 9:3 ปรับลดดอกเบี้ย 25 BPS. สู่ระดับ 3.75% โดย POWELL ระบุว่า การปรับครั้งนี้ช่วยรักษาตลาดแรงงานและให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% หลังผลกระทบจากภาษีหมดไป อีกทั้งยังคงย้ำว่าการตัดสินใจครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ
• นอกจากนี้ POWELL ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัว เนื่องจากผลกระทบเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีเป็นเพียงชั่วคราว รวมถึงมีแรงหนุนเชิงบวกจากประเด็นที่ FED ประกาศเริ่มซื้อพันธบัตรระยะสั้น มูลค่า 4 หมื่นล้านเหรียญฯ ต่อเดือนเพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการเงิน (ไม่ใช่การกลับไปทำ QE)
• อย่างไรก็ตาม การประชุม BOJ วันที่ 19 ธ.ค อาจเห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้กระแสข่าว YEN CARRY TRADE มีจำนวนมากขึ้น เสี่ยงสร้างความกังวลให้กับตลาดหุ้นได

 


REGION RADAR
•NVIDIA แนวโน้มไตรมาส 4 สดใส บริษัทคาดรายได้จะอยู่ที่ราว $6.5หมื่นล้าน +65% YOY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ อีกทั้งตลาดได้มีการปรับคาดการณ์กำไรของ NVIDIA ขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้แนะนำเก็งกำไร NVIDIA (DR: NVDA80)
• ESTEE LAUDER (EL US) +4.52% หลังน้ำหอมในประเทศจีนกำลังเข้าสู่ช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยแบรนด์หรูจากต่างประเทศอย่าง TOM FORD BEAUTY และ JO MALONE มียอดขายในจีนขยายตัวแบบตัวเลขสองหลัก (DOUBLE-DIGIT GROWTH)


THAI FOCUS
• ตลาดคาดว่า กนง. จะ "ลดดอกเบี้ย" ในการประชุม 17 ธ.ค.68 (จาก1.50% เหลือ 1.25%) มีเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นก่อนการประชุม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ลดดอกเบี้ยเพื่อประคองเศรษฐกิจ ทั้งน้ำท่วมภาคใต้, การปะทะชายแดนไทย-กัมพุชารอบใหม่ เป็นต้น
• แต่หากดอกเบี้ยนโยบายของไทยเริ่มนิ่ง (หยุดลด) ต้องระวังว่า BONDYIELD 10 ปี อาจจะเร่งตัวขึ้น ในระยะถัดไปเพื่อให้ส่วนต่างของ BONDYIELD กับ POLICY RATE กลับสู่ภาวะปกต


SYNAPSE STRATEGY
• FUND FLOW ไหลเข้าหุ้นไทยทุกวันในเดือนนี้ 5.6 พันล้านบาท และมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่องจาก DIVIDEND YIELD หุ้นไทยที่สูงกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ที่4.2% และมีDIVIDEND YIELD GAP 2.7% หรือเกือบ 3% (กรณีกนง. ลดดอกเบี้ย) อีกทั้งภาพรวมกำไรงวด 4Q68 มีโอกาสเติบโต YOY แรงมากจากฐานต่ำ สวนทางกังวลเศรษฐกิจชะลอ
• ส่วนหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ ERW, CK, WHA รับความคาดหวัง MEGAPROJECT จากภาครัฐใหม่ๆ เข้ามาในปี 2569

 

 

HORIZON MARKET VIEW
FED ลดดอกเบี้ยตามคาด แต่ยังต้องระวังความกังวล YEN CARRY TRADE
วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นราว +0.3% ถึง +1.3% ด้วยแรงหนุนจาก FED มีมติ 9:3 ปรับลดดอกเบี้ย25 BPS. สู่ระดับ 3.75% โดย POWELL ระบุว่า การปรับครั้งนี้ช่วยรักษาตลาดแรงงานและให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% หลังผลกระทบจากภาษีหมดไป อีกทั้งยังคงย้ำว่าการตัดสินใจครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ (DATA-DEPENDENT) ขณะที่คาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยของ DOT PLOT สะท้อนถึงความไม่แน่นอนต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปี2569 (มีการเปลี่ยนประธาน FED) แต่เบื้องต้นคาดว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง

 

นอกจากนี้ POWELL ยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัว เนื่องจากผลกระทบเงินเฟ้อจากมาตรการภาษีเป็นเพียงชั่วคราว โดยได้ปรับคาดการณ์GDP 2026F เพิ่มขึ้นเป็น 2.3% (จาก 1.8%) และเงินเฟ้อ2026F ลดลงเหลือ 2.4% (จาก 2.6%)

รวมถึงมีแรงหนุนเชิงบวกจากประเด็นที่ FED ประกาศเริ่มซื้อพันธบัตรระยะสั้น (TREASURY BILLS) ตั้งแต่วันที่12 ธ.ค. 68 มูลค่า 4 หมื่นล้านเหรียญฯ ต่อเดือน เพื่อบรรเทาต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นและเสริมสภาพคล่องในระบบการเงิน (ไม่ใช่การกลับไปทำ QE)


อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์หน้าอาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้น จากการเดินหน้านโยบายการเงินที่มีโอกาสแตกต่างกันระหว่าง FED และ BOJโดยล่าสุด CONSENSUS คาดว่า BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ย +25 BPS. ในการประชุมวันที่19 ธ.ค. 68ซึ่งในปัจจุบันกระแสข่าว “YEN CARRY TRADE” ใน SOCIAL MEDIA เริ่มมีจำนวนมากขึ้น สะท้อนถึงความกังวลที่อาจตามมาดังเช่นในอดีต โดยเฉพาะในช่วงที่ BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ย ทั้งนี้ ความกังวล “YEN CARRY TRADE” เกิดการดึงเม็ดเงินออกจากสหรัฐฯ และไหลเข้าญี่ปุ่น โดยตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. - 16 ก.ย.67 เงินเยนแข็งค่าขึ้น 7.8% (152.8  140.6 YEN/USD) กดดันค่าเงิน ดอลลาร์อ่อนค่าลงราว 3.6%ส่วนแง่มุมของตลาดหุ้น หลังจากที่ BOJ เซอร์ไพร์สปรับขึ้นดอกเบี้ย เคยกดดัน S&P500 ผันผวนหนัก ร่วงลงราว8.5% นอกจากนี้ในช่วงที่ BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามคาด ยังสร้างความผันผวนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เช่นกัน


REGION RADAR
NVIDIA แนวโน้มไตรมาส 4 สดใส
แนวโน้มในไตรมาส 4 ของ NVIDIA บริษัทคาดรายได้จะอยู่ที่ราว $6.5 หมื่นล้าน +65% YOY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ด้าน GPM คาดอยู่ที่ระดับ 75% สูงกว่าที่ตลาดคาดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม GUIDANCE ครั้งล่าสุดไม่รวมรายได้จากประเทศจีน ซึ่ง TRUMP ได้อนุญาตให้ NVIDIA ส่งชิป H200 ไปจีนได้อีกครั้ง


ตลาดได้มีการปรับคาดการณ์กำไรของ NVIDIA ขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยเฉพาะในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาหลังจากบริษัทได้มีการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งและให้ GUIDANCE ไตรมาส 4 ที่เติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้ปรับประมาณการกำไรขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ราคาหุ้นได้มีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ


ด้าน VALUATION ปัจจุบันราคาหุ้นมีการซื้อขายที่ FORWARD P/E 26X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ระดับ37เท่า (-1SD)


น้ำหอมประเทศจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแบรนด์ในเครือ ESTEE LAUDER
ESTEE LAUDER (EL US) +4.52% หลังน้ำหอมในประเทศจีนกำลังเข้าสู่ช่วงของการเติบโตอย่างรวดเร็ว จากที่เคยเป็นหมวดหมู่เล็กๆ เฉพาะกลุ่ม กลายมาเป็นหนึ่งในหมวดหมู่ที่คนในอุตสาหกรรมความงามจับตามองมากที่สุด โดยแบรนด์หรูจากต่างประเทศอย่าง TOM FORD BEAUTY และ JO MALONE มียอดขายในจีนขยายตัวแบบตัวเลขสองหลัก (DOUBLE-DIGIT GROWTH)


THAI FOCUS
คาดหวังการลดดอกเบี้ยของ กนง. แต่ระวัง BOND YIELD 10 ปีดีดตัวขึ้น
ตลาดคาดว่า กนง. จะ "ลดดอกเบี้ย" ในการประชุม 17 ธ.ค.68 (จาก 1.50% เหลือ 1.25%) มีเหตุการณ์ใหญ่ที่เกิดขึ้นก่อนการประชุม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้ลดดอกเบี้ยเพื่อประคองเศรษฐกิจ ทั้งน้ำท่วมภาคใต้, การปะทะชายแดนไทย-กัมพุชารอบใหม่ เป็นต้น อีกทั้งสถานการณ์ปัจจุบันส่วนต่าง (SPREAD) ระหว่าง THAI BONDYIELD 10 ปี- POLICY RATE อยู่ที่ระดับต่ำเพียง 0.18% ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ1.46% มาก โดยสถิติในอดีต เมื่อวงจรดอกเบี้ยขาลงเข้าสู่ช่วงท้าย (เหลือการลดดอกเบี้ยอีกราว 1-2 ครั้ง ก่อนจะคงดอกเบี้ย) มักจะเกิดปรากฏการณ์ที่ BOND YIELD 10ปี ดีดตัวขึ้น สูงกว่า POLICY RATE (ดอกเบี้ยนโยบาย) กลับเข้าสู่ภาวะปกติที่เป็น UPWARD SLOPE

ดังนั้นในช่วงสั้นอาจเห็นการลดดอกเบี้ยของ กนง. ในการประชุมเดือน ธ.ค.68 ราว 25 BPS. แต่หากดอกเบี้ยนโยบายของไทยเริ่มนิ่ง (หยุดลด) ส่วนต่างของ BOND YIELD กับ POLICY RATE กลับสู่ภาวะปกติ อาจหนุนเศรษฐกิจค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับได

SYNAPSE STRATEGY
หวัง FUND FLOW ต่างชาติพยุงหุ้นไทยต่อเนื่อง
ในเดือน ธ.ค. FUND FLOW ไหลเข้าหุ้นไทยทุกวันในเดือนนี้ 5.6 พันล้านบาท (ปีนี้ซื้อสุทธิแค่ 2 ใน 12 เดือน) และมีโอกาสไหลเข้าต่อเนื่อง จาก DIVIDEND YIELD หุ้นไทยที่สูงกว่าตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ ที่ 4.2% เทียบตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว ญี่ปุ่น 1.7%, สหรัฐ1.2% เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมี DIVIDEND YIELD GAP (DIVIDEND YIELD 4.2% – POLICY RATE1.5%) สูงถึง 2.7% หรือเกือบ 3% (กรณีกนง. ลดดอกเบี้ย ในเดือนนี้อีก 0.25%) ซึ่งในอดีต DIVIDEND YIELD GAP ระดับนี้มักเห็น FUND FLOW ทยอยเข้ามาสะสม


อีกทั้งภาพรวมกำไรงวด 4Q68 มีโอกาสเติบโต YOY แรงมากจากฐานต่ำ สวนทางกังวลเศรษฐกิจชะลอ โดยกำไรงวด 4Q67 แบบรวมหุ้น THAI เข้าไปเหลือค่ 1.32 แสนล้านบาท เทียบกับฐานกำไรปกติที่ 2.5 แสนล้านบาทต่อไตรมาส แสดงให้เห็นว่ากำไรงวด 4Q68 มีโอกาสเติบโตแรงระดับ 90%YOY ขึ้นไปได้ หนุนให้ TRAILING P/E ลดลงมาก

ส่วนหุ้นเด่นวันนี้ แนะนำ ERW, CK, WHA รับความคาดหวัง MEGA PROJECT จากภาครัฐใหม่ๆ เข้ามาในปี2569

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ลงยาก By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เมื่อเดือนธันวาคม เปิดมาต้นเดือน จนถึง 9 ธันวาคม ต่างชาติซื้อหุ้นไทย 5,566.63 ล้านบาท ส่วน....

HotNews: PTG ลุยธุรกิจ “ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย”

PTG ส่ง "กาแฟพันธุ์ไทย" จัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ "ก๋วยเตี๋ยวเรือพันธุ์ไทย" รุกตลาด Street Food แสนล้าน...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้