Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

87

 

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook

แนวโน้มสินทรัพย์ต่างประเทศ ประเด็นสำคัญจากรายงาน Cross Asset เดือนธันวาคม | Part 4
สรุปเรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวหนี้สาธารณะของญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นคือกรณีที่สะท้อนว่า ตัวเลขหนี้สาธารณะที่สูงลิ่ว ไม่ได้เป็นสัญญาณวิกฤตเสมอไป หากโครงสร้างเศรษฐกิจรองรับได้อย่างเป็นระบบ จุดตั้งต้นของความเข้าใจผิดอยู่ที่การมองหนี้แบบ Gross Debt ซึ่งไม่ได้สะท้อนความเสี่ยงจริง เพราะญี่ปุ่นมีสินทรัพย์ภาครัฐจำนวนมากทำให้ Net Debt ต่ำกว่ามาก และยังมีระบบเจ้าหนี้ที่เป็นคนในประเทศกว่า 90% จึงไม่เสี่ยงเงินทุนไหลออกแบบกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ การจ่ายดอกเบี้ยยังหมุนเวียนกลับเข้ารัฐผ่านธนาคารกลาง ส่งผลให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายจริงของญี่ปุ่นอยู่ในระดับต่ำกว่าหลายๆ ประเทศในกลุ่ม OECD
เมื่อรัฐสามารถกู้ยืมเป็นสกุลเงินของตนเอง ความเสี่ยงค่าเงินจึงไม่กดดันเหมือนประเทศที่เคยประสบปัญหาทางการเงินอื่นๆ ขณะที่สังคมผู้สูงวัยของญี่ปุ่นสร้างอุปสงค์มหาศาลต่อสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้พันธบัตรรัฐบาลทำหน้าที่เสมือนที่พักพิงเงินออม มากกว่าจะเป็นหนี้ที่คุกคามความมั่นคงทางการคลัง
ภาพรวมทั้งหมดจึงไม่ได้หมายความว่า ญี่ปุ่นรอดพ้นจากวิกฤตเพราะตัวเลขหนี้ไม่สำคัญ แต่เป็นเพราะภายใต้บริบทสังคมผู้สูงวัย พันธบัตรรัฐบาลไม่ได้เป็นเพียงภาระหนี้ แต่คือกลไกจำเป็นที่ทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อรองรับเงินออมสะสมจำนวนมหาศาลของภาคครัวเรือน ดังนั้น ตัวเลขหนี้ที่ปรากฏจึงมิใช่สัญญาณการล่มสลาย แต่เป็นผลลัพธ์ของระบบที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาเงินฝืดและการบริหารความมั่งคั่งของประเทศ



สรุปภาพตลาดวานนี้ SET เหยียบระเบิด หลังข่าวความรุนแรงกัมพูชา-ไทยกลับมารุนแรง ทำให้หุ้นไทยปิดลบแรงอีกครั้ง นอกเหนือจาก DELTA พาตลาดลงปกติ ยังพบว่าการลงกระจายไปยังหลายหุ้นใหญ่ THAI พลังงาน PTT GULF ธนาคาร SCB KTB ค้าปลีก CPAXT CRC ส่วนหุ้นกระทบตงจากกัมพูชาอย่าง CBG ก็ย่อลงแรงกว่าปกติ สำหรับหุ้นบวกเด่นสวนตลาด MINT TRUE BH

แนวโน้มตลาดวันนี้ ขึ้นสลับย่อ
หุ้นไทยวันนี้คาดแกว่งในกรอบเดิม 1250-1280 จุด โดยหุ้นนำตลาดจะไม่ได้เป็นรายกลุ่ม แต่ขึ้นอยู่กับหุ้นรายตัว ซึ่งเป็นไปตามที่เราตั้งข้อสังเกตหุ้นไทยรอบนี้...
จากรูปแบบการเล่นหุ้นที่ โฟกัสเป็นตัวๆไป และตลาดเลือกเล่นตามโมเมนตั้มรายตัวมากกว่า ธีมของการเล่นหุ้นแบบยกกลุ่ม (เช่น เมื่อวาน MINT บวก แต่ CENTEL ลง, ซื้อ TRUE ขาย ADVANC) รวมถึงแรงขายที่กดดันราคาหุ้นรายตัวจากความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา (CBG)
กลยุทธ์เน้นการ ซื้อแล้วถือ และคอยเฝ้าพฤติกรรมราคาหุ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งติดตามประเด็นที่มีผลบวกหรือลบ ต่อราคาหุ้นที่เราแนะนำ เพื่อตัดสินใจที่จะถือต่อ หรือ ขายตัดขาดทุน...
ปัจจัยต่างประเทศที่ติดตาม: เฟดเตรียมลดดอกเบี้ยต่อในการประชุม 10 ธ.ค. และยุติโครงการ QT แล้วรอดูตัวเลขงบดุลเฟดว่ามีการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มแค่ไหน
ด้านปัจจัยในประเทศ: กนง.มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในการประชุม 17 ธ.ค. การประกาศใช้โครงการ TISA ออมหุ้นไทยลดหย่อนภาษีตรง, FTSE Rebalance เพิ่มหุ้น THAI เข้าดัชนี Large Cap ถอด AWC…
เราคงคาดว่าหุ้นไทยยังคงอยู่ในแนวโน้ม ขึ้นสลับย่อ โดยยังไม่หลุดกรอบล่าง 1250 จุด แต่ต้องระวังหากหลุดแนวรับสำคัญนี้ อาจทำให้แนวโน้มเปลี่ยนไป และแนวต้านระยะสั้น 1280 จุด

กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ “รอ” สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลง ไม่ไล่ราคา เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค SET ร่วง! ผิดคาด ปรับลงมา test เส้น EMA 200 วัน ถ้าจะรักษาโมเมนตัมขาขึ้น จะต้องยืนสู้ให้ได้หรือกรณีหลุด จะต้องรีบดึงกลับทันที มิเช่นนั้นจะทำให้ดัชนีมีความเสี่ยงของการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นลง (ยังไม่จบคลื่นขาลง Wave C) .....นอกจากเราจะสังเกตโซนรับที่เป็นป้อมปราการด่านสำคัญแล้ว แนะจับตาโมเมนตัม MACD ม้วนตัวกลับลงมาตัดเส้น signal line ลงอีกหรือไม่! จะเป็นเครื่องมือช่วยยืนยันแนวโน้มตลาดให้แม่นยำเพิ่มขึ้น
สรุป: แนวโน้มตลาดอาจไม่เป็นไปตามคาดและเพิ่มความเสี่ยงของการปรับตัวลง หากหลุดแนวรับ ต่ำกว่า low 1,250 จุด อาจต้องระมัดระวัง มีแผนปรับพอร์ต ลดความเสี่ยงไว้ด้วยครับ
ไฮไลท์หุ้น: รีวิว TRUE แผนงานเข้าเป้า / CBG "ป้อมปราการด่านสำคัญ" ตรงไหนห้ามหลุด/ CENTEL Test โซนรับ...จุดวัดใจ/ PTT พี่ใหญ่...สู้ไหว / AMATA ติดต้าน ติดเส้น EMA 200…

What to watch
FTSE rebalance: เพิ่มหุ้น THAI เข้า FTSE Large Cap ถอด AWC
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวในงานปาฐกถาพิเศษ "คู่หูเศรษฐกิจ ฝ่าวิกฤติสู่ความยั่งยืน (Fiscal-Monetary Synergy in Sight" ว่า กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์นี้ เกี่ยวกับมาตรการในการสนับสนุนการออมรายบุคคล (Individual Saving Account) ซึ่งเป็นเครื่องมือการออมที่สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ และยังเป็นการสนับสนุนการลงทุนในตลาดหุ้นไทยให้ใหญ่ขึ้นด้วย ส่วนรายละเอียด อยู่ระหว่างการเร่งพิจารณา
เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ธ.ค. โดยเครื่องมือ CME Fed Watch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 87.2% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้นเร็วมาก หลังจากที่ให้น้ำหนักไม่ถึง 40% ในช่วงก่อนหน้านี้
นายกฯ นำ ปปง.แถลงยึดทรัพย์ 1.02 หมื่นลบ.เครือข่ายสแกมเมอร์ "ยิม เลียก-เบน สมิธ" ออกหมายจับรวด 42 คน
ปลดล็อกแล้ว!! ขายเหล้า-เบียร์ช่วงบ่ายได้ เริ่มวันนี้ทดลอง 180 วัน-นั่งดื่มต่อได้ถึงตี 1 (คาดเป็นบวกต่อหุ้นที่มีการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ เช่น CPALL CPAXT BJC และหุ้นที่เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย CBG)

หุ้นแนะนำวันนี้
PTT ปตท.มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากต้นทุนก๊าซของโรงแยกกณาซ GSP ที่ลดลง
แนวรับ 31 ต้าน 32.5 Stop loss 30

Tactical port ถอด AOT

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Commodities Tracker
เรือเทกองยังแรงสุดของสัปดาห์ที่แล้ว
สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าระวางเรือเทกองพุ่งเด่นที่สุด ตามด้วยค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ ขณะที่ค่าการกลั่น (GRM) อ่อนตัวมากสุด และถ่านหินก็อ่อนต่อ ราคาน้ำมันขยับขึ้นเล็กน้อยจากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ (รัสเซีย–ยูเครน, เวเนซุเอลา–สหรัฐฯ)
น้ำมันดิบ: ราคาอิงตลาด Dubai ขึ้นเล็กน้อยสู่ 63.75 เหรียญ/บาร์เรล (+0.41 WoW) จากความเสี่ยงข้อตกลงสันติภาพและความตึงเครียดทางการเมืองในอเมริกาใต้–สหรัฐฯ
GRM: อ่อนตัวต่อเนื่องสู่ 7.65 เหรียญ/บาร์เรล (-0.12 WoW) จาก crack ส่วนใหญ่ที่อ่อนลง โดย Jet fuel และ Diesel ถูกกดดันจากโรงกลั่นเอเชียกลับมาเดินเครื่องมากขึ้น ขณะที่น้ำมันเตาถูกกดดันจากอุปทานล้น แต่ Gasoline ยังได้แรงหนุนจากดีมานด์ในอาเซียนและคาดการณ์จีนส่งออกลดลง
เคมีภัณฑ์: สเปรดส่วนใหญ่ดีขึ้นตามแนฟทาที่ถูกลง
ถ่านหิน: NEX ลดลงต่อเป็น 110.19 เหรียญ/ตัน จากดีมานด์ภูมิภาคที่ชะลอ
ค่าระวางเรือ: BDI กระโดดแรง +13% สู่ 2,714 นำโดย Capesize +24% สู่ 4,997 ขณะที่ Supramax ทรงตัวเล็กน้อย (บวกต่อ PSL, TTA) ส่วนค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์อิง WCI เพิ่มขึ้น +7% สู่ 1,927 หนุน sentiment RCL
Fundamental view: เรายังชอบ SPRC และ TOP จาก GRM ที่แม้อ่อนลงช่วงนี้แต่ยังยืนเหนือค่าเฉลี่ย และ Valuation ยังถูก ขณะที่ Jet fuel–Diesel crack ยังหนุนกำไรโรงกลั่นไทยระยะสั้น
กลุ่มเคมีมีสัญญาณฟื้นตัวบางส่วน เลือก IVL และ PTTGC จากโอกาสสเปรดฟื้นต่อในช่วงก่อน 2Q26 ตามแนฟทาที่อยู่ในทิศทางลง
ในกลุ่มเดินเรือ เทกองยังเป็นธีมเด่นตามฤดูกาลเก็บเกี่ยวของอเมริกาใต้ และค่าระวางที่เร่งตัว มีจังหวะเก็งกำไรได้ใน PSL, TTA และคอนเทนเนอร์เริ่มกลับมาเป็นบวกต่อ RCL

 

Event
Wrap-up
การฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึง แต่มีผู้ชนะชัดเจน
สรุปสารสำคัญจากงาน Decoding Thailand’s Spending Pulse วันที่ 25–28 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจ EP.4 ที่เราได้เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ โดยการบริโภคไทยกำลังฟื้น แต่ฟื้นเฉพาะบางหมวด ไม่ใช่การฟื้นเป็นวงกว้าง
1) การบริโภคปลายปี: ฟื้นแบบ “เลือกจ่าย” โดยภาพรวมผู้บริโภคดีขึ้น ดัชนี Retailer Sentiment ดีขึ้น นำโดยร้านโชห่วย–ร้านขายของชำ และห้างสรรพสินค้า สินค้าจำเป็นยังแข็งแกร่ง ขณะที่ร้านค้าส่งได้แรงหนุนจากมาตรการของรัฐผ่านรายย่อย–ผู้ค้ารายเล็ก
แต่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (discretionary) ยังอ่อนแอ ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า บ้าน–วัสดุก่อสร้างยังชะลอ แม้จะเห็นอุปสงค์ของเทรนด์ใหม่การซื้อบ้านมารีโนเวทที่เพิ่มขึ้นใน 2–3 ปีข้างหน้า ส่วนยานยนต์เมื่อนำมายอดจองงาน Motor Expo มาประกอบ พบว่ากลุ่ม EV จีน เติบโตดีมาก เมื่อเทียบกับยานยนต์พรีเมียมที่ฟื้นช้ากว่า สะท้อนว่าผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระมัดระวังเน้นความคุ้มค่าชัดเจน
ด้านความบันเทิง แม้ JAS ตั้งราคา EPL ต่ำก็ไม่รอด เพราะผู้บริโภคไม่มองว่าเป็น “ของจำเป็น” ในด้านการใช้จ่าย KTC ย้ำชัดว่ายังเน้นคุณภาพสินเชื่อมากกว่า loan growth ขณะที่ COM7 กลับ outperform จาก replacement cycle / Tech-adoption มากกว่าผลของ stimulus
2) ยืนยันภาพเดียวกันกับ Survey EP.4 โดยที่เราสำรวจพบว่า 46% ของผู้บริโภควางแผนเพิ่มการใช้จ่ายสิ้นปี และหมวดที่ขึ้นแรงคืออาหาร-เครื่องดื่ม ตรงกับสมาคมผู้ค้าปลีกฯ ที่พบว่าใช้กับสินค้า ในชีวิตประจำวัน
ขณะที่ ของชิ้นใหญ่ยังแรงส่งเบา โดยมีเพียง 11% ที่ตั้งใจเพิ่มการใช้จ่ายของแต่งบ้าน ส่วนมาตรการกระตุ้น จะเน้นไปที่คนละครึ่งพลัส รองลงมาใช้ลดหย่อนภาษีด้านการกิน–เที่ยว โดยรวมเราจึงมองว่า ผู้บริโภคพร้อมใช้จ่าย เฉพาะหมวดที่จำเป็น–คุ้มค่า–เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน
3) ผู้ชนะชัดเจนมาก แบ่งกลุ่มหุ้นได้เป็น
Winners: NEO CPAXT CPN COM7
Losers: HMPRO DOHOME GLOBAL ILM CPALL KTC


TTW
(Visit Note)
ทีทีดับบลิว
ถือรับปันผล 6-7% ต่อปี
TTW รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 976.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY และ 23% QoQ ทำสถิติใหม่ และมากกว่าที่ตลาดคาดเป็นส่วนใหญ่ (คาดทรงตัว YoY) ราว 5-7% เกิดจากส่วนแบ่งกำไรของ CKP มากกว่าคาด
ในเบื้องต้นแนวโน้มกำไรคาดลดลง YoY และ QoQ จาก CKP ขณะที่ธุรกิจน้ำปะปาคล้ายไตรมาสก่อน ปริมาณขายน้ำเฉลี่ยต่อวัน ต.ค.-พ.ย. เพิ่มขึ้น 3% YoY และ 1% QoQ และพบข้อสังเกตุว่า BIE (บางปะอิน) มีการใช้น้ำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ สะท้อนอุปสงค์ของนิคมฯ ว่ามีการผลิตจำนวนหนึ่งเริ่มฟื้น อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเลข CPI ที่เป็นลบในช่วงนี้ ก็จะส่งผลให้ราคาค่าน้ำ (ปรับรายได้อิงจาก CPI) ปีถัดไปอาจจะถูกกดดันไปด้วย
ส่วนการเข้าซื้อสัดส่วนถือหุ้น LPCL ทางตรง 10% จาก CK ซึ่งโครงการนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง ซื้อไป 2.77 พันล้านบาท (ออกหุ้นกู้ 3 พันล้านบาท ดอกเบี้ย 1.9-2.3%) และมีคาดว่าต้องจ่ายเพิ่มจนก่อสร้างเสร็จราว 1.7-1.8 พันล้านบาท (4Q25-2029) โดยรวม เราคาดดอกเบี้ยจ่ายจะเพิ่มราว 2-3% ของประมาณการกำไรตลาด จนกว่าจะมีการ COD ปี 2030 จึงจะทยอยรับรู้ผลประกอบการด้านบวกเข้ามา
Our view: เรายังให้มุมมองตามเดิมว่าราคาหุ้นแกว่งระหว่างปี (จากค่ากลาง 9 บาท) ที่เพียง 3-6% ขณะที่จ่ายปันผลค่อนข้างแน่นอนที่ 0.60 บาท (แทบไม่อิงตามความผันผวนกำไร) คิดเป็น Div. Yields 6.7% พอที่จะ Cover ความผันผวนได้บนราคาปัจจุบัน จึงเหมาะกับนักลงทุนเน้นหุ้นปันผล

 


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SET ยืนไหว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ นักลงทุน คงชะลอลงทุน รอผลประชุมเฟด รอมาตรการส่งเสริมการออม (ISA)อาจเสนอครม.วันนี้.....

SSP จัดประกวด "Sermsang Power Innovation 2025" นวัตกรรมสู่อนาคตยั่งยืน

SSP จัดประกวด "Sermsang Power Innovation 2025" นวัตกรรมสู่อนาคตยั่งยืน

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้