คาด SET Index sideways Up : มองปัจจัยหนุนจากความหวังการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลังทราบข้อมูลตัวเลข PCE สหรัฐ และการเสนอโครงการ TISA และ คนละครึ่งพลัสเฟส 2 เข้าที่ประชุมครม.ในวันพรุ่งนี้
แนวรับ-ต้าน
1,270-1,285
กลยุทธ์การลงทุน
1) เก็งเข้าคำนวณ SET50/100 รอบ 1H69 : I C50 , SAWAD50 , GFPT100 , PTG100 , STECON100
2) Yield play : AP, KTC, MTC, QH, SPALI, TIDLOR, GUNKUL, BGRIM, GPSC, GULF
3) มาตรการภาครัฐ+ TISA : BJC, CPALL, CPAXT, HMPRO, ILM, KBANK, KTB, SCB, TASCO, TOA, CBG, BBL
4) Dividend play : BAM, KKP, PRM, TISCO, TFG, TTW
มีเรื่องราวดีๆจาก PCE และ TISA
ตัวเลข PCE สหรัฐ เดือน ก.ย. 68 มาแบบนี้ มีลุ้นเฟดลดดอกเบี้ย : โดย Core PCE ออกมาขยายตัว 0.2%m-m และ 2.8%y-y ซึ่งภาพ m-m ออกมาขยายตัวเท่ากับในเดือนก่อนหน้า แต่ภาพ y-y กลับชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ 2.9% ขณะที่ PCE ออกมาขยายตัว 0.3 %m-m และ 2.8%y-y ภาพ m-m ขยายตัวเท่ากับในเดือนก่อนเช่นกัน ขณะที่ภาพ y-y เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่ 2.7% ซึ่งตลาดตีความตัวเลข PCE ดังกล่าวในเชิงบวก สะท้อนผ่านความน่าจะเป็นของ Fedwatch tool ที่ยังคงความน่าจะเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ ที่ 86.2% และมองมีโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 25 bps ในรอบการประชุมเดือน เม.ย. 69 และ ก.ย.69 ภาพทิศทางดอกเบี้ยขาลงหนุนการปรับตัวขึ้นของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง โดยตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยนำโดยดัชนี Nasdaq คาดส่ง Sentiment บวกมายังหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ และดัชนีตลาดหุ้นไทยเช่นกัน
คลังเตรียมเสนอมาตรการ TISA เข้าครม.เศรษฐกิจวันนี้ : มาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมการลงทุนใน กองทุนรวม RMF Thai ESG และ SSF ซึ่งสามารถนาเงินลงทุนที่จ่ายจริงไปหักลดหย่อนภาษีรวมกันไม่เกิน 8 แสนบาท/ปี และจะยกเว้นภาษี ณ ที่จ่ายเงินปันผล รวมถึงดอกเบี้ยในอัตรา 10 สำหรับวงเงิน 2 แสนบาทแรก ซึ่งจะต้องเปิดบัญชี TISA กับธนาคารพาณิชย์ หรือ บลจ. ทั้งนี้จะเริ่มโครงการดังกล่าวในวันที่ 1 ม.ค. 69 มองประเด็นดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะมีจำนวนลูกค้ามาเปิดบัญชีลงทุนมากขึ้นหนุนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย(Non NII) ขณะที่ภาพเม็ดเงินลงทุนที่จะเข้ามาคาดเป็นบวกต่อหุ้นที่มี ESG Score สูง หุ้นปันผล หุ้นขนาดกลาง และ ขนาดใหญ่ และ เป็นบวกต่อภาพรวมดัชนี SET เช่นกันนอกจากโครงการข้างต้นลุ้นที่ประชุมครม.พิจารณาโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ในวันพรุ่งนี้เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีกในระยะถัดไป
ปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ : TH การเปิดประชุมสภาในวันศุกร์ และภาพการเมือง/ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย(US CPI(Oct)/ การประชุม FOMC, CN-ตัวเลขนำเข้าส่งออกจีน( CPI+PPI(Nov)/ New Loan(Nov)
ปัจจัยเพิ่มเติม
(+) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI)
เดือนพ.ย. 68 พบว่า อยู่ที่ระดับ 53.2 จากเดือนต.ค. ที่ระดับ 51.9 เป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ในรอบ 10 เดือน
(-) ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ระบุ GDP ของโลกจะชะลอลงเล็กน้อยสู่ 2.4% ในปี 2569 จากระดับ 2.5% ซึ่งเป็นคาดการณ์เดิม โดยแรงกดดันจากเศรษฐกิจจีนจะมีน้ำหนักมากกว่าการฟื้นตัวเล็กน้อยของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการเติบโตที่ค่อนข้างคงที่ของยูโรโซน
(-) สหรัฐฯระบุตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm Payroll) ในเดือน ต.ค. 68 จะเลื่อนการประกาศออกไปจากเดิมในวันที่ 5 ธ.ค. 68 เป็นวันที่ 16 ธ.ค. 68 เนื่องจากผลของ Government Shutdown
(-) รมต.กลาโหม เตรียมเยือนชายแดนไทย-กัมพูชาในวันนี้ หลังมีรายงานการโจมตีจากฝั่งกัมพูชา ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา