หวัง TISA พระเอกขี่ม้าขาว ช่วยตลาดหุ้น

HORIZON MARKET VIEW
•ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ก่อนการประชุม FED ครั้งสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งจะมีการเปิดเผยคาดการณ์ DOT PLOT และจับตาท่าทีของประธาน FED ต่อทิศทางดอกเบี้ย โดยตลาดฯ ให้น้ำหนักเกือบ 90%คาด FED จะปรับลดดอกเบี้ย แต่เส้นทางดอกเบี้ยปีหน้ายังดูยังไม่แน่นอน เพราะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างเงินเฟ้อที่สูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% และตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง
• สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด เผยรายงานดัชนีเงินเฟ้อ PCE เดือน ก.ย. 68ขยายตัว +2.8%YOY ตามคาดการณ์ โดย CORE PCE ขยายตัว +2.8%YOY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ +2.9%YOY ด้านการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอในสินค้าฟุ่มเฟือยอาทิ สินค้าสันทนาการและยานพาหนะ เสื้อผ้าและรองเท้า หลังราคาขึ้นแรง อย่างไรก็ดีแม้เงินเฟ้อยังสูง แต่ไม่มีสัญญาณเร่งตัว ขณะที่การใช้จ่ายจริงอ่อนตัวต่อเนื่อง

REGION RADAR
•HON HAI PRECISION INDUSTRY รายงานรายได้ประจำเดือนพ.ย. อยู่ที่ NT$8.44 แสนล้าน เติบโต +26% YOY หลังได้แรงหนุนจากความต้องการสำหรับธุรกิจ CLOUD & NETWORKING แนะนำเก็งกำไร HON HAI (2317 TW)
• NETFLIX ประกาศดีลประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์เข้าซื้อธุรกิจสตูดิโอและสตรีมมิงของ WARNER BROS. DISCOVERYมูลค่าราว $8.27 หมื่นล้าน แต่ยังมีความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) จากประเด็นเรื่องการผูกขาด

THAI FOCUS
•วานนี้ ศปภ.2 แจ้ง 4 จังหวัดอพยพประชาชนไปศูนย์พักพิง หลังกัมพูชาเปิดฉากยิงที่ภูผาเหล็ก และเกิดการยิงปะทะต่อเนื่อง เมื่อมองในมุมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย มีความเสี่ยงกดดันภาคการส่งออกสินค้าไทยไปกัมพูชา ทำให้บ้านเราสูยเสียรายได้ด้าน NET EXPORTSอาจสร้างความผันผวนต่อ SET ในช่วงสั้น
• อย่างไรก็ตาม ยังลุ้นรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม ทั้งเร่งการใช้จ่ายผ่านมาตรการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 รวมถึงการผลักดัน TISAเว้นภาษีปันผลเข้า ครม. อังคารนี้ จัดหนักลดหย่อนสูงสุด 8 แสนบาท

 

SYNAPSE STRATEGY
•SET INDEX ย่อตัวมาตลอด 3 ปี< -20% จนมีสภาพคล่องต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากกำไรที่ชะลอลงถึง 6 ใน 7 ปีที่ผ่านมา กดดันให้หุ้นมีVALUATION ถูกกว่าปกติ มีP/E EX DELTA 13.2 เท่า คาดหวังปันผลได้เกิน 4.2% และมีหุ้น PBV < 1 ถึง 476 บริษัท
• แต่เริ่มเห็นความหวังจากกำไรที่เริมกลับมาเติบโต บริษัททยอยซื้อหุ้นคืนต่อเนื่อง และ TISA ที่จะเข้าครม.วันพรุ่งนี้ แนะนำหุ้นรับกระแสดังกล่าว KBANK, BBL, KGI, SIRI, PTTEP, ICHI, MAJOR, PTT

HORIZON MARKET VIEW
WAIT & SEE ท่าทีของ FED
ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นโลกเริ่มมีการเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวัง ก่อนการประชุม FED ครั้งสุดท้ายของปีนี้ (วันที่ 11 ธ.ค. 68 เวลา 2.00 น. ตามประเทศไทย) ซึ่งจะมีการเปิดเผยคาดการณ์DOT PLOTและจับตาท่าทีของประธาน FED ต่อทิศทางดอกเบี้ย โดยตลาดฯ ให้น้ำหนักเกือบ 90% คาด FED จะปรับลดดอกเบี้ย แต่เส้นทางดอกเบี้ยปี 2569 ดูยังไม่แน่นอน เนื่องจากต้องชั่งน้ำหนักระหว่างเงินเฟ้อที่สูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% และตลาดแรงงานที่ส่งสัญญาณอ่อนแอลง

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด เผยรายงานดัชนีเงินเฟ้อ PCE เดือน ก.ย. 68 ขยายตัว +2.8%YOY ตามคาดการณ์ โดย CORE PCE ขยายตัว +2.8%YOY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนที่ +2.9%YOY ด้านการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอในสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ สินค้าสันทนาการและยานพาหนะ เสื้อผ้าและรองเท้า หลังราคาขึ้นแรงอย่างไรก็ดีแม้เงินเฟ้อยังสูง แต่ไม่มีสัญญาณเร่งตัว ขณะที่การใช้จ่ายจริงอ่อนตัวต่อเนื่อง

 

ปัจจัยแว้ดล้อมอีกประเด็นที่ต้องติดตามคือ ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ หลังความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่นกลับมาตึงเครียด โดยเครื่องบินรบจีนใช้เรดาร์ควบคุมการยิงเล็งไปที่เครื่องบินทหารญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ซึ่งญี่ปุ่นระบุว่าเหตุเกิดในน่านน้ำสากล ขณะที่จีนกล่าวหาว่าเครื่องบินญี่ปุ่นรบกวนการฝึก

 

REGION RADAR
HON HAI รายได้ในเดือน พ.ย. +26% YOY
HON HAI PRECISION INDUSTRY (2317 TW) รายงานรายได้ประจำเดือน พ.ย. อยู่ที่ NT$8.44 แสนล้านเติบโต +26% YOY หลังได้แรงหนุนจากความต้องการสำหรับธุรกิจ CLOUD & NETWORKING PRODUCTSที่แข็งแกร่ง

นอกจากนี้ ด้านธุรกิจ EV ของบริษัทมีบริษัทลูกชื่อว่า “FOXTRON” รายงานว่ายอดขายในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ NT$267 ล้าน (เทียบกับเดือนตุลาคม 2025 ที่ NT$114 ล้าน) โดยการเติบโตในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมาได้แรงหนุนจากการเริ่มผลิตระดับ MASS PRODUCTION ของรถยนต์รุ่นใหม่ “MODEL B” แนะนำเก็งกำไร HON HAI PRECISION INDUSTRY (2317 TW)

NETFLIX ประกาศดีลประวัติศาสตร์ของวงการภาพยนตร์
NETFLIX ประกาศเข้าซื้อธุรกิจสตูดิโอและสตรีมมิงของWARNER BROS. DISCOVERY ซึ่งประกอบด้วยสตูดิโอ
ภาพยนตร์/ทีวี, สตรีมมิง (รวมทั้ง HBO MAX / HBO) และคลังคอนเทนต์ (อาทิ BATMAN, SUPERMAN,HARRY POTTER และอื่นๆ) มูลค่าราว $8.27 หมื่นล้าน หากมีการควบรวมสำเร็จจะส่งผลให้ NETFLIXกลายเป็นผู้นำด้าน STREAMING อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงจากการถูกตรวจสอบของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ)จากประเด็นเรื่องการผูกขาด

 

 

THAI FOCUS
ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาร้อนขึ้น แต่ยังมีความหวังกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
วานนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 (ศปภ.2) แจ้ง4 จังหวัดอพยพประชาชนไปศูนย์พักพิง หลังกัมพูชาเปิดฉากยิงที่ภูผาเหล็ก ส่งผลให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องดำเนินการโต้ตอบ และเกิดการยิงปะทะต่อเนื่อง เมื่อมองในมุมผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย มีความเสี่ยงกดดันภาคการส่งออกสินค้าไทยไปกัมพูชา ทำให้บ้านเราสูยเสียรายได้

ด้าน NET EXPORTS (การค้าระหว่างประเทศ) ที่มีสัดส่วนราว 5%ของ GDP โดยเฉพาะในช่วง 2H68 ซึ่งไทยเกินดุลการค้ากับกัมพูชาราว 8 พันล้านเหรียญฯ ณ ปี 2567 (สูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ) โดยนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 68 เป็นต้นมา ไทยได้ดุลการค้ากับกัมพูชาน้อยลงเรื่อยๆเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ด้วยความขัดแย้งไทย-กัมพูชาที่รุนแรงขึ้น อาจสร้างความผันผวนต่อ SET ในช่วงสั้นๆ ดังเช่นในช่วงอดีตที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการฟื้นตัวหากสถานการณ์กลับมาผ่อนคลายลง

อีกประเด็นที่น่าจะเข้ามาช่วยหนุนตลาดหุ้นคือ ลุ้นรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม ทั้งเร่งการใช้จ่ายผ่านมาตรการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 รวมถึงการผลักดันมาตรการส่งเสริมการออมระยะยาวเข้าที่ประชุม ครม.

เศรษฐกิจในวันนี้ ก่อนเสนอ ครม. ชุดใหญ่ในวันที่ 9 ธ.ค. 68 เพื่อพิจารณาอนุมัติอย่างเป็นทางการอ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น เผยว่า การส่งเสริมการออมข้างต้นจะแบ่งออกเป็น 3 มาตรการย่อย ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นมาตรการลดหย่อนทางภาษีโดยมีเงื่อนไขต้องเปิดบัญชีเพื่อการลงทุน TISA (THAILAND INDIVIDUALSAVINGS ACCOUNT) เปิดโอกาสให้ผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ทั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(RMF),กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่ง ยืน(TESG) และกองทุนเพื่อการออมระยะยาว(SSF) สามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อยภาษีได้ไม่เกินปีละ 800,000 บาท กรณีมีการจ่ายเงินปันผลหรือจ่ายดอกเบี้ย วงเงิน 200,000 บาทแรก จะได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.69 เป็นต้นไป

 

YNAPSE STRATEGY
ต้อนรับปีม้า กับ TISA พระเอกขี่ม้าขาว ช่วยตลาดหุ้น
SET INDEX ย่อตัวมาตลอด 3 ปี < -20% จนมีสภาพคล่องต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากกำไรที่ชะลอลงถึง 6 ใน 7 ปีที่ผ่านมา

กดดันให้หุ้นมี VALUATION ถูกกว่าปกติ มี P/E EX DELTA 13.2เท่า คาดหวังปันผลได้เกิน 4.2%และมีหุ้น PBV < 1 ถึง 476 บริษัท

 

 

แต่เริ่มเห็นความหวังจากกำไรที่เริมกลับมาเติบโต บริษัททยอยซื้อหุ้นคืนต่อเนื่อง และ TISA ที่จะเข้าครม.วันพรุ่งนี้
มีรายละเอียดเบื้องต้นตามข่าวหุ้น ดังนี้
▪ เปิดบัญชีเพื่อการลงทุน (THAILAND INDIVIDUAL SAVINGS ACCOUNT) หรือ TISA กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม(บลจ.)หรือธนาคารพาณิชย์ 1 บัญชี โดยสามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นกู้ และหน่วยลงทุนของกองทุนรวม โดยจะมีการกำหนดสัดส่วนที่อนุญาตให้ลงทุนในกองทุนสินทรัพย์ต่างประเทศในภายหลัง
▪ กำหนดสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 800,000 บาทต่อปี
▪ กรณีมีการจ่ายเงินปันผลหรือจ่ายดอกเบี้ย วงเงิน 200,000 บาทแรก จะได้รับการยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10%
▪ เบื้องต้นคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.69 เป็นต้นไป
▪ รวมถึงจะลดหย่องได้ 1.3 เท่า (รายได้น้อยกว่า 1.5 ล้านบาทต่อปี), จะลดหย่องได้ 0.7 เท่า (รายได้สูงกว่า 1.5 ล้านบาทต่อปี), จะลดหย่อนได้ 1.2 เท่า (สำหนับสินทรัพย์อิง ESG)
▪ ขายได้ 100% ตอนอายุ 55 ปี ถ้าอายุมากกว่าต้องถืออย่างน้อย 5 ปี หรือหากเกิดเหตุฉุกเฉินเช่นน้ำท่วม ขายได้ 25%แนะนำหุ้นเด่นรับกระแส TISA
▪ หุ้นมีรายได้เพิ่มจากมาตรการ TISA KBANK, KTB, BBL, SCB, ASP, KGI
▪ หุ้นหวังปันผลสูงเกิน 8% มี ESG RATING คือ SIRI, DRT, SC, BA, LH, PTTEP, ICHI, MC, STA,MAJOR
▪ หุ้นมี ESG RATING AAA ขนาดใหญ่ PTT, KBANK, KTB, CPALL, BBL, CPN, SCC, TTB, CPF,OR

 

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์