Equality for All
NEO : บมจ.นีโอ คอร์ปอเรท

4Q25 คาดกำไรฟื้น q-q จากยอดขายเร่งตัวขึ้นขณะที่ต้นทุนทรงตัว : เราคาดการดำเนินงาน 4Q25 จะดีขึ้น q-q จากเข้าสู่ฤดูกาล ประกอบกับมาตรการคนละครึ่งพลัสมาหนุนทำให้ยอดขายโตระดับ 2 หลัก q-q ได้ ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบทรงตัว อีกทั้งคาดค่าใช้จ่ายขายและบริหารจะลดลงจากที่ใช้ไปมากในช่วงก่อนหน้าไปมากแล้ว

ปรับประมาณการปี 2025-26 ลงจากต้นทุนที่เร่งตัวขึ้น : อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานที่ออกมาต่ำคาดทำให้เราต้องปรับลดประมาณการลง 14% จากเดิม โดยปรับยอดขายเป็น 10,682 ลบ. +6% y-y แต่ปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลงเหลือ 38.7% จากผลของต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้น รวมถึงในส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารคาดเพิ่มขึ้น +7% y-y จากยอดขายเพิ่มขึ้น และปรับลดกำไรสุทธิลงเหลือ 507 ลบ. -50% y-y

สำหรับปี 2026 ผบห. คาดแนวโน้มราคาปาล์มคงไม่ปรับขึ้นมากกว่าปัจจุบันทำให้ยังคงเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่ 38-40% โดยเราคาดยอดขายโต +8% y-y อยู่ที่ 11,559 ลบ. ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 38.5% ลดลงเล็กน้อย แต่คาดค่าใช้จ่ายขายและบริหารจะลดลงเนื่องจากปีก่อนหน้ามีการใช้กิจกรรมส่งเสริมการขายมากทำให้แนวโน้มค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายจะลดลงเหลือ 32% ปรับกำไรสุทธิลงเหลือ 572 ลบ. +13% y-y

เราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากการดำเนินงานที่กลับมาฟื้นตัว y-y ได้ และปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2026 อยู่ที่ 22.90 บาท/ หุ้น

เลื่อนการก่อสร้างโรงงานเฟส 2 ไปก่อน : ผบห. ชี้แจงว่าปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานของใช้ส่วนบุคคลในเฟส 1 ไปแล้ว 35% คาดว่าจะแล้วเสร็จใน 4Q26 แต่ในส่วนการขยายเฟส 2 และอาคารคลังสินค้านั้นบ . ตัดสินใจเลื่อการขยายกำลังการผลิตออกไปจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว โดยในส่วนเฟส 2 จะเริ่มผลิตใน 1Q2030 จากเดิมคาดผลิต 2Q2028 ส่วนอาคารคลังสินค้าจะเริ่ม 2Q29 จากเดิม 2Q27

เป้าส่งออก 15% ในปี 2028 : 9M25 ยอดขายตลาดส่งออกคิดเป็น 10% ของยอดขาย ซึ่งผบห. มีเป้ายออดขายตลาดดังเล่าวเป็น 15% ภายในปี 2028 ซึ่ง 9M25 ตลาด CLMV คิดเป็น 90% ของตลาดส่งออก ซึ่งในนี้ตลาดหลักราว 60% จะเป็นเวียดนาม ส่วนกัมพูชาและลาวจะมีสัดส่วนเท่า ๆ กัน สำหรับแนวโน้มตลาดเวียดนามนั้นคาดจะดีขึ้นหลังการจัดการปัญหาภายในแล้วเสร็จ ส่วนกัมพูชา อาจต้องใช้เวลาการจัดการเพื่อกลับเข้าไปในตลาดดังกล่าวอีกครั้ง

ตลาดกัมพูชา ได้รับผลกระทบแรงกว่าที่คาด จากการต่อต้านสินค้าไทยในตลาดดังกล่าว ซึ่งมียอดขายราว 20-25% ของยอดขายเฉพาะส่งออก หรือคิดเป็นราว 3% ของยอดขาย ทำให้สต็อกสินค้าในตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้น NEO อยู่ระหว่างปรับกลยุทธ์การนำสินค้าไปขายอีกครั้ง

ตลาดเวียดนาม การดำเนินงานกลับสู่ภาวะปกติแล้ว รวมถึงจะมีการนำสินค้าอื่น ๆ ไปจำหน่ายมากขึ้น

มีแนวโน้มจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น : จากการชี้แจงในคำอธิบายงบการเงินเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลของบ. ว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า (และไม่จำกัดเพียง) ร้อยละ 40 ของกำไรตามงบเฉพาะกิจการ ซึ่งในปีที่ผ่านมาบ. จ่ายในอัตราร้อยละ 45 หรือเท่ากับ 1.35 บาทต่อหุ้น เรามองว่ามีความเป็นไปที่ในปีนี้บ. อาจจะจ่ายในสัดส่วนที่สูงเพราะมีการเลื่อนการลงทุนในส่วนเฟส 2 และคลังสินค้าออกไป

จุดต่ำสุดกำลังผ่านไปแล้ว
“เราคาดว่าการดำเนินงานกำลังผ่านจุดต่ำสุดแล้ว จากแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่อาจไม่ได้เร่งตัวขึ้นแรงอย่างที่กังวล แม้อาจมีการชะลอของการก่อสร้างเฟส 2 ไป แต่ในทางกลับกันคาดจะได้ชดเชยจากการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้น และแนวโน้มการดำเนินงานปีหน้าที่กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ราคาหุ้นปรับลงสะท้อนปัจจัยต้นทุนเพิ่มขึ้นมาแล้ว จนราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย P/E26E เหลือ 8.8x และผลตอบแทนเงินปันผล 8% น่าสนใจทั้ง valuation และ yield ”

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th