สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(4 ธันวาคม 2568)-----------บมจ.ดุสิตธานี เลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น โดยจะจัดการประชุมอีกครั้งในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2569 ภายใต้อำนาจของประธานในที่ประชุม ซึ่งเห็นสมควรให้รอความชัดเจนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า หลังผู้ถือหุ้นรายย่อยส่งหนังสือร้องเรียน เพื่อความโปร่งใสและเพื่อให้การพิจารณาวาระการประชุมเป็นไปอย่างรอบคอบ
บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ประกาศเลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 จากวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เป็นวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2569 เวลา 14.00 น. ผ่านระบบประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพียงรูปแบบเดียว โดยจะยังคงใช้ Record Date เดิม คือ ณ วันที่ 10 กันยายน 2568 ซึ่งจะเป็นการพิจารณาวาระที่เกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนกรรมการ การแต่งตั้งกรรมการใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการ
ทั้งนี้ การเลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าว เป็นการตัดสินใจโดยใช้อำนาจของประธานการประชุม ที่ได้รับคำแนะนำจากที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ซึ่งแนะนำให้รอคำวินิจฉัยจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เนื่องจากที่ผ่านมา มีผู้ถือหุ้นรายย่อยยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานทั้งสองแห่ง ถึงการกระทำที่อาจเข้าข่ายร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อครอบงำกิจการของบริษัทฯ โดยไม่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ และอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำการรวมธุรกิจอันอาจก่อให้เกิดการผูกขาดหรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า โดยประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นที่ต้องใช้ความระมัดระวังและพิจารณาอย่างรอบคอบ ดังนั้น เพื่อความโปร่งใสและเพื่อให้การพิจารณาวาระการประชุมเป็นไปอย่างรอบคอบ รวมถึงเพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน ประธานการประชุมจึงเห็นสมควรให้เลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นออกไป
บมจ.ดุสิตธานี ขอเน้นย้ำว่า การตัดสินใจดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการที่โปร่งใสและเคารพสิทธิของผู้ถือหุ้น และบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ถือหุ้น นักลงทุน และพันธมิตรธุรกิจ ต่อไปอย่างมั่นคง
อนึ่ง สำหรับการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 มีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งสิ้น 405 ราย รวมจำนวนหุ้นได้ทั้งสิ้น 531,950,301 หุ้น คิดเป็น 62.5823% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ