Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

65

 


สภาพคล่องหาย หุ้นไทยไม่ขยับ ต้องเพิ่งแรงกระตุ้น

HORIZON MARKET VIEW
• ท่ามกลางความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยืนอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2%บวกกับผลกระทบของ GOVERNMENT SHUTDOWN ทำให้การเผยข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนล่าช้า ถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ย FED รอบเดือนธ.ค. นี้ รวมถึงระยะถัดไปด้วยเช่นกัน ทำให้ในช่วงนี้เห็นภาพความผันผวนในตลาดหุ้นและ BOND YIELD ที่มีแนวโน้มยังไม่ชัดเจน
• สวนทางกับท่าทีของ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวในงานที่เมืองนาโกย่า ว่าจะพิจารณาข้อดีข้อเสียของการขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้ โดยเน้นว่าการปรับขึ้นจะเป็นเพียงการลดระดับการผ่อนคลาย ไม่ใช่การเบรกเศรษฐกิจ ขณะที่ BOND YIELD 2Y ของญี่ปุ่น ทะลุ 1%ครั้งแรกในรอบ 17 ปี อีกทั้งตลาดคาดโอกาสขึ้นดอกเบี้ย BOJ เพิ่มจาก 25% เป็น80% ภายในสัปดาห์เดียว


REGION RADAR
•หุ้นที่น่าเก็งกำไรในเดือน ธ.ค. อ้างอิงจากสถิติผลตอบแทนย้อนหลังในเดือน ธ.ค. ได้แก่ ESTEE LAUDER, VF CORPORATION และBEIERSDORF ในด้าน FUNDAMENTAL พบว่า EPS มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3
• STRATEGY (MSTR US) -3.25% หลัง PHONG LE ซึ่งเป็น CEOของบริษัทระบุว่า บริษัทจะพิจารณาขาย BITCOIN ที่ถือไว้ในกรณีที่หุ้นของบริษัทลดลงต่ำกว่า MNAV (MULTIPLE TO NAV) และบริษัทไม่สามารถหาเงินทุนใหม่ได้ซึ่งเป็น SENTIMENT กดดันกลุ่มคริปโต

 

THAI FOCUS
•สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) กลับมาอีกครั้งในไทย โดยข้อมูลระบุว่าค่าฝุ่น PM2.5 ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือน พ.ย.68 ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและการป้องกันฝุ่นเพิ่มขึ้น
• ดังนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าได้รับผลตอบรับในเชิงบวก(SENTIMENT POSITIVE) ได้แก่ : กลุ่มโรงพยาบาล : BDMS, BH,BCH กลุ่มค้าปลีก/จำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น : HL, IP, MEGA,HMPRO, CRC

SYNAPSE STRATEGY
• ผลตอบแทนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา SET แพ้หลายสินทรัพย์แต่ถือเป็นข้อดีในเชิง VALUATION ที่ถูกกว่าประเทศอื่นๆ มี TRAILING P/E ตลาดแค่ 15.4 เท่า แต่ถ้าตัดหุ้นใหญ่สุดออก (DELTA) เหลือ 13.2 เท่า ถูกกว่า MSCI ACWI มี P/E 22 เท่า และ MSCI EM 16 เท่า
• เน้นสะสมหุ้นมีเบาะรองรับจากปันผลสูง มีช่องว่างให้จ่ายปันผลเพิ่ม มีกำไรเติบโต พร้อมใส่ใจนักลงทุนจากการให้ความสำคัญเรื่อง ESGหรือซื้อหุ้นคืน คัดกรองได้มา 9 หุ้นเด่น ได้แก่ MAJOR TTB GUNKULSPALI AP BBL SJWD CPN CPALL


HORIZON MARKET VIEW
ยังวนเวียนอยู่กับเรื่องทิศทางดอกเบี้ย
เช้านี้ประธาน FED เจอโรม พาวเวล มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาว่าด้วยผลงานและนโยบายเศรษฐกิจของนายจอร์จ ชูลท์ซ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ทำให้เกิดการจับตาถ้อยแถลงที่เกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงิน

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ยืนอยู่ในระดับสูงกว่ากรอบเป้าหมาย 2% บวกกับผลกระทบของ GOVERNMENT SHUTDOWN ทำให้การเผยข้อมูลเศรษฐกิจบางส่วนล่าช้า ถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงต่อการตัดสินใจลดดอกเบี้ย FED รอบเดือน ธ.ค. นี้ รวมถึงระยะถัดไปด้วยเช่นกัน ทำให้ในช่วงนี้เห็นภาพความผันผวนในตลาดหุ้น และ BOND YIELD ที่มีแนวโน้มยังไม่ชัดเจน

สวนทางกับท่าทีของ BOJ ที่มีการส่งสัญญาณว่ามีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบ 19 ธ.ค. 68 โดยล่าสุด KAZUO UEDA ผู้ว่าการ BOJ กล่าวในงานที่เมืองนาโกย่า ว่าจะพิจารณาข้อดีข้อเสียของการขึ้นดอกเบี้ยปลายปีนี้โดยเน้นว่าการปรับขึ้นจะเป็นเพียงการลดระดับการผ่อนคลาย ไม่ใช่การเบรกเศรษฐกิจ ขณะที่ BONDYIELD 2Y ของญี่ปุ่น ทะลุ 1% ครั้งแรกในรอบ 17 ปีอีกทั้งตลาดคาดโอกาสขึ้นดอกเบี้ย BOJ เพิ่มจาก 25% เป็น80% ภายในสัปดาห์เดียวด้วยการเดินหน้านโยบายการเงินของ FED และ BOJ ที่มีแนวโน้มต่างกัน อาจต้องระวังประเด็น “YEN CARRYTRADE” มากขึ้น หลังกระแสข่าวใน SOCIAL MEDIA เริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นแล้ว

 

REGION RADAR
THEME GIFT & WINTER หุ้นน่าสนใจประจำเดือน ธ.ค.
หุ้นที่น่าเก็งกำไรในเดือน ธ.ค. อ้างอิงจากสถิติผลตอบแทนย้อนหลังในเดือน ธ.ค. ที่อยู่ในธีม GIFT & WINTERได้แก่ ESTEE LAUDER, VF CORPORATION และ BEIERSDORFในด้าน FUNDAMENTAL พบว่า ทั้ง ESTEELAUDER และ VF CORPORATION มีแนวโน้ม EPS เติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 4 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3แนะนำเก็งกำไร ESTEE LAUDER (DR: ESTEE80), BEIERSDORF (BEI GY) และ VF CORPORATION (VFCUS) โดยผลประกอบการไตรมาส 4 มีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งจากการเข้าสู่ช่วง HIGH SEASON และสถิติย้อนหลังในเดือน ธ.ค. ราคาหุ้นมักให้ผลตอบแทนเป็นบวก

 

บริษัทถือ BITCOIN มากที่สุดในโลกอย่าง STRATEGY อาจเตรียมขาย BITCOIN
STRATEGY (MSTR US) -3.25% หลัง PHONG LE ซึ่งเป็น CEO ของบริษัทระบุว่า บริษัทจะพิจารณาขายBITCOIN ที่ถือไว้ในกรณีที่หุ้นของบริษัทลดลงต่ำกว่า MNAV (MULTIPLE TO NAV) และบริษัทไม่สามารถหาเงินทุนใหม่ได้โดยปัจจุบัน STRATEGY มีการถือ BITCOIN สูงถึงระดับ 650,000 เหรียญ ซึ่ง MNAV ที่บริษัทใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจการถือครอง BITCOIN ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.107 อย่างไรก็ตาม หากราคา BITCOIN มีการปรับตัวลงมาจน MNAV ของบริษัทต่ำกว่าระดับ 1.0 ส่งผลให้ STRATEGY มีโอกาสที่จะขาย BITCOINออกมาซึ่งจะกดดันภาพรวมกลุ่มคริปโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น BITCOIN, ETHEREUM, SOLANA และเหรียญอื่นๆ


THAI FOCUS
ฝุ่น PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง หุ้นอะไรได้ประโยชน์บ้าง
สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) กลับมาอีกครั้ง โดยข้อมูลระบุว่าค่าฝุ่น PM2.5 ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายเดือน พ.ย.68 โดยเฉพาะวันสุดท้ายที่แสดงในกราฟ (30 พ.ย.68) ซึ่งมีแท่งกราฟสีส้มและแดง(ระดับไม่ดีต่อสุขภาพ) สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกรุงเทพที่ดัชนีคุณภาพอากาศ (US AQI) บ่งชี้ว่าคุณภาพอากาศสำหรับกรุงเทพฯ อยู่ในระดับ "UNHEALTHY FOR SENSITIVE GROUPS" (ไม่ดีต่อสุขภาพสำหรับกลุ่มคนไวต่อมลพิษ) โดยมีค่าสูงสุดที่ 159: เขตปทุมวัน ดังรูปด้านล่างดังนั้นสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ที่รุนแรง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพและการป้องกันฝุ่นเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มบริษัทที่คาดว่าได้รับผลตอบรับในเชิงบวก (SENTIMENT POSITIVE)ได้แก่ :
• กลุ่มโรงพยาบาล : BDMS, BH, BCH
• กลุ่มค้าปลีก/จำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันฝุ่น : HL, IP, MEGA, HMPRO, CRC

SYNAPSE STRATEGY
สภาพคล่องหาย หุ้นไทยไม่ขยับ ต้องเพิ่งแรงกระตุ้น TISA
ตลาดหุ้นไทยผ่านมรสุมหลายปัจจัยโดยเฉพาะในประเทศ ทำให้ผลตอบแทนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา(ตั้งแต่สิ้นปี 2022- ปัจจุบัน) แพ้ทุกสินทรัพย์(ยกเว้นน้ำมัน) โดยตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดหุ้นเดียวที่ปรับตัวลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาSET -22.2% MAI -63.2% สวนทางตลาดหุ้นอื่นๆ NASDAQ +110.5% MSCI ACWI +62.1% MSCI EM+39.9% รวมถึง CRYPTOCURRENCY(BITCOIN +409% ETHEREUM +122%) GOLD +135% ที่ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น ดังรูปซ้ายมือ อย่างไรก็ตามถือเป็นข้อดีในเชิง VALUATION ที่ถูกกว่าประเทศอื่นๆ โดยปัจจุบัน SET มีจำนวนหุ้นส่วนใหญ่ถูกเกลื่อนตลาด มี PBV ต่ำ 1 เท่า ถึง 461 บริษัท (จากทั้งหมด 704 บริษัท) และล่าสุดมีTRAILING P/E ตลาด แค่ 15.4 เท่า แต่ถ้าตัดหุ้นใหญ่สุดออก (DELTA) เหลือ 13.2 เท่า ถูกกว่า MSCI ACWI มีP/E 22 เท่า และ MSCI EM 16 เท่า

หวังดันปริมาณการซื้อขายหุ้นไทยกลับมาคึกคัก โดยเป็นมาตรการในการสนับสนุนการออมรายบุคคล(INDIVIDUAL SAVING ACCOUNT) เพื่อการลงทุนในหุ้นไทย ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกทีว่าจะเหมือนกับทางญี่ปุ่น NISA หรือไม่

ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว เน้นสะสมหุ้นมีเบาะรองรับจากปันผลสูง มีช่องว่างให้จ่ายปันผลเพิ่ม มีกำไรเติบโตพร้อมใส่ใจนักลงทุนจากการให้ความสำคัญเรื่อง ESG หรือซื้อหุ้นคืน คัดกรองได้มา 9 หุ้นเด่น ได้แก่ MAJOR TTB GUNKUL SPALI AP BBL SJWD CPN CPALL

 

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ต่างชาติขายมากกว่า1.1แสนล้าน By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นต่างชาติ กลับมาซื้อหุ้นใหญ่ วานนี้ วันแรกของเดือนธันวาคม 68 แค่ซื้อสุทธิ 1,239.14 ล้านบาท หลังจากขาย...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้