AT THE OPEN (#ATO)
SET Index แกว่งตามกรอบ 1265-1285
หุ้นเด่นเลือก BBL
Market Strategy
SET Index คาดแกว่งตามกรอบ 1265-1285 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อ่อนตัวบ้างหลังขึ้นแรงก่อนหน้า แต่โอกาสลดดอกเบี้ย FED เดือน ธ.ค. ยังอยู่ระดับสูง ด้านในประเทศความเสี่ยงการเมืองไทยลดลงชั่วคราว หลังเพื่อไทยปฏิเสธยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจช่วง 11 ธ.ค. เพื่อให้รัฐบาลเดินหน้าเยียวยาน้ำท่วม หุ้นเด่นวันนี้เลือก BBL
การรายงานตัวเลข ISM ภาคผลิตเดือน พ.ย. อยู่ที่ 48.2 ต่ำกว่าตลาดคาด และเดือนก่อนที่ 49/48.7 ตลาดจึงยังมีมุมมองโอกาสการลดดอกเบี้ยฯของ FED ในเดือน ธ.ค. สูงขึ้นมาที่ 87% แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาปรับลง โดย Dow Jones -0.9% S&P500 -0.5% และ NASDAQ -0.4% ส่วนหนึ่งคาดว่าจะมาจากแรงขายลดความเสี่ยงหลังสัปดาห์ก่อนปรับขึ้นเฉลี่ยเกือบ 4% และสัปดาห์นี้จะมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ อาทิ วันที่ 3 ธ.ค. ADP Employment เดือน พ.ย. และ ISM ภาคบริการเดือน พ.ย. และวันที่ 5 ธ.ค. ดัชนี PCE เดือน พ.ย.หากออกมาตามที่ Bloomberg Consensus คาดว่าจะไม่ร้อนแรง โอกาสลดดอกเบี้ยคาดจะเพิ่มขึ้นช่วยหนุนตลาดหุ้นต่อไป
ความเสี่ยงการเมืองในประเทศ จากความกังวลต่อการ ยุบสภาในวันที่ 12 ธ.ค. ลดลงชั่วคราว หลังจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาปฏิเสธข่าวการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 11 ธ.ค. เนื่องจากต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา น้ำท่วมก่อน ซึ่งสถานการณ์ข้างต้นลดความเสี่ยงเรื่องการเร่งอนุมัติโครงการฟื้นฟู เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย เพราะหากนายกฯ ยุบสภาก่อนจะไม่สามารถก่องบผูกพันและอนุมัติโครงการใหม่ได้ สำหรับประเด็นอื่นๆวานนี้ประชุม ครม. เศรษฐกิจเตรียมการออกชุดมาตรการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ อาทิ การพักหนี้ การให้สินเชื่อฟื้นฟู การเร่งจ่ายเงินเยียวยา มาตรการลดภาษี ยืดเวลาจ่ายภาษีให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ วันนี้เตรียมเข้า ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป ซึ่งเรามองเป็นบวกต่อหุ้นฟื้นฟูหลังน้ำลดอย่าง HMPRO GLOBAL TASCO
Market Summary
SET Index ปรับขึ้นเกือบ 20 จุด ขานรับบรรยากาศเชิงบวกตามตลาดเอเชีย โดยหุ้นกลุ่มบวกเด่น กลุ่มที่ได้ปัจจัยบวกจากน้ำท่วมภาคใต้คลี่คลายเข้าโหมดฟื้นฟู กลุ่มค้าปลีก +2.1% กลุ่มท่องเที่ยว +3% กลุ่ม ICT +2% กลุ่มขนส่ง +2.1% จาก AOT +2.3% ตลาดคาดหวังความคืบหน้าเจรจา KPD และ PSC ในเดือนนี้ กลุ่มอื่นๆ หุ้นที่คาดเข้าคำนวณใน SET50 อย่าง SAWAD +3% ITC +0.6% ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.2 พันล้านบาท สวนทางสถาบันขายสุทธิ 185 ล้านบาท
DAILY Stock Pick
BBL
ธนาคารที่ให้ผลตอบแทน
คุ้มความเสี่ยงดีที่สุด
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 190.00 บาท
รายได้กระจายตัวดีกว่าคู่แข่งเพราะมีสินเชื่อต่างประเทศ 24% ของสินเชื่อรวมที่มีแนวโน้มขยายได้ดีกว่าในประเทศ (หลักๆมาจากอินโดฯ จีนและฮ่องกง)
คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง โดยเราคาด NPL จะลดลงใน 4Q68 สัดส่วน LLR สูงถึง 3 เท่าของ NPL จึงมีช่องว่างสำหรับริหาร Credit Cost ขณะที่ Valuation ถูกซื้อขายบน P/BV 0.5 เท่า อัตราปันผลสูง 6% ต่อปี
Technical View
แนวรับ : 158.50 บาท
แนวต้าน : 163.00 บาท
จุดตัดขาดทุน : 154.00 บาท
WEEKLY Stock Pick
HMPRO
กำไรพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 7.50 บาท
คาดกำไรพ้นจุดต่ำสุดใน 3Q68 และเตรียมฟื้นตัว QoQ ใน 4Q68 หนุนจากปัจจัยทางฤดูกาล การขยายสาขา นอกจากนี้ปีนี้มีความต้องการเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยภายหลังน้ำท่วมโดยเฉพาะจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนสาขา 10% ของจำนวนสาขาทั้งหมด
ราคาหุ้นซื้อขายบน PER 13 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีเกือบ -2 S.D. และปันผลสูง 6.6% เป็นปัจจัยช่วยจำกัด Downside ราคาหุ้น
Technical View
แนวรับ : 6.25 บาท
แนวต้าน : 7.20 บาท
จุดตัดขาดทุน : 5.70 บาท
KEY FACTOR
ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนเดือน พ.ย. อยู่ที่ 49.2 แม้ปรับดีขึ้นเล็กน้อยแต่ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 49.4 ยังอยู่ในโซนหดตัวต่อเนื่องยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนภาพการฟื้นตัวยังอ่อนแรงจากอุปสงค์ภายในประเทศและภาคอสังหาฯ ที่ยังถดถอย ขณะที่ PMI ภาคการผลิตหลุดต่ำกว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปี ยืนยันแรงกดดันต่อบริการยังสูง แม้มาตรการอัดฉีดก่อนหน้านี้เริ่มทำงานแต่ยังไม่เพียงพอให้เห็นการพลิกฟื้นอย่างชัดเจนในระยะสั้น
ประธาน Fed มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ อย่างไรก็ตามเป็นช่วงเข้าสู่ Blackout period ก่อนการประชุม FOMC วันที่ 9–10 ธ.ค. ดังนั้น อาจเลี่ยงการส่งสัญญาณเชิงนโยบายโดยตรง มุมมองล่าสุดตลาดให้น้ำหนัก 87.6% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 3.50–3.75%
EYES ON
2 ธ.ค. อัตราว่างงานยูโรโซน เดือน ต.ค., Core CPI ยูโรโซน เดือน พ.ย
3 ธ.ค. RatingDog China PMI ภาคบริการ เดือน พ.ย., CPI ไทย เดือน พ.ย., การจ้างงานADP สหรัฐฯ เดือน พ.ย.
5 ธ.ค. GDP ยูโรโซน ไตรมาส 3 (รอบสุดท้าย), ดัชนี PCE สหรัฐฯ เดือน ก.ย., Core PCE สหรัฐฯ เดือน ก.ย
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ