Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

60

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 21 พ.ย.68 ปิด -27.41 จุด อยู่ที่ 1,254.10 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,090 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 937 ลบ. ต่างชาติขาย 3,186 ลบ. สถาบันขาย 682 ลบ. และรายย่อยซื้อ 4,806 บาท  NVDR มียอดขายสุทธิ 441 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น TTB,TRUE,TISCO,TCAP,PTT และยอดขายหุ้น DELTA,BBL,GULF,KTB,AOT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,020 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CNROBOAI23,CPAXT,MINT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 24,972 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 44,872 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,314 ลบ.

 Market View

  • DJIA +1.08%, S&P500 +0.98%, Nasdaq +0.88% ได้แรงหนุนจากบริการสื่อสาร & เฮลธ์แคร์ +2.1% หลัง ปธ.เฟดสาขานิวยอร์ค จอห์น วิลเลียมส์ เผยนโยบายการเงินปัจจุบันยังตึงตัว และมีโอกาสลดดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 71% & เดิม 40% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 25% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค. ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมา DJIA -1.91%, S&P500 -1.95%, Nasdaq -2.7% WoW จากความกังวลต่อมูลค่าหุ้นกลุ่มชิป & AI อาจอยู่ในภาวะฟองสบู่ หลัง Nvidia -5.9% WoW แม้ว่ากำไรไตรมาสที่ผ่านมาจะดีกว่าคาด แต่นักลงทุนกังวลต่อการหมุนเวียนเงินลงทุนระหว่างกลุ่มบริษัทพันธมิตรเดียวกัน แต่ราคาหุ้น Nvidia ช่วงปิดตลาดวันศุกร์ +0.64% รับข่าว ปธน.ทรัมป์อาจอนุญาตให้บริษัทขายชิปรุ่น H200 ให้กับจีน ข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้วันอังคารติดตาม ยอดค้าปลีก, US PPI, ดัชนีราคาบ้าน ก.ย.และ CB เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ พ.ย./ วันพฤหัสปิดในวันหยุด Thanksgiving
  • Stoxx600 ยุโรป -0.33% จากแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี -2.3% เช่น ASML, ASM, BESI ปรับลดลงจากความกังวลต่อมูลค่าหุ้นเทค ฯ อาจแพงเกินไป ขณะที่กลุ่มป้องกันประเทศ -3.4% เช่น Renk -8.4%, Rheinmetall -7.2% หลังสหรัฐพยายามเจรจาให้ยูเครนยุติสงครามกับรัสเซีย สัปดาห์ที่ผ่านมา Stoxx600 -2.2% WoW จากความกังวลภาวะฟองสบู่ในอุต ฯ AI กอปรกัยังไม่แน่ใจว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยใน ธ.ค. หรือไม่
  • MSCI Asia Pacific x Japan -4.0% WoW โดยดัชนีนิเกอิ -3.5% WoW หลังนายก ฯ ญี่ปุ่นเผยเตรียมใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ Japan Bond Yield 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 79% สูงสุดในรอบ 17 ปี และค่าเงินเยนอ่อนค่า กอปรกับยังกังวลต่อปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างญี่ปุ่น – จีนในกรณีไต้หวัน ซึ่งส่งผลให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -3.9% WoW จากประเด็นข้อขัดแย้งดังกล่าวด้วย ส่วน Kospi เกาหลีใต้ -3.95% WoW จากแรงขายหุ้นกลุ่มซัพพลายเออร์ของ Nvidia เช่น Samsung Electronics, SK Hynix
  • SET -1.17% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 26 หมื่น ลบ. -2.4% WoW ต่างชาติขาย 3,515 ลบ. สถาบันขาย 1,778 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 513 ลบ. และรายย่อยซื้อ 5,806 ลบ. WoW โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ -4.6% WoW จากความกังวลต่อมูลค่าหุ้นกลุ่มชิป & AI ในตลาดโลกที่อยู่สูงเกินกว่ามูลค่า Fair Value ขณะที่กลุ่ม Global Play เช่น ปิโตรเคมี -3.7% WoW หลังนายก ฯ ญี่ปุ่นเผยหากจีนบุกเข้ายึดไต้หวัน ทางญี่ปุ่นจะส่งกำลังเข้าช่วยเหลือ ส่งผลให้ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น ส่วนกลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ ธนาคาร +2.3% WoW เป็นกลุ่มที่ผันผวนน้อย โดยได้ปัจจัยหนุนอัตราเงินปันผลเฉลี่ยปีนี้สูงกว่าระดับ 5% จีงเป็นกลุ่มที่นักลงทุนเลือกใช้เป็นที่พักเงินในช่วงที่ตลาดหุ้นต่างประเทศผันผวนสูง ขณะที่กลุ่มชนส่ง +1.2% WoW หลัง AOT รายงานกำไรงวด Q4/68 ดีกว่าตลาดคาด +4.3% และยังอาจได้ปัจจัยหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีโอกาสเข้าไทยเพิ้มขึ้น หลังรัฐบาลจีนสั่งให้นักท่องเที่ยวจีนเลี่ยงดินทางไปญี่ปุ่น โดยภาพรวมดัชนี SET ถูกกดดันจากความผันผวนของดัชนีหุ้นสหรัฐ กอปรปัจจัยเสี่ยงการเมืองในประเทศสูงขึ้น หลังนายก ฯอนุทินอาจเลือกยุบสภา ฯ เร็วกว่ากำหนดในช่วงปลายเดือน ม.ค. 69  หากพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะกระทบด้านลบต่อ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจไทยในช่วง Q4/68 – Q1/69 ประเด็นสำคัญช่วงปิดตลาดวันนี้ MSCI จะรีบาลานท์ Small Index มีหุ้นไทยเข้า 1 ตัว คือ MK และปรับออก 5 ตัว คือ AAV,CKP,JTS,QH,TPIPP      

     Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,250 แนวต้าน 1,260 – 1,270 คาดดัชนี SET มีโอกาสฟื้นตัว หลังดัชนีหุ้นต่างประเทศผันผวนน้อยลง และยังรอการผลประชุมเฟดวันที่ 10 ธ.ค.แนะนำทยอยซื้อ CPN,CENTEL,BA,WHAUP คาดกำไร Q4/68 ยังเติบโตดี/ พักเงินในหุ้นกลุ่มที่มีอัตราเงินปันผลสูง เช่น SCB,KTB,TTB,TCAP,ADVANC
  • BA* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 18.60 บาท)บริษัทรายงานกำไร 3Q68 ที่ 1 พันล้านบาท +159%QoQ, +55%YoY หนุนจากรายได้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบินตามฤดูกาลที่เป็น high season ของสมุย ส่วนทางฝั่งต้นทุนได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับลดลง มีสถิติการบินจำนวนผู้โดยสาร 04 ล้านคน +12%QoQ, -2%YoY ราคาตั้งเฉลี่ย 4,159 บาท +6%QoQ, -1%YoY Load Factor 79% แนวโน้ม 4Q68 คาดกำไรลดลง QoQ ผ่านช่วง peak สมุย แต่ยังคงเพิ่มขึ้น YoY ได้จากภาพรวมของประเทศเป็นฤดูท่องเที่ยว ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 3.3 พันล้านบาท -12%YoY และ 3.4 พันล้านบาท +4%YoY

SHR*(ทะยอยซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 2.25 บาท) กำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 129 ลบ.(จาก 3Q67 ขาดทุน 53 ลบ., +431%QoQ) หนุนด้วย 1.รร.ที่กลับมาเปิดหลังตกแต่งใหม่เสร็จสิ้น โดยเฉพาะรร. ทราย ลากูน่า 2.High Season ของรร.ใน UK และ 3.ม.“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ด้านการดำเนินงานใน 4Q68 คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อ โดย 1ต.ค.-18พ.ย.68 นักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ยัง +11%YoY ขณะที่รร.ในไทยเข้า High Season/มีม. ภาครัฐฯเสริม ทั้งนี้ ตลาดคาด Adj. Profit ปี68 และ 69 ที่ 339 ลบ.(+111%YoY) และ 455 ลบ.(+34%YoY)

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ม.ค.-$0.94 อยู่ที่ $58.06 / บาร์เรล, Brent ม.ค. -$0.82อยู่ที่ $62.56/บาร์เรล สัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาน้ำมันดิบปรับลดลงกว่า -3% หลังสหรัฐพยายามผลักดันข้อตกลงยุติสงครามในยูเครนที่ยาวนานกว่า 3 ปี ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันจากรัสเซียอาจเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$19.50 อยู่ที่ $4,079.50 /ออนซ์ หลัง ปธ.เฟดนิวยอร์ค จอห์น วิลเลียมส์ หนุนให้เฟดลดดอกเบี้ยในการประชุม ธ.ค. ส่งผลให้โอกาสปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 71% & เดิม 40%

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ที่ผ่านมา ซื้อสุทธิ +177.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -108.37 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +233.51 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +51.93 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.061 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +5 อยู่ที่ 2,275

(+) BitCoin เช้านี้ +2.25% อยู่ที่ 86,855 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 Economic Calendar

 

ในประเทศ

28 พ.ย.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

25 พ.ย.     US ดัชนียอดขายปลีก (ก.ย.)

                US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (ก.ย.)

                US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (พ.ย.)

26 พ.ย.     US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3) 

US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ก.ย.)

US ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

27 พ.ย.     US วันหยุด - วันขอบคุณพระเจ้า 

28 พ.ย.     US ปิดทำการก่อนกำหนด ณ เวลา 13:00 - วันขอบคุณพระเจ้า 

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: WHAUP*, PRM*, BDMS, ADVANC, SHR*, TOP

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ซบเซาอีกนาน By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็นเศรษฐกิจไทย มองไปข้างหน้าแล้ว เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ต้องใช้ยากระตุ้นตลอดเวลา เรียกว่า ชีวตอยู่ได้....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้