สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 20 พฤศจิกายน 2568 )------- บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน)LOXLEY รายงานงบการเงินรวม ไตรมาสที่ 3/2568 กำไรสุทธิ 129 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน กำไรสุทธิ 7.04 ล้านบาท
สำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีรายได้ 2,996 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 129 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิดังกล่าวเปลี่ยนแปลงจากปีก่อนมากกว่าร้อยละ 20 บริษัทใคร่ขอชี้แจง รายละเอียดสำหรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในประเด็นที่สำคัญดังนี้
รายได้จากการขายและการให้บริการสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 มูลค่า 2,996 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนรายได้เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนพบว่ารายได้ของสายธุรกิจ เทคโนโลยีสารสนเทศในงวดนี้จำนวน 940 ล้านบาทเติบโตจากปีก่อนร้อยละ 14 เนื่องจากได้รับแรงสนับสนุนจากการเร่งส่งมอบ โครงการของลูกค้าภาครัฐ เพื่อให้ทันต่อรอบการใช้งบประมาณ นอกจากนี้รายได้ของสายธุรกิจเทรดดิ้งจำนวน 990 ล้านบาท เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12 สาเหตุหลักมาจากการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันถั่วเหลืองที่ มีความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อนจากปัจจัยราคาจำหน่ายปรับตัวลดลงตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม รายได้ งานโครงการของสายธุรกิจต่างๆ จำนวน 1,066 ล้านบาท โดยรวมปรับตัวลดลงร้อยละ 17 ปัจจัยหลักจากการชะลอตัวของ เศรษฐกิจไทยในภาพรวมและการลงทุนภาครัฐที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่นัก
กำไรจากกิจกรรมดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 มีกำไรจำนวน 41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่จำนวน 41 ล้านบาท โดยภาพรวมอัตรากำไรขั้นต้นไม่แตกต่างจากปีก่อนคือร้อยละ 16.5 ซึ้งกำไร จากกิจกรรมดำเนินงานดีขึ้นส่วนใหญ่จากสายธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศในงวดนี้จำนวน 76 ล้านบาท ดีขึ้นจากงวดปีก่อน จำนวน 48 ล้านบาท ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบจากกำไรของกลุ่มธุรกิจเกี่ยวกับงานโครงการที่ปรับลดลง ส่งผลให้ภาพรวมผลการ ดำเนินงานยังอยู่ในระดับที่ดี นอกจากนี้ รายได้อื่นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการรับรู้กำไรตามราคาตลาด (mark-to-market) ของสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (forward contract) ซึ่งเปลี่ยนจากผลขาดทุนในปีที่ผ่านมาเป็นกำไร จากการ แข็งค่าของเงินบาทในงวดปัจจุบัน
ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 156 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีส่วนแบ่งกำไรเท่ากับ 82 ล้านบาท ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น จากผล ประกอบการของบริษัทร่วมหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ และกลุ่มธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น ยังคงมีผลกำไรที่ดีจาก การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และผลบวกจากปัจจัยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าลดลง นอกจากนี้ผลประกอบการที่ดีขึ้นของกลุ่มธุรกิจให้บริการรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นผลมาจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ ปรับตัวดีขึ้นตามสัญญาให้บริการใหม่ของบริษัทร่วมซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568
กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 129 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมากกว่าร้อยละ 20 การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิดังกล่าวเป็นผลมาจากความสามารถในการสร้างกำไรจากกิจกรรมดำเนินงานที่ดีขึ้น และการได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่เพิ่มขึ้นตามรายละเอียดที่ชี้แจงไว้ ข้างต้น