Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

53

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 12 พ.ย.68 ปิด -15.66 จุด อยู่ที่ 1,284.81 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,898 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 296 ลบ. สถาบันขาย 1,869 ลบ. ต่างชาติขาย 1,386 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,551 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 82 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น BDMS,DELTA,TRUE,PTTGC,KBANK และยอดขายหุ้น CPALL,GULF,BBL,KTC,BANPU มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,473 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ JTS,SCC,QH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 19,497 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 59,647 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,239 ลบ.

 Market View

  • DJIA +0.68%(New High), S&P500 +0.06%, Nasdaq -0.26% ได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ +36%, การเงิน +0.9% หลังภาวะชัตดาวน์ 43 วันได้ยุติลง โดยหุ้นกลุ่มการเงิน เช่น Goldman Sachs +3.5%, JP Morgan Chase +1.4% หลัง ปธน.ทรัมป์ได้นัดสนทนากับ CEO ของกลุ่มสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อขอให้สนับสนุนการย้ายฐานการผลิตอุต ฯ ยุทธศาสตร์สำคัญกลับมาในสหรัฐ รวมถึงอาจพิจารณาในเรื่องการปรับลดภาษี และการผ่อนคลายกฏระเบียบควบคุมต่าง ๆ ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง หลัง SoftBank ได้ขายหุ้น Nvidia มูลค่า $5.8 พัน ล. และรอการรายงานงบของ Nvidia ในสัปดาห์หน้า ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม US CPI ต.ค.คาด 3.1% & ก.ย. 3.0% YoY
  • Stoxx600 ยุโรปวานนี้ +71% นำโดยดัชนี IBEX 35 สเปน +1.39%, FTSE MIB อิตาลี +0.8% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร ABN Amro +2.6% ตอบรับกำไรไตรมาสที่ผ่านมาดีกว่าคาด และการเข้าซื้อกิจการ NIBC Bank ขณะที่กลุ่มพลังงาน -0.60% ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ CPI เยอรมัน ต.ค. อยู่ที่ 2.3% & ก.ย. 2.4% YoY และวันนี้ติดตาม UK GDP Q3/68 คาด +1.3% & Q2/68 +1.4% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +43% ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของ Sony Group แม้ว่าจะถูกกดดันจาก SoftBank Group -3.4% หลังบริษัทได้ขายหุ้น Nvidia มูลค่า $5.8 พัน ล.เพื่อนำเงินไปลงทุนใน OpenAI ส่วน Kospi เกาหลีใต้ +1.07% ได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์และพลังงาน หลังวิกฤตขัตดาวน์ของสหรัฐใกล้ยุติ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ปิดทรงตัว โดยอยู่ระหว่างรอข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุต ฯ และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ต.ค. ที่จะรายงานในวันศุกร์นี้
  • SET วานนี้ -20% ปริมาณการซื้อขาย 3.88 หมื่น ลบ. สถาบันขาย 1,869 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 296 ลบ. ต่างชาติขาย 1,386 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,551 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มค้าปลีก -4.0% หลัง CPAXT รายงานกำไร Q3/68 อยู่ที่ 1.86 พัน ลบ. -5% YoY, -18% QoQ และต่ำกว่าตลาดคาด -14% สาเหตุมาจากยอดขาย SSSG ของธุรกิจค้าปลีกที่หดตัว ขณะที่ปัญหาภัยน้ำท่วมในปัจจุบันอาจส่งผลให้รายได้ของกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวช้ากว่าคาด แม้ว่ารัฐบาลจะออก ม.กระตุ้นกำลังซื้อผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส ส่วนกลุ่มปิโตรเคมี -3.1% หลัง PTTGC, IVL รายงานผลขาดทุนในงวด Q3/68 กอรปกับแนวโน้มราคาสเปรดผลิตภัณฑ์ในงวด Q4/68 ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในโซน Bullish ได้ปัจจัยหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ, การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และเฟดลดดอกเบี้ย โดยภาพรวมตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ และอยู่ระหว่างรอการรายงานงบ บจ.Q3/68 ซึ่ง บจ.ที่ส่งงบแล้ว 328 แห่ง รายงานกำไรดีกว่าคาด BB Consensus +5.2%

     Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,275 – 1,280 แนวต้าน 1,290 - 1,300 คาดดัชนีทรงตัวระหว่างรอการรายงานงบ บจ.Q3/68 รวมถึงประเมินผลกระทบจากภัยน้ำท่วม แนะนำซือเก็งกำไรกลุ่มที่รายงานกำไร Q3/68 ดีกว่าคาด GFPT,TFG,BDMS,AMATA,SEAFCO / เก็งกำไร BTG, EGCO, BAM มีสัญญาณบวกทางเทคนิค
  • BBIK* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 28.00 บาท) คาดกำไร 4Q68 โตโดดเด่นจาก backlog 1,005 ลบ.ที่คาดจะรับรู้ในปีนี้ราว 469 ลบ.จากการให้บริการ corporate training, virtual banking บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 2 เท่าภายใน 3 ปี ด้วยธุรกิจที่ปรึกษา strategic transformation, big data, AI & machine learning, digital platform, automation security ฯลฯ คงเป้ารายได้ปี 68 ที่ 20% และปี 69 ที่ 30% รักษา Net Margin ที่ราว 20% ตลาดคาดกำไรปี 69 ที่ 379 ลบ. +15%YoY valuation น่าสนใจจาก P/E ที่ต่ำกว่า 10 เท่ายังไม่สะท้อนกำไรและโมเดลธุรกิจที่โตแข็งแกร่ง

AMATA (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท)กำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 1,139 ลบ.(+49%YoY, +714 %QoQ) มีแรงหนุนจากยอดโอนที่ดิน +YoY QoQ ราว 677 ไร่(ไทย-664 ไร่/ เวียดนาม-14ไร่) นอกจากนี้รายได้ค่าเช่าก็เติบโตเช่นกัน ซึ่งจากรายได้ออกมาสูงกว่าคาดส่งผลให้รายได้ชนะ Fixed Cost ส่งผลบวกต่อไปยังมาร์จิ้นโดยรวม ด้านการดำเนินงานช่วง 4Q68 นี้คาดแนวโน้มยังจะเป็นบวกต่อ QoQ ได้ตามฤดูกาลการโอนที่ดินของกลุ่มธุรกิจนิคมฯ ปัจจุบัน ทางฝ่ายวิเคราะห์ คาดกำไรสุทธิปี68 และ 69 ที่ 2,923 ลบ.+18%YoY และ 3,031 ลบ.+4%YoY ตามลำดับ

 

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ธ.ค.-$2.55 อยู่ที่ $58.49 / บาร์เรล, Brent ม.ค. -$2.45 อยู่ที่ $62.71/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลัสคาดอาจเกิดภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาดเล็กน้อยในปีหน้าราว 20,000 บาร์เรล/วัน หากกลุ่มโอเปกพลัสคงกำลังการผลิตเท่ากับ ต.ค. ที่ผ่านมา

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$97.30 อยู่ที่ $4,213.60 /ออนซ์ ได้แรงหนุนหลัง US Bond Yield 10 ปี ปรับลดลงอยู่ที่ 4.07% จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุม ธ.ค.

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +30.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -42.67 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +73.66 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.61 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.07 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -42 อยู่ที่ 2,030

(-) BitCoin เช้านี้ -0.98% อยู่ที่ 102,246 ดอลลาร์สหรัฐ

 Economic Calendar

 

ในประเทศ

17 พ.ย.     สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/68 และแนวโน้มปี68

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

สรท. แถลงสถานการณ์การส่งออก 

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

                ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

ต่างประเทศ

13 พ.ย.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)  ( ต.ค.)

14 พ.ย.     CN อัตราการว่างงานของจีน ( ต.ค.)

EU ดัชนีจีดีพี (GDP) (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 3) 

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: WHAUP*, PRM*, KLINIQ, ADVANC, SHR, TOP

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

อารมณ์แห่งความผิดหวัง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เห็นอารมณ์แห่งความผิดหวังของนักลงทุน แสดงออกด้วยการขายหุ้น ปรับพอร์ต ถือเงินสด หลังจาก บริษัท...

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้