สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(29 ตุลาคม 2568)-------------เอสซีจี เผยไตรมาส 3 ปี 2568 กระแสเงินสด (EBITDA) 14,191 ล้านบาท ผลจากการรักษาวินัยทางการเงินเข้มงวด รายได้จากการขาย 121,793 ล้านบาท กำไรที่ไม่รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือของเอสซีจีซี และรายการปรับโครงสร้างธุรกิจ 774 ล้านบาท ขณะที่มีขาดทุนสำหรับงวด 669 ล้านบาท แม้เผชิญกับเศรษฐกิจโลก-ไทยชะลอตัว เอสซีจีได้เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขยายพอร์ตสินค้าราคาคุ้มค่า-HVA-กรีน และคว้าโอกาสตลาดเวียดนามเติบโตสูง ผลิต-ส่งออกสู่ตลาดโลก
เอสซีจีแจ้งผลประกอบการ ไตรมาส 3 ปี 2568 และ 9 เดือน ปี 2568 แม้เผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ท้าทายและปัจจัยกดดันภายนอก ผลจากการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในระดับมั่นคง กระแสเงินสด (EBITDA) ช่วง 9 เดือนของปี 2568 อยู่ที่ 44,511 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 38,768 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากความพยายามปรับโครงสร้างการดำเนินงานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การรักษาวินัยทางการเงินอย่างเข้มงวด
การบริหารต้นทุนให้แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก การขยายพอร์ตสินค้าราคาคุ้มค่า Smart Value – HVA- กรีน
กระแสเงินสด (EBITDA) ไตรมาส 3 ปี 2568 อยู่ที่ 14,191 ล้านบาท ลดลง 19% จากไตรมาสก่อน จากเงินปันผลรับตามฤดูกาล รายได้จากการขาย 121,793 ล้านบาท ลดลง 2% จากปัจจัยฤดูกาลของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับซีเมนต์และการก่อสร้าง และรายได้จากการขายที่ลดลงของเอสซีจีพี กำไรเมื่อไม่รวมการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือของเอสซีจีซี และรายการปรับโครงสร้างธุรกิจ 774 ล้านบาท ซึ่งหากรวมรายการดังกล่าวจะมีขาดทุนสำหรับงวด 669 ล้านบาท
เอสซีจีได้ปรับตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลดีต่อการดำเนินงานและการเงินในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (ไตรมาส 3 ปี 2567 ถึงไตรมาส 3 ปี 2568) ดังนี้ 1) เงินทุนหมุนเวียน ลดลง 21,571 ล้านบาทจากปีก่อน 2) หนี้สินสุทธิลดลง 32,226 ล้านบาทจากปีก่อน 3) อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA อยู่ที่ 4.7 เท่า จากเดิม 6.3 เท่า
สถานการณ์เศรษฐกิจโลก-ไทยมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความท้าทายที่แต่ละธุรกิจต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เอสซีจีจึงใช้ความได้เปรียบจากการเข้าไปดำเนินธุรกิจในอาเซียนมานาน โดยเฉพาะเวียดนามที่มี GDP โตสูงถึง 7% และสามารถบริหารต้นทุนให้แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกได้เป็นฐานการผลิตสินค้า อาทิ ปูนซีเมนต์คาร์บอนต่ำ กระเบื้องเซรามิก ส่งออกสู่ตลาดโลก