ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook

Sentiment Tracker Sentiment ตลาดหุ้นไทยทรงตัวในโซน Neutral
KEY FINDINGS:

สหรัฐฯ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า หนุนจากการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทซึ่งภาพรวมดีกว่าที่ตลาดคาด ขณะที่เครื่องชี้วัดภาวะอารมณ์ตลาด (Sentiment Indicators) ส่งสัญญาณมิกซ์โดยดัชนี Fear & Greed Index ปรับตัวลดลงและอยู่ในโซน Fear ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง อย่างไรก็ตามผลสำรวจ AAII แสดงให้เห็นมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มขึ้น จาก Bull-Bear Spread ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ไทย: ดัชนี SET ปรับตัวขึ้น 0.8% จากสัปดาห์ก่อนหน้า หนุนจากผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาดีกว่าตลาดคาด ขณะที่มาตรวัด BLS Greed & Fear Barometer ทรงตัวในโซน Neutral โดยคะแนนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ที่ระดับ 51 คะแนน จากองค์ประกอบย่อยที่ยังคงผสมผสานทั้งในด้านบวกและด้านลบ สะท้อนถึงภาวะตลาดที่มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบต่อไปในระยะสั้น

US MARKET SENTIMENT TRACKER:
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.4% นับจากสัปดาห์ก่อนหน้า หนุนจากการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทซึ่งภาพรวมดีกว่าที่ตลาดคาด ในขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีน ความกังวลเกี่ยวกับธนาคารภูมิภาคในสหรัฐฯ และแรงขายทำกำไรในหุ้นเทคโนโลยีบางกลุ่มที่ขึ้นมาอย่างร้อนแรงในช่วงก่อนหน้านี้ ยังคงสร้างความผันผวนให้กับตลาด เครื่องมือชี้วัด Sentiment ส่งสัญญาณมิกซ์—CNN Fear & Greed Index ปรับตัวลดลงจาก 31 จุดเหลือ 26 จุด ซึ่งเป็นการอยู่โซน Fear ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง ฉุดจากหลายองค์ประกอยย่อย อาทิ Stock Price Strength ที่อ่อนแอลง รวมถึง Put to Call Ratio ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนว่าตลาดยังคงป้องกันความเสี่ยงจากทิศทางขาลงของดัชนีเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตามผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนของ AAII สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดในช่วง 6 เดือนข้างหน้าที่เพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนมีมุมมองฝั่ง Bullish เพิ่มขึ้นจาก 33.7% เป็น 36.9% (แต่ยังคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 37.5%) ขณะที่มุมมฝั่ง Bearish ลดลงจาก 46.1% เหลือ 42.7% (แต่ยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 31.0%) ส่งผลให้ Bull-Bear Spread ปรับเพิ่มขึ้นจาก -12.4% สู่ระดับ -5.8% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 6.5%) ส่วนผลสำรวจพิเศษของ AAII ในสัปดาห์นี้สอบถามว่าผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าตลาด ณ ปัจจุบันอยู่ในภาวะ Bullish หรือ Bearish มากเกินไป พบว่า 55% คิดว่าตลาด Bullish มากเกินไป, 18% ตอบว่า Bearish มากเกินไป, 18% ตอบว่าปานกลาง และ 9%ไม่มีความเห็น

THAI MARKET SENTIMENT TRACKER:
ในส่วนของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ปรับตัวขึ้น 0.8% จากสัปดาห์ก่อนหน้า หนุนจากผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารที่ประกาศออกมาดีกว่าตลาดคาด ขณะที่มาตรวัด BLS Greed & Fear Barometer ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยยังคงอยู่ที่ 51 คะแนน ซึ่งอยู่ในโซน Neutral โดยองค์ประกอบที่หนุน Sentiment ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้แก่ ดัชนี Bull-to-Bear ที่ปรับตัวขึ้นจากระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยและความผันผวนของตลาดที่ปรับลดลง อย่างไร ก็ตามองค์ประกอบดังกว่าวได้ถูกหักล้างจากดัชนี Volume Index ที่กลับมาปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ จากระดับใกล้ Overbought รวมถึง Market Breadth ที่ยังปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ และดัชนี Momentum Strength ที่ปรับตัวลงเล็กน้อย

IMPLICATION:
การที่ Sentiment ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ส่งสัญญาณมิกซ์ต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองสะท้อนว่านักลงทุนเริ่มเพิ่มความระมัดระวังท่ามกลางตลาดที่แกว่งตัวบริเวณใกล้จุดสูงสุดที่ทำไว้บริเวณ 25,200 จุด ทั้งนี้ ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ประกอบกับการประกาศผลประกอบการบริษัทที่จะหนาแน่นมากขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า สะท้อนถึงแนวโน้มที่ดัชนี S&P500 จะเคลื่อนไหวผันผวนต่อไปในระยะสั้น
สำหรับตลาดหุ้นไทย แม้ BLS Greed & Fear Barometer จะยังทรงตัว แต่สัญญาณเชิงลบที่ปรากฏในดัชนี Volume Index และ Momentum Strength สะท้อนว่า SET ยังคงเผชิญแรงกดดัน ส่งผลให้การฟื้นตัวในระยะนี้ ยังมีกรอบอัพไซด์ที่จำกัด

สรุปภาพตลาดวานนี้
หุ้นไทยรีบาวด์ แต่ลดช่วงบวกลง แรงซื้อยังคงกระจุกตัวในหุ้นกลุ่มธนาคารที่รายงานกำไรดีกว่าคาด KBANK SCB โดยกลุ่มธนาคารรอบนี้ ช่วยหนุนภาพรวมตลาดตามที่เราคาด และหุ้นโรงไฟฟ้าแกร่งกว่าตลาด ส่วนหุ้นลบหนัก CBG (ยอดขายจากธุรกิจกัมพูชาตกแรง)

แนวโน้มตลาดวันนี้
จีน-สหรัฐฯ เริ่มเจรจาการค้า...
วันนี้คาดหุ้นไทยแกว่งตัวเชิงบวก แม้จะมีแรงขายทำกำไรหุ้นแบงก์ ที่รีบาวด์ช่วงต้นสัปดาห์นี้ และสลับไปเล่นหุ้นพลังงาน ปิโตร โรงกลั่น
โดยคาดแรงซื้อเก็งกำไรงบการเงินจะมีน้ำหนักต่อราคาหุ้นรายตัวมากขึ้น เมื่อ นลท.เห็นตัวอย่าง หุ้นแบงก์ที่กำไรดีกว่าคาด และราคาหุ้นแบงก์หลายตัวทำจุดสูงสุดใหม่ของปี ความคาดหวังเชิงบวกต่อหุ้นตัวถัดไปที่จะประกาศงบ และมีแนวโน้มกำไรดีเกินคาด จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการซื้อเก็งกำไร
ปัจจัยที่ต้องตาม รอการประชุมเฟด 28-29 ต.ค.นี้ คาดลดดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.75-4% และสัญญาณต่อการยุติโครงการ QT, ความผันผวนของตลาดหุ้นภูมิภาค โดยรวมเรามองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นไทย, จีน สหรัฐฯ ได้ฤกษเจรจาการค้ารอบใหม่เริ่ม 24-27 ต.ค.นี้, ปัจจัยในประเทศ กระทบหุ้นรายตัว เช่น การรายงานงบ บจ. เช่น วันนี้ DELTA, กสทช. เสนอโครงการ เน็ตคนละครึ่ง ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้เข้าถึงการใช้งาน (TRUE ADVANC)
โดยหุ้นไทยจะผ่านช่วง Sideways ไปรอความชัดเจนช่วงปลายเดือน ก่อนจะเดินหน้ายกฐานเล่นกรอบใหม่ที่สูงขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้-รอสะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลงมาตามแนวรับ เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค
เส้นทางของ SET Index…..วิ่งอยู่ในเลนขาขึ้นมีสลับย่อบ้าง แต่ยังรักษาโมเมนตัมขาขึ้นได้อย่างเหนียวแน่น (ไม่หลุด EMA 200 วัน) ตามแผน! จับตา volume กลับมาหนาแน่น! MACD cross ตัดเส้น signal line สำเร็จ! ขณะที่จุดยอดเดิม previous high ที่เคยทำไว้ 1,317 จุด มีลุ้นทะลุผ่านไม่น่ายาก เป้าหมายใหญ่เคยให้ไว้ที่ 1330 จุด (ตำแหน่ง Fibo 61.8% ที่ 1,330 จุด) โอกาสเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สรุป: แนวโน้มตลาดมองขึ้นต่อ “บันได 3 ขั้นสู่ความสำเร็จ” โซนรับขยับขึ้นเป็น 1,270 จุด (เดิม 1,250 ) Trailing stop ตามดัชนี
ไฮไลท์หุ้นเด่น: แผนเทรดเล่นรอบ “แบงค์ยิ่งสูง…..ยิ่งหนาว”/ THCOM (หุ้นแนะนำ) จ่อทะลุต้าน / GPSC ย่อนิดๆ ลุ้นฟื้นกลับ / MTC prepare break out EMA 200 / TRUE ดีดเด้งโซนรับ (strong support)

What to watch
คาดวันประกาศงบสัปดาห์นี้ ศุกร์ DELTA/ อังคาร 28 SCGP GLOBAL HMPRO พุธ 29 SCC พฤหัส 30 ITC PTTEP
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศคว่ำบาตร Lukoil และ Rosneft บริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย โดยเป็นการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งแรกนับตั้งแต่ปธน.ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง ซึ่งมีเป้าหมายกดดันให้รัสเซียยุติสงครามในยูเครน

จีนยืนยันเข้าร่วมเจรจาการค้ารอบใหม่กับสหรัฐฯ วันที่ 24-27 ต.ค.ที่มาเลเซีย โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสองประเทศ เพื่อปูทางสำหรับการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน

เบสเซนต์กล่าวว่า คณะเจรจาของเขา ซึ่งรวมถึงเจมิสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ คาดหวังที่จะแก้ไขมุมมองที่แตกต่างกันเจ้าหน้าที่จีน เพื่อให้ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี สามารถเข้าร่วมการพูดคุยด้วยบรรยากาศที่เป็นบวกมากขึ้น

สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตด้วยซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ไปยังประเทศจีน ซึ่งสินค้าเหล่านี้ครอบคลุมถึงแล็ปท็อปไปจนถึงเครื่องยนต์เครื่องบิน เพื่อตอบโต้จีนที่จำกัดการส่งออกแร่หายาก
สงครามการค้า จีน สหรัฐฯ ที่ได้ข้อยุติลงชั่วคราวเมื่อเดือน พ.ค. (โดยระงับการเก็บภาษีตอบโต้กันในอัตราเลขสามหลัก) กำลังจะถึงเส้นตายใหม่ วันที่ 10 พ.ย. ซึ่งต้องเร่งหา ข้อยุติชั่วคราวครั้งใหม่ให้ทัน...

กสทช.จ่อเสนอดีอีชง "เน็ตคนละครึ่ง" 160 บาทเล่น 40GB เข้าครม.สัปดาห์หน้า โครงการ "อินเทอร์เน็ตคนละครึ่ง" ช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและยกระดับทักษะดิจิทัล โดยผลของการหารือร่วมกับค่ายมือถือ ผู้ร่วมโครงการจะได้บริการอินเทอร์เน็ตราคา 160 บาท (รวม VAT) ความเร็วที่ 40 GB ระยะเวลา 30 วัน หลังจากสิ้นสุดกำหนดเวลา ให้ใช้ได้ความเร็ว 512 MB ทั้งนี้บริการนี้ไม่รวม บริการเสียง non voice

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้
SCGP คาดกำไรไตรมาส 3/25 ที่ 998 ล้านบาท +47% y-y, -7% q-q โดยรายได้จากเวียดนาม และ อินโดนีเซีย ยังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งตาม GDP ของทั้ง 2 ประเทศที่โตแกร่งในอาเซียน
แนวรับ 17.8 ต้าน 18.6 Stop loss 17

รายงานพื้นฐานวันนี้

Energy (Refining)
3Q-4Q25 โมเมนตัมดีต่อเนื่อง
คาดว่าบริษัทใน Coverage (BCP, IRPC, SPRC, TOP) จะมีกำไรสุทธิรวมราว 4.85 พันลบ. (กลับมากำไรจากปีก่อนและเพิ่มขึ้น 399% QoQ) และมีกำไรหลัก 2.88 พันลบ. (พลิกเป็นบวก YoY แต่ลดลง 32% QoQ) สาเหตุหลักของการฟื้น YoY มาจาก GRM ที่ดีขึ้นและกำไรสต็อก/FX ส่วนการลดลง QoQ มาจากผลประกอบการของ TOP ที่อ่อนลงจากการปิดซ่อมบำรุงบางส่วน สำหรับ 4Q25 ค่าการกลั่นจะได้แรงหนุนจากดีมานด์ตามฤดูกาล โดยเฉพาะ gasoil และ jet fuel ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว และการท่องเที่ยวทางอากาศทั่วโลกที่ฟื้นต่อเนื่อง ด้านซัพพลายจำกัดจากการปิดซ่อมโรงกลั่นในหลายประเทศ (โดยเฉพาะ ต.ค.) การส่งออกที่ลดลงจากจีนและรัสเซีย และสต็อกน้ำมันดีเซลที่ต่ำ จึงหนุนให้ GRM ใน 4Q25 ขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ แม้ราคาน้ำมันดิบพรีเมียมเพิ่มขึ้น คาด BCP และ TOP นำการเติบโต YoY
เราปรับราคาเป้าหมายไป ณ สิ้นปี 2026 BCP (34), IRPC (0.75), SPRC (6.20) ปรับคำแนะนำ BCP ขึ้นจาก ขาย เป็น ถือ และยังชอบ SPRC กับ TOP มากที่สุด

BJC
เบอร์ลี่ ยุคเกอร์
กำไร 3Q25 ยังถูกกดดันจาก BigC
เราคาดกำไรหลัก 3Q25 ที่ 670 ลบ. (-28% YoY, -42% QoQ) ต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ กดดันจากธุรกิจ BigC ที่เผชิญกำลังซื้ออ่อนและการปิดปรับปรุงสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 11 แห่ง (จาก 6–7 แห่งใน 2Q25) อีกทั้งไม่มีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคเหมือนปีก่อน ทำให้คาด SSS ของ BigC จะลดลง 4% YoY และ GM หดตัว 20–30bps YoY ขณะที่ธุรกิจอื่น ๆ ชะลอตัวลงเช่นกันเพราะรายได้บรรจุภัณฑ์แก้วและสินค้ากลุ่มการแพทย์น้อยลง ดังนั้น เราคาดรายได้รวมทั้งกลุ่มลดลง 3% YoY และ EBIT margin เหลือ 6.7% (-60bps YoY)
ทั้งนี้ เราปรับลดกำไรหลักปี 2025–27 ลง 8% ต่อปี สะท้อนการฟื้นตัวยอดขายที่ช้ากว่าคาดและการปิดสาขา miniBigC และกิจการ Thai Scandic Steel ในระหว่างปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขกำไรหลักปี 25 จะอยู่ที่ 4.4 พันลบ. ลดลง 5%YoY ก่อนที่จะทยอยฟื้นตัว 13% YoY ในปี 26
มุมมองของนักวิเคราะห์ : ราคาหุุ้นช่วงสั้นจะถูกกดดันจากกำไร 3Q25 และการถูกปรับลดประมาณการของตลาด เราแนะนำ “รอจังหวะลงทุนหลังงบ 3Q25 ออก” มีราคาเป้าหมายปี 26 ที่ 22 บ. เพราะประเมิน SSS พ.ย.ฟื้นจากสาขา BigC ที่กำลังปรับปรุงจะทยอยเสร็จและมีเครือข่ายร้านโดนใจ 1.4 หมื่นแห่งที่จะ ได้ผลบวกมาตรการ “คนละครึ่งพลัส” เริ่มบังคับใช้

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน