สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(21 ตุลาคม 2568)-----------ใครที่เคยลงสนามวิ่งมาราธอนจะรู้ดีว่า "เส้นชัย" ไม่ได้เกิดขึ้นในวันแข่ง แต่เริ่มต้นจากวินัยการซ้อมทีละก้าวตลอดหลายเดือนก่อนหน้า ที่ไม่ใช่เรื่องของ "การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า" แต่คือการวางแผนและสร้างวินัยเล็กๆ ทุกวัน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายใหญ่ในอนาคต

ทุกวันนี้คนไทยจำนวนไม่น้อยยังมองเรื่องการเงินแบบ "วิ่งระยะสั้น" มีรายได้ก็ใช้หมด หรือมุ่งแก้หนี้แบบเดือนชนเดือน โดยลืมวางเส้นทางระยะยาว เหมือนนักวิ่งที่ฝืนสปรินต์ (การวิ่งระยะสั้นด้วยความเร็วสูงสุด) ตั้งแต่กิโลเมตรแรก สุดท้ายหมดแรงก่อนถึงเส้นชัย การเงินก็เช่นกัน มันคือมาราธอน ไม่ใช่การวิ่งเร็วระยะสั้น "วินัย" สำคัญกว่าความเร็ว การเก็บออมเล็กน้อยทุกเดือน เปรียบเสมือนการซ้อมวิ่งทีละกิโลเมตร ไม่หวือหวาแต่มั่นคง และเมื่อทำต่อเนื่อง ก็สร้าง "ความแข็งแรงทางการเงิน" ที่พาไปถึงเป้าหมายได้จริง

นักวิ่งมาราธอนต้องรู้ "เพซ" หรือความเร็วเฉลี่ยต่อกิโลเมตร เพื่อไม่ให้หมดแรงกลางทาง เช่นเดียวกับ "การเงิน" ที่เราต้องรู้ "รายได้–รายจ่าย" ของตัวเองให้ชัด วางเพดานการใช้จ่าย กำหนดสัดส่วนการออม และรู้ขีดจำกัดในการลงทุน และไม่ใช่แค่เรื่องจังหวะเท่านั้น การเตรียมตัวรับมือกับอุปสรรคก็สำคัญ ในสนามจริงนักวิ่งอาจเจอแดดจัด ฝนตก หรือเจ็บกล้ามเนื้อ ในชีวิตจริงเราอาจเจอเหตุฉุกเฉิน รายได้สะดุด หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด ถ้าไม่มี "กองทุนฉุกเฉิน" ก็เหมือนนักวิ่งที่ไม่มีน้ำดื่มระหว่างทาง เสี่ยงต่อการแผ่วกลางสนาม

แม้การเงินจะเปรียบได้กับการวิ่งมาราธอน แต่เส้นทางของคนไทยจำนวนไม่น้อยกลับเต็มไปด้วยอุปสรรคจาก "หนี้ครัวเรือน" ที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยข้อมูลปี 2567 มีสัดส่วนอยู่ที่กว่า 90% ของ GDP ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนี้ส่วนใหญ่เกิดจากค่าใช้จ่ายจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค สินเชื่อบ้าน และรถยนต์ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาและสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงานอายุ 30–45 ปี ที่ต้องแบกรับภาระครอบครัวและการลงทุนชีวิต ขณะเดียวกัน กลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น ฟรีแลนซ์ หรืออาชีพอิสระ ก็เริ่มเข้าสู่วงจรหนี้เร็วขึ้น หากไม่มีการวางแผนและสร้างวินัยทางการเงินตั้งแต่วันนี้ ก็อาจกลายเป็นการวิ่งที่ไม่มีวันถึงเส้นชัย

3 สเต็ปฝึกซ้อมการเงินแบบนักวิ่งมาราธอน
1. ตั้งเป้าหมายเหมือนเส้นชัย จะซื้อบ้าน ส่งลูกเรียน หรือเกษียณสุขสบาย ต้องมีเป้าหมายการเงินที่ชัดเจน เหมือนกำหนดว่าเราจะวิ่ง 42 กิโล ไม่ใช่วิ่งไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จะหยุดตรงไหน
2. ซ้อมเป็นประจำ แทนที่จะเก็บเงินครั้งละก้อนใหญ่ ให้ฝึก "ออมสม่ำเสมอ" เช่น หัก 30% ของรายได้ทุกเดือน การสะสมทีละเล็กน้อยจะเปลี่ยนเป็นก้อนใหญ่เมื่อเวลาผ่านไป
3.ประเมินและปรับแผนตลอดทาง นักวิ่งต้องเช็กเวลาแต่ละกิโลว่าเร็วไปหรือช้าไป การเงินก็เช่นกัน ควรทบทวนงบประมาณและเป้าหมายทุกปี เพื่อปรับให้สอดคล้องกับชีวิตจริง

การซ้อมที่ต้องมีโค้ชหรือเพื่อนร่วมวิ่ง การสร้างวินัยทางการเงินก็เช่นกัน ต้องมีเครื่องมือและแรงสนับสนุนที่เหมาะสม วันนี้เคทีซีพร้อมเป็น "โค้ชการเงิน" ที่คอยอยู่เคียงข้างด้วยเทคนิคง่ายๆ ควบคู่ไปกับบทเรียนจากนักวิ่งมาราธอน
KTC ผ่อน 0% เปลี่ยนภาระก้อนใหญ่ให้เป็นการผ่อนแบบมีแผน ไม่ทำให้ล้มกลางทาง
ระบบแจ้งเตือนการใช้จ่าย ช่วยให้คุณควบคุมเพซทางการเงิน ไม่ให้เร็วหรือช้าจนเกินไป
สิทธิพิเศษสะสมและแคชแบ็ก เปลี่ยนทุกการใช้จ่ายระหว่างทางให้กลายเป็นพลังเสริม

การวิ่งมาราธอนอาจใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง แต่หนี้หรือการเงินที่ไร้แผนอาจวิ่งตามเราไปทั้งชีวิตคำถามคือ...คุณเตรียมซ้อมการเงินของตัวเองแบบมาราธอนแล้วหรือยัง?