บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ร่วงแรงในกรอบ -0.5% ถึง -2.1% โดยแรงขายกดดันมาจากความกังวลหลายด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ Bond Yield อายุ 10 ปี สหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับ 3.97% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายราว 28 จุดฐาน (เทียบเท่าการลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง) — สะท้อนความคาดหวังต่อทิศทางดอกเบี้ยขาลง ราคาน้ำมันร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากสถานการณ์ตะวันออกกลางที่ผ่อนคลายลง เพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อให้มีแนวโน้มอ่อนแรง ขณะเดียวกันตลาดยังวิตกต่อ ปัญหาสินเชื่อของภาคธนาคารสหรัฐฯ, ความเสี่ยงฟองสบู่หุ้นกลุ่ม AI, ความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ–จีน, รวมถึง Government Shutdown ที่อาจยืดเยื้อเกิน 25 วัน เมื่อรวมกับมูลค่าตลาด (Valuation) ที่อยู่ในโซนสูง นักลงทุนจึงทยอยลดพอร์ตเสี่ยงและโยกเงินเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

สัญญาณเด่นจากต่างประเทศ

TSMC รายงานงบไตรมาส 3 แข็งแกร่งกว่าคาดทุกมิติ โดยรายได้ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง หนุนจากความต้องการชิปขนาด 5 นาโนเมตร ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ ASML แม้รายได้ต่ำกว่าคาด แต่กำไรยังออกมาดีกว่าตลาดประเมิน แนวโน้มไตรมาส 4 ของทั้งสองบริษัทยังสดใส จากความต้องการชิปในตลาด Data Center และ Cloud Computing ที่เร่งตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยแนะนำ เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง ผ่านกองทุนหรือ DR ที่อ้างอิง TAIWAN19 และ ASML01

โฟกัสประเทศไทย

ฝั่งไทย Bond Yield อายุ 10 ปี ปรับขึ้นแตะ 1.60% สูงกว่าดอกเบี้ยนโยบาย สะท้อนมุมมองว่าการลดดอกเบี้ยของ กนง. อาจชะลอออกไปก่อน ขณะที่ทิศทางตรงข้ามในฝั่งสหรัฐฯ ซึ่ง Bond Yield อยู่ในแนวโน้มขาลง ส่งผลให้ส่วนต่างผลตอบแทน (Spread) ระหว่างไทย–สหรัฐฯ แคบลง สถิติชี้ว่า เมื่อ Spread ดังกล่าวลดลง มักหนุนให้ ค่าเงินบาทแข็งค่า ตามกลไกเงินทุนเคลื่อนย้าย และอาจเป็นปัจจัยบวกต่อ Fund Flow ต่างชาติ ที่ทยอยกลับเข้าสินทรัพย์ไทยในระยะสั้น

ด้านกลยุทธ์การลงทุน ภาพรวมตลาดโลกอยู่ในช่วง "Risk-off Mode" หลังเงินทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและพันธบัตร โดยราคาทองคำปรับขึ้นทำ All-time High และ Bond Yield สหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน อีกสัญญาณหนึ่งที่สะท้อนความระมัดระวัง คือ สถิติ Insider Trade สหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าใน 200 รายการใหญ่ มีถึง 197 รายการเป็นการขายสุทธิ รวมถึงหุ้นชั้นนำอย่าง NVDA, CRWD, DELL กลยุทธ์: รักษาสัดส่วนเงินสดในพอร์ตเพิ่มขึ้นเพื่อรอจังหวะ ส่วนหุ้นเด่นรับกระแสบาทแข็งและผลประกอบการเด่น 3Q68 ได้แก่ GULF, BGRIM, BH, ERW

สรุปหุ้นเด่นประจำวัน

GLOBAL GEM : ESTEE80 / POPMART80

PRIME PICK : GULF / ERW / KLINIQ

จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์