AEONTS : ผลประกอบการ 2QFY25 และการประชุมนักวิเคราะห์

ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ 2QFY25 :
• การเติบโตของสินเชื่อ : พอร์ตสินเชื่อลดลง 3.4% YoY และ 0.7% QoQ มาอยู่ที่ 8.83 หมื่นล้านบาท สินเชื่อส่วนบุคคลลดลง 3.8% YoY และ 1.0% QoQ มาอยู่ที่ 4.20 หมื่นล้านบาท สินเชื่อบัตรเครดิตลดลง 8.1% YoY และ 1.3% QoQ มาอยู่ที่ 3.62 หมื่นล้านบาท และสินเชื่อเช่าซื้อเพิ่มขึ้น 21.3% YoY และ 3.4% QoQ มาอยู่ที่ 9.9 พันล้านบาท
• คุณภาพสินทรัพย์ : หนี้เสีย (NPL) เพิ่มขึ้นเพียง 1.5% QoQ มาอยู่ที่ 4.58 พันล้านบาท ขณะที่อัตราส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.19% ใน 2Q (จาก 5.08% ใน 1Q) ซึ่งส่วนใหญ่สะท้อนถึงฐานสินเชื่อที่เล็กลง เราพบว่าอัตราส่วน NPL ของประเทศไทยค่อนข้างคงที่ QoQ ที่ 4.86% สินเชื่อระยะที่ 2 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.83% ใน 2Q (จาก 2.63% ใน 1Q) credit cost เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.64% ใน 2Q (เทียบกับ 7.95% ใน 1Q และ 8.69% ใน 2QFY24) เนื่องจาก AEONTS เพิ่ม Coverage Ratio ขึ้นเป็น 166.8% ใน 2Q จาก 161.8% ในไตรมาสที่แล้ว ซึ่งตอกย้ำจุดยืนในการตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง
• การควบคุมต้นทุน : ต้นทุนการดำเนินงานได้รับการบริหารจัดการอย่างดีเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกัน ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง 5.1% YoY และ 2.4% QoQ มาอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 47.7% จาก 48.4% ในไตรมาสแรก ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
• กำไรสุทธิ : กำไรสุทธิใน 2QFY25 ลดลง 3.6% YoY แต่เพิ่มขึ้น 2.6% QoQ มาอยู่ที่ 792 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของเราเล็กน้อย เนื่องจาก AEONTS ได้เพิ่มเงินสำรองเพื่อเสริมสร้างคุณภาพสินทรัพย์ กำไรก่อนหักสำรองสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 4.0% กำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 16.2% YoY มาอยู่ที่ 1.53 พันล้านบาท และคิดเป็น 50.5% ของประมาณการทั้งปีของเรา

สรุปการประชุมนักวิเคราะห์
• ผู้บริหารของอิออน ธนสินทรัพย์ (AEONTS) เปิดเผยว่า หลังจากตั้งใจที่จะปรับพอร์ตการลงทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงสองสามไตรมาสที่ผ่านมา ขณะนี้ AEONTS พร้อมแล้วที่จะผ่อนคลายเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติที่เข้มงวดขึ้น และกลับมาดำเนินกิจกรรมทางการตลาดอีกครั้ง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ "ทำกำไร" ได้มากขึ้น และคว้าโอกาสการเติบโตของสินเชื่อเมื่อมีโอกาส
• บริษัทฯ ได้กำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งน่าจะช่วยปรับปรุงรายได้ (ยอดขายและค่าธรรมเนียม) โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ 4Q เป็นต้นไป
• หลังจากเพิ่มวงเงินสินเชื่ออีก 200-250 ล้านบาทใน 2Q ขณะนี้บริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อรวมสำหรับผู้บริหารเกือบ 500 ล้านบาท จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ไม่พบปัญหาวงเงินสินเชื่อระยะที่ 2 ทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 2Q ที่ผ่านมา ด้วย
สถานการณ์ทางการเมืองที่มั่นคงขึ้น และความเป็นไปได้ที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ในประเทศไทย การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจึงดูมีความหวังมากกว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และคาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะลดลงในไตรมาสต่อๆ ไป
• จากการประชุมนักวิเคราะห์ เราออกมาพร้อมมุมมองเชิงบวก แม้ว่าผลประกอบการใน 2QFY25 ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในระยะที่ 2 อาจก่อให้เกิดคำถามจากสาธารณชน แต่เราเชื่อว่าการขยายพอร์ตโฟลิโอในภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายมากขึ้นนี้น่าจะมาพร้อมกับ NPL ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทการเงินขนาดใหญ่มีข้อได้เปรียบในด้านต้นทุนทางการเงินที่ลดลงในไตรมาสต่อๆ ไป การดำเนินงานที่กระชับขึ้น (การลดต้นทุนในส่วน back-office) และโครงสร้างที่อิงกับรายได้ค่าธรรมเนียมมากขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้นนี้ได้

• เราแนะนำให้ “ซื้อ” AEONTS โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 132.00 บาท