Thai Stanley Electric (STANLY TB)
ปลอดหนี้สิน กระแสเงินสดอิสระแข็งแกร่ง พร้อมปันผลสูง 7%
คงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 162 บาท
เราคงคำแนะนำ “ถือ” โดยปรับราคาเป้าหมายตามวิธี DDM เป็น 162 บาท (จากเดิม 200 บาท) โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือ 1) อัตราผลตอบแทนเงินปันผลคาดเฉลี่ยราว 7% (ปี 69-71) และ 2) อัตราส่วน P/FCF ที่ 3.9 เท่า (ปี 70) ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งจาก CAPEX ที่ต่ำและไม่มีภาระหนี้สิน อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรหลักของ STANLY ในปี 70 จะลดลง 3% YoY จากภาวะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ซบเซายาวนานและการแข่งขันที่รุนแรงจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน (EVs) ปัจจัยบวกต่อประมาณการ ได้แก่ 1) การผ่อนคลายเงื่อนไขสินเชื่อรถยนต์, 2) การเปิดตัวรถยนต์ BEV จากญี่ปุ่นที่มีราคาสมเหตุสมผลมากขึ้น และ 3) โครงการ BEV/HEV ใหม่ในอนาคต การจัดทำบทวิเคราะห์ STANLY
ถูกโอนจากคุณสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ไปยังคุณยูกิ ทาเคชิมะ
ตลาดยานยนต์ซบเซาและเผชิญการแข่งขันรุนแรงจาก EV จีน
เราคาดว่ากำไรหลักของ STANLY จะลดลง 6% เหลือ 1.53 พันล้านบาทในปี 69 (เม.ย. 68 – มี.ค. 69) และลดลงอีก 3% เหลือ 1.48 พันล้านบาทในปี 70 (เม.ย. 69 – มี.ค. 70) สาเหตุจากอุปสงค์รถยนต์ที่อ่อนตัวและส่วนแบ่งตลาดของรถญี่ปุ่นที่ลดลง เนื่องจากการแข่งขันจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่เข้มข้นขึ้น ปัจจุบัน STANLY มีรายได้จากรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4W) มากกว่า 85% มาจากผู้ผลิตญี่ปุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่มีราคาสู้คู่แข่งได้ในระยะกลาง
ตลาดรถกระบะและมอเตอร์ไซค์ยังไม่เปลี่ยนผ่านสู่ EV ในเร็ว ๆ นี้
เราคาดว่ารายได้ของ STANLY จะลดลงเพียงเล็กน้อยในปี 69 (-5% YoY) และปี 70 (-3% YoY) แม้แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่ EV จะเร่งขึ้นทั่วโลก แต่เรามองว่ากลุ่ม รถกระบะ (P/U), รถ PPV และมอเตอร์ไซค์ (2W) จะยังไม่เปลี่ยนเป็น BEV ในระยะกลาง เนื่องจากยังไม่มีรุ่นจากผู้ผลิตจีนที่ตอบโจทย์ตลาด และผู้บริโภคยังคงชื่นชอบเครื่องยนต์สันดาป (ICE) เป็นหลัก โดยตลาดมอเตอร์ไซค์ในไทยยังคงมีสัดส่วนรถ ICE สูงถึง 99% ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อผู้ผลิตเดิมรวมถึง STANLY ทั้งนี้ กลุ่ม P/U และ PPV คิดเป็นราว 45% ของรายได้ปี 68ขณะที่กลุ่ม 2W คิดเป็นราว 30%
งบดุลไร้หนี้ กระแสเงินสดแข็งแกร่ง และปันผลน่าสนใจ
เรามองว่า STANLY สามารถรักษาอัตราการจ่ายปันผล (Payout ratio) ได้มากกว่า 65% ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยบริษัทไม่มีภาระหนี้สิน และมีความต้องการงบลงทุน (CAPEX) ต่ำ ทำให้มีอัตราส่วน P/FCF เพียง 3.9 เท่า (ปี 70) ซึ่งช่วยให้ STANLY มีความยืดหยุ่นในการสะสมเงินสดสำรอง หรือเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลได้ในอนาคต
Yugi Takeshima
yugi.takeshima@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1530