AT THE OPEN (#ATO)
SET Index กดดันจาก DELTA
กลยุทธ์เก็งกำไรหุ้นได้ประโยชน์บาทอ่อน
Market Strategy
SET Index คาดพักตามกรอบ 1290-1315 จุด แรงกดดันจาก DELTA ที่ถูกเข้ามาตรการกำกับการซื้อขายระหว่างวันที่ 10-30 ต.ค. ท่ามกลางปัจจัยต่างประเทศที่เริ่มมีการขายทำกำไรตลาดหุ้นสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง วันนี้เลือกเก็งกำไร ITC ที่กำไร 3Q68 ฟื้นตัว QoQ และได้ Sentiment บวกจากเงินบาทอ่อนค่าระยะสั้น
ปัจจัยต่างประเทศวานนี้มีแรงขายในหลายสินทรัพย์ เริ่มจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ S&P500 ปรับลง -0.3% จากแรงขายทำกำไรเนื่องจาก Valuation ที่เริ่มตึงตัว ด้านราคาน้ำมันดิบBrent และทองคำปรับลง -1.6% จากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางจากข่าวอิสราเอลกับฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเฟสแรก โดยเม็ดเงินหมุนไปสินทรัพย์ที่ราคา Laggard อย่าง Dollar Index ที่แข็งค่า 0.6% ที่ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินยูโรฯ จากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองในฝรั่งเศส และค่าเงินเยนที่อ่อนค่าจากนายกฯญี่ปุ่นคนใหม่ ที่มีแนวโน้มใช้นโยบายการคลังและการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่ามาที่ 32.78 บาท/USD ทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือน สภาพแวดล้อมข้างต้นเป็น Sentiment ลบต่อตลาดหุ้นไทย แต่เป็นบวกต่อหุ้นส่งออกซึ่งเราชอบ ITC ที่กำไร 3Q68 ฟื้นตัว QoQ และ Dividend Yield สูง 6% ต่อปี
ตลท. ประกาศ DELTA เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 มีผลตั้งแต่วันที่ 10-30 ต.ค. 68 จากสถิติ 3 รอบที่ผ่านมา วันแรกหลังจากถูกประกาศเข้าข่ายมาตรการกำกับซื้อขาย ราคาหุ้น DELTA เปิดลงเฉลี่ย 12% หากเทียบเคียงรอบนี้ราคาหุ้น DELTA เสี่ยงลงมาที่ 174 บาท (จากราคาปิดวานนี้อยู่ที่ 197.50 บาท) กดดัน SET Index 23 จุด หรือดัชนีลงมาที่ 1291 จุด (หากหุ้นอื่นๆ ไม่เปลี่ยนแปลง) ขณะที่ช่วงระหว่างเข้ามาตรการกำกับซื้อขาย ราคาหุ้น DELTA มี Maximum Drawdown ของรอบอยู่ที่ -25% ใช้เวลาเฉลี่ย 9 วัน หากเทียบเคียงรอบนี้ราคาหุ้น DELTA เสี่ยงลงมาที่ 148.50 บาท กดดัน SET Index 48 จุด หรือดัชนีลงมาที่ 1266 จุด (หากหุ้นอื่นๆไม่เปลี่ยนแปลง) สำหรับคำแนะนำ DELTA เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” ที่ราคาเป้าหมาย 62 บาท แม้จะคาดว่ากำไรหลักจะเติบโต 22%YoY แต่หุ้นซื้อขายที่ PER69 สูงถึง 100x
Market Summary
SET Index ปรับขึ้นแรง 9 จุด หรือ 0.7% กลุ่มที่ Outperform ได้แรงหนุนจาก CEO NVIDIA เผยว่าความต้องการ AI ยังมีอีกมาก ช่วยหนุนกลุ่มอิเล็คฯ นำโดย DELTA +3% กลุ่มโรงไฟฟ้าหนุนจากการเร่งมาตรการ Quick Win ของกระทรวงพลังงาน หนุน GULF +3.4% BCPG +6% BGRIM +9% EGCO +8.8% GPSC +5.8% ส่วนกลุ่มที่ Underperform THAI -11% จากกังวลข่าวลือการเปลี่ยนบอร์ดฯ ของบริษัท SCC -2.3% จากงบ 3Q68 ที่ตลาดคาดว่าจะพลิกขาดทุน แรงซื้อวานนี้มาจากนักลงทุนในประเทศ 615 ล้านบาท และสถาบันฯ 358 ล้านบาท
DAILY Stock Pick
ITC
ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง กอปร Valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 18.60 บาท
ค่าเงินบาทอ่อนค่า 1.2%WoW หลังจาก Powell ไม่ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อคืนที่ผ่านมา อีกทั้งปัจจัยภายในประเทศหลังกระทรวงคลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบค่าเงินบาท โดยค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทุก 1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มี upside ต่อกำไรปี 68 ถึง 3.5%
เราคาคกำไรปี 69-70 โต 10%/15%YoY ตามลำดับ หนุนจากยอดขายที่เติบโตและอัตรากำไรที่ดีขึ้น ในขณะที่ valuation PE’68/69 ที่ 16.2/14.7 เท่า ตามลำดับ อีกทั้งอัตราเงินปันผล 6% ช่วยจำกัด Downside
WEEKLY Stock Pick
KTC
Laggard play ผสาน
กนง. ลดดอกเบี้ย
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 36.00 บาท
Maybank Group คาดว่า การประชุม กนง. วันที่ 8 ต.ค. นี้ ลดดอกเบี้ย 25 bps หนุนให้ต้นทุนการกู้ยืมของกลุ่มไฟแนนซ์อย่าง KTC ปรับตัวลดลง โดยเราคาดงบไตรมาส 3 ยังคงเติบโต YoY หนุนจาก NIM ที่สูงขึ้นจากต้นทุนกู้ยืมที่ลดลง และยอดการใช้บัตรเครดิตเติบโตต่อเนื่อง YoY ในขณะที่ credit cost ปรับตัวลดลงจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น
KTC YTD -38.6% เทียบ SET Index -7.5% ในช่วงเวลาเดียวกัน ถูกกดดันจากแรงขายในช่วงที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตามพื้นฐานของธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยมี ROE สูงสุดในกลุ่มกลุ่มการเงินที่ 17% ณ ราคาปัจจุบันถูกซื้อขายใกล้เคียงระดับ -1.5SD ทั้ง PE68 และ PBV68 พร้อมกับอัตราเงินปันผลปี 68 สูงถึง 4.8% ช่วยจำกัด Downside
KEY FACTOR
ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐฯระยะสั้นยังแกว่งแคบๆ ให้น้ำหนักสถานการณ์การเมืองในประเทศที่แม้ยังไม่เห็นผลกระทบโดยตรง แต่ล่าสุด วุฒิสภายังไม่ลงมติผ่านมาตรการงบชั่วคราวเป็นครั้งที่ 6 (ด้วยเสียง 54–45 ต่ำกว่าเกณฑ์ 60) ทำให้การปิดหน่วยงานรัฐยืดเยื้อต่อเนื่อง และอาจกระทบต่อการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ ในวันที่ 15 ต.ค. ที่จะเป็นตัวแปรในการพิจารณานโยบายการเงินของ Fed รวมถึงมีความเสี่ยงที่ในระยะถัดไปอาจสร้างความไม่แน่นอนต่อหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่พึ่งพางบฯ ภาครัฐ ซึ่งล่าสุดเห็นสัญญาณเลี่ยงความเสี่ยงพักตัวในดอลลาร์ (แข็งค่าระยะสั้น) กดดัน Fund flow ในตลาด EM
ด้านตลาดหุ้นจีนที่กลับมาเปิดทำการวันแรกหลังหยุดยาวเมื่อวานนี้ ปรับตัวขึ้นโดดเด่น หลังรัฐบาลประกาศคุมเข้มการส่งออกเทคโนโลยีที่ใช้ผลิตแร่หายาก รักษาอำนาจต่อรองของจีนในห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีขั้นสูง (EV/แบตเตอรี่/อิเล็กทรอนิกส์) ส่งผลให้ทิศทางราคาโลหะมีค่า นำโดย ทองแดง และ เงิน ปรับตัวขึ้นแรง ซึ่งอาจกระทบเชิง sentiment ต่อบริษัทและอุตสาหกรรมที่ใช้เป็นวัตถุดิบ นำโดยETRON ที่แม้ว่าอาจจะสามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นบางส่วนไปที่ผู้ซื้อได้ก็ตาม อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่ม China Play อาจกลับมามีความคาดหวังเชิงบวกจากภาพตลาดหุ้นจีนที่เปิดกลับมาแบบ Risk on นำโดย ENERG PETRO
EYES ON
ในสัปดาห์ จับตาประเด็น Government Shutdown
นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ