Market Wrap-Up
- SET วันที่ 8 ต.ค.68 ปิด -0.32 จุด อยู่ที่ 1,304.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 37,346 ลบ. ต่างชาติขาย 333 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 495 ลบ. สถาบันขาย 204 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,032 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 559 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น SCB,DELTA,ADVANC,EGCO,CPF และยอดขายหุ้น KTB,PTTEP,TTB,KTC,CPALL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,267 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TDEX,LH,QH โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 16,113 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 63,396 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 280 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.00%, S&P500 +0.58%, Nasdaq +1.12% นำโดยกลุ่มเทคโนฯ +1.52%, อุตสาหกรรม +0.85% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -0.57%, สินค้าอุปโภค -0.52% ดัชนีหุ้นสหรัฐได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่ม AI หลัง Fed Minutes ก.ย. หนุนลดดอกเบี้ย ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.79% ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร +1%, ทรัพยากรพื้นฐาน +1.9% ขณะที่กลุ่มยานยนต์ -2.1%
- Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ S&P500, Nasdaq ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนฯ AI หลัง IBM ร่วมมือกับ Anthropic ในการนำ Claude โมเดลภาษาของ Anthropic ร่วมกับเครื่องมือ AI IDE ตัวใหม่ของ IBM เพื่อพัฒนาซอฟแวร์ระดับองค์กร ขณะที่ AMD +11.4% ได้ประโยชน์จากการจัดหาชิปให้กับ OpenAI โดยทาง OpenAI ยังให้ AMD ถือหุ้น 10% ส่วนรายงาน Fed Minutes ก.ย. นั้นคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นควรลดดอกเบี้ย เนื่องจากตลาดแรงงานมีสัญญาณชะลอตัว แต่ยังไม่ได้ระบุช่วงเวลาที่จะลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 92.5% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. ค่ำวันนี้ติดตาม ปธ.เฟดแถลงในงาน Community Bank Conference, วันศุกร์ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต.ค. และสัปดาห์หต้าจะเริ่มรายงานกำไร Q3/68 ของ บจ. ใน S&P500 ซึ่ง LSEG คาดกำไร +8.8% YoY
- ตลาดยุโรปวานนี้ได้แรงหนุนจาก CAC-40 ฝรั่งเศส +1.07%,IBEX สเปน +0.97% สูงสุดตั้งแต่ปี 2550 และ DAX เยอรมัน +0.87% สูงสุดในรอบ 3 เดือน ได้แรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร +1% นำโดย Lloyds, Societe Generale และกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน +1.9% นำโดย ArcelorMittel หลัง EC ลดโควตาการนำเข้าเหล็กปลอดภาษีลดครึ่งหนึ่ง ขณะที่ ก.เศรษฐกิจของเยอรมันคาด GDP ปีนี้จะขยายตัวที่ +0.2% & เดิมคาดทรงตัว
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -0.45% จากแรงขายกำไรหุ้นกลุ่มเซมิคอน ฯ & AI ที่ปรับลดลงตามกลุ่มเทค ฯ ของสหรัฐ แต่ยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินเยนอ่อนค่า ส่วนดัชนีฮั่งเส็งปิด -0.48% ถูกกดดันจากกลุ่มเทคโนโลยี -0.60% เช่น Alibaba -1.6%, Baidu -3.2%, Meituan -2.3% และ SMIC -1.8% หลังสหรัฐเพิ่มความเข้มงวดในการห้ามขายอุปกรณ์ผลิตชิปให้กับจีน หลังบริษัทจีนได้สั่งซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีข้นสูงมูลค่า 3.8 หมื่น ล.ดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ขณะที่วันนี้ตลาดหุ้นจีนจะเปิดทำการ หลังผ่านวันหยุด Golden Week
- SET -0.02% ปริมาณการซื้อขาย 73 หมื่น ลบ.ต่างชาติขาย 333 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 495 ลบ. สถาบันขาย 204 ลบ. และรายย่อยซื้อ 1,032 ลบ. โดยดัชนีถูกแรงชายจากกลุ่มปิโตรเคมี นำโดย SCC -3.2% จากคาดการณ์สเปรดราคาผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลลบไปยังหุ้นกลุ่มบรรจุภัณฑ์และวัสดุก่อสร้างด้วย ส่วนกลุ่ม รพ. -1.1% ถูกกดดันจาก ม.ควบคุมราคายาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ขณะที่กลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ อิเล็กฯ +0.84% ปรับขึ้นตามกระแสการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มธนาคาร +0.91% ได้แรงหนุนหลัง กนง.มีมติ 5 – 2 คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ช่วยลดแรงกดดันต่อ NIM ของกลุ่มธนาคาร แต่ กนง.ยังส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินต่อเนื่องจนถึงปีหน้า หลังภาวะเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำกว่าศักยภาพ โดย กนง.คาด GDP ปีนี้ที่ 2.2% , ปี 69 ที่ 1.6% ลดลงจากประมาณการณ์เดิม -0.1% ส่งผลให้ค่าเงินบาทวานนี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.53 บาท/ดอลลาร์ และเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มส่งออกอาหาร เช่น CPF, TFG โดยภาพรวมนักลงทุนยังรอ ม.กระตุ้นภาคท่องเที่ยวเมืองรอง ที่กำลังจะเข้า ครม.ในสัปดาห์หน้า และการเริ่มรายงานกำไร Q3/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดย BB.Consensus คาด -4.0% QoQ และทรงตัว YoY
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,290 - 1,300 แนวต้าน 1,310 - 1,315 คาดดัชนีทรงตัว รอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า กอปรกับได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ ยังปรับขึ้นตามกลุ่มเทค ฯ ของสหรัฐ แนะนำทยอยซื้อส่งออก CPF,TFG,AAI,ITC ได้ประโยชน์จากบาทอ่อนค่า/ กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,BGRIM,GUNKUL ได้ประโยชน์จากโครงการโซลาร์ชุมชุน 1.5 พัน เมกะวัตต์, Direct PPA รวม 2 พัน เมกะวัตต์ ที่กำลังจะพิจารณาใน พ.ย. นี้
- กลุ่มโรงไฟฟ้า BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมายIAA Consensus 9.50 บาท) แนวโน้ม 3Q68 คาดกลับมาเติบโต QoQ, YoY จาก Hydro power plant ที่ปริมาณน้ำมากขึ้น การทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon ในลาว และโรงไฟฟ้าในสหรัฐเข้าสู่ช่วงหน้าร้อนและการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ค่าความพร้อมจ่าย Capacity Payment ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ (PJM) ปรับเพิ่มขึ้น (โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ในรัฐ Ohio, Pennsylvania) เช่นเดียวกับ BPP* เก็งกำไร (โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ในรัฐ Texas – ตลาดไฟฟ้าเสรี ERCOT – อยู่ในพื้นที่ที่มีการเติบโตของเมืองและการลงทุนด้าน Data Center สูง มีแผนการลงทุนของ Open AI โครงการ Stargate) EGCO* เก็งกำไร (โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ในรัฐ Pennsylvania, New Jersey + ประเด็นถือหุ้น CDIA – ธุรกิจโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานในอินโดฯ ถือหุ้น 30% ที่เริ่มรับรู้กำไรใน 3Q68 / มูลค่าตลาดหลัง IPO ก.ค.68 เพิ่มขึ้นอย่างมาก) ส่วนในประเทศมีประเด็น Direct PPA สำหรับธรกิจ Data Center GULF*, BGRIM* มีความคืบหน้าและชัดเจนสุด
- KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมายBloomberg Consensus 11.00 บาท)กำไรสุทธิ 1H68 อยู่ที่ 221 ลบ. +33%YoY หนุนจากสินค้ากลุ่ม Dairy และกลุ่ม Food and Bakery Ingredient ขณะที่ในส่วนของต้นทุนค่าใช้จ่าย ได้ประโยชน์จาก Solar Roof รวมถึงการเปิดใช้งาน KCG Logistic Park ด้านการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ไตรมาส3 อาจกดดันบ้างตามฤดูกาล แต่จะเข้าสู่ High Season ในไตรมาส4 และมีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิ KCG* ปี68 และ69 จะอยู่ที่ 446 ลบ.(+10%YoY) และ 517 ลบ.(+16%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI พ.ย.+$0.82 อยู่ที่ $62.55 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. +$0.80 อยู่ที่ $66.25/บาร์เรล หลังข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย & ยูเครนยังไม่คืบหน้า ส่งผลให้รัสเซียอาจถูก ม.คว่ำบาตรการส่งออกน้ำมัน ขณะที่เข้านี้ ปธน.ทรัมป์เผยอิสราเอล & ฮามาสสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ส่งผลให้ WTI Futures เช้านี้ -0.99% อยู่ที่ $61.93/บาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$66.10 อยู่ที่ $4,070.50 /ออนซ์. ได้แรงหนุนจากเม็ดเงินของกองทุน ETF ทองคำสูงถึง $6.4 หมื่น ล. และ ก.ย. มีเม็ดเงินไหลเข้าสูงถึง $1.73 หมื่น ล. จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 29 ต.ค. กอปรกับทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -28.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -10.22 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -27.41 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +9.3 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี่อ่อนค่าอยู่ที่ 32.55 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.115 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +16 อยู่ที่ 1,963
(+) BitCoin เช้านี้ +0.85% อยู่ที่ 122,963 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
8 ต.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ครั้งที่ 5/2568
สัปดาห์ที2 ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์
ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ
อัพเดตสถานการณ์ลงทุน
ต่างประเทศ
08 ต.ค. US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
09 ต.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
US รายงานการประชุม FOMC
US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ
10 ต.ค. US อัตราการว่างงาน (ก.ย.)
US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)
US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ก.ย.)
Theme Strategy
เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68
(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*
(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*
(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*
(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*
(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*
(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)
(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio October 2025: TNP*, CPN*, PRM*, BJC, CBG*, BCPG*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th