ภาวะตลาด SET Index วานนี้พุ่งขึ้นแรงปิดตลาด +19.60 จุด หรือ +1.52% ที่ 1305.24 (โดยระดับสูงสุดของวันขึ้นไปที่ 1310.68) มูลค่าซื้อขาย 3.5 หมื่นลบ. กลุ่มหลักที่หนุนตลาดคือชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ นำโดย DELTA, KCE, HANA รวมถึงหุ้น Big Cap อื่น เช่น GULF, AOT, BDMS, TLI, CRC เป็นต้น นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -389 ลบ. รายย่อยขายสุทธิ -1.4 พันลบ. ต่างชาติซื้อสุทธิ +1.3 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• WTO ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณการค้าโลกเป็นโต +2.4% ในปี 68 (จากเดิม 0.9%) แต่ปี หน้าลดเหลือแค่ 0.5% ประเด็นสำคัญ คือ ภาษีทรัมป์ ที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าโลก
• สหรัฐ: ชัตดาวน์ เข้าสู่วันที่ 7 โดยวุฒิสภาสหรัฐยังไม่อนุมัติร่างกม.งบประมาณชั่วคราว การเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังไม่คืบหน้าตลาดจับตาสุนทรพจน์ของนายพาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนที่กรุงวอชิงตัน ดีซีวันที่ 9 ต.ค.นี้ เวลา19.30 น.(เวลาไทย)
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง เพราะกังวลความอ่อนแอของภาคแรงงาน และการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ สัญญาทองคำพุ่งขึ้นต่อ +28.1 US$ สู่ 4,004.4 US$/ออนซ์ ทำ new highโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำจาก 4,300 เป็น 4,900 US$/ออนซ์ภายในเดือนธ.ค.26 ส่วนน้ำมันดิบ WTI & Brent ทรงตัวที่ 62-65 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้นเป็น 98.69; ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.5 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี อ่อนเป็น 4.13% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ทรงที่ 104.8 ดัชนี Baltic Dry Index เด้งขึ้นเป็น 1,947

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ไทย: ประชุมกนง.วันนี้ (8 ต.ค.) โดย DBS Group Research คาดว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็ น 1.25% และลดอีก 0.25% เป็น 1.00% ใน 1Q26 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจต้องการแรงกระตุ้นต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยยังต่ำมาก
• ไทย: ครม.อนุมัติโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ซึ่งเป็นไปตามคาดของตลาด...นายเอกนิติ รองนายกฯและรมว.คลัง คาดว่ามาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 0.3%- 0.4% ของ GDP และเมื่อรวมกับมาตรการ Big Quick Win อื่นๆ จะทำให้จีดีพี 4Q25ขยายตัวกว่า 1%YoY
• BANPU: รัฐบาลอินโดนีเซียหั่นโควตาการผลิตเหมืองจาก 3 เหลือ 1 ปี เพื่อลดปริมาณการผลิตและพยุงราคาโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะถ่านหินและนิกเกิล ซึ่งอินโดนีเซียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่...คาดว่าการเปลี่ยนแปลงกฎครั้งนี้ ทำให้โควต้าการผลิตถ่านหินของ BANPU จะมีความไม่แน่นอน และอาจใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น จากการที่ต้องสำรองเงินทุนไว้สำหรับการฟื้นฟูสภาพดินหลังการทำเหมือง แต่จะเป็นบวกในระยะกลาง-ยาว เป็นผลจากอุปทานที่น้อยลงทำให้ราคาขายถ่านหินและมาร์จิ้นมีแนวโน้มจะดีขึ้น

กลยุทธ์ : ยืนเหนือ 1300 ได้ มีสิทธิแกว่งขึ้นทดสอบ 1312-1315, 1320-1330...สัญญาณทางเทคนิคเป็นบวกมากขึ้น และหากดัชนียืนเหนือ 1300 ได้อย่างมั่นคง ก็มีโอกาสแกว่งขึ้นทดสอบ 1312-1315, 1320-1330 แต่ถ้าหลุด 1300 จะมีแนวรับระยะสั้น 1290-1285, 1270

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : KTB – คาดกำไรสุทธิ 3Q25F โตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มที่ +24%YoY และ +24%QoQ เป็น 13.8 พันลบ. หนุนโดยกำไรจากการตีมูลค่าเงินลงทุนใน THAI 13.7 พันล้านบาทในงบกำไรขาดทุนงวด 3Q25F(จากการแปลงหนี้เป็นทุน) ด้านต้นทุนเครดิตคาดว่าจะตั้งเพิ่มขึ้นในจังหวะที่มีกำไรพิเศษเข้ามาหนุน นอกจากนั้นมี Upside risk เรื่องอัตราจ่ายปันผลที่สูงขึ้นด้วย เราให้ KTB เป็นอีกหนึ่งในหุ้นเด่นกลุ่มธ.พ. แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 27 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829