Pi Daily ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พักตัว Tech ถูก Take Profit (ระยะสั้นกดดัน DELTA) ในประเทศรัฐบาลออกมาตรการคนละครึ่งดีกับค้าปลีก บ่ายวันนี้รอติดตามประชุม กนง. เราคาดลดดอกเบี้ย แต่ในตลาดเสียงแตกมีทั้ง คงดอกเบี้ย ลดดอกเบี้ย 0.25 และลดดอกเบี้ยมากถึง 0.5% หากลดดอกเบี้ยจะดีกับ การเงิน ค้าปลีก อสังหาฯ
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 92 จุด (-0.2%) นักลงทุนกังวลกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากผลสำรวจ FED สาขา New York ที่ระบุถึงผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงาน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.03% ตลาดอยู่ในระหว่างประเมินสถานการณ์แนวโน้มอุปทานน้ำมันในตลาดโลก
เมื่อวานที่ผ่านมารัฐมนตรีคลังได้เผยรายละเอียดโครงการ "คนละครึ่ง" PLUS ในวงเงินงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ประชาชนที่เข้าข่ายได้แก่อายุ 16 ปีขึ้นไป วงเงินต่อวันใช้จ่ายได้ที่ 200 บาท แต่หากอยู่ในระบบภาษีรัฐบาลสนับสนุนค่าใช้จ่าย 2,400 แต่ประชาชนทั่วไปที่มิได้อยู่ในระบบภาษีจะได้เงินสนับสนุน 2,000 บาท ร้านค้าลงทะเบียนในช่วงวันที่ 15 ต.ค. – 19 ธ.ค. และประชาชนลงทะเบียน 20 – 26 ต.ค. ประชาชนจะเริ่มใช้ได้ช่วง 29 ต.ค. – 31 ธ.ค. (ลงทะเบียนผ่าน App เป๋าตัง) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 0.3-0.4% GDP มองบวกกับหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ในขณะเดียวกันกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็ได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค. – 5 ต.ค. ที่ 24.5 ล้านราย (-7.5%YoY) แต่จำนวนนักท่องเที่ยวมีสัญญาณที่ดีขึ้นเพราะนักท่องเที่ยวจีนรายสัปดาห์อยู่ที่ 1.3 แสนราย (+67%WoW) ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจาก Golden Week แต่หากเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนจะพบว่าลดลงราว 19% แต่ดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้าที่มักติดลบราว 40% มองเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและหุ้นที่ได้ประโยชน์ (AOT CENTEL CPALL ERW) และวันนี้ตลาดจะรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินที่จะทราบผลในช่วงบ่าย Bloomberg Consensus คาดว่าจะเห็นการลดดอกเบี้ยลง 0.25% รอบนี้ผลสำรวจภายในค่อนข้างแตกต่าง สำรวจนักเศรษฐศาสตร์ทั้งสิ้น 26 คน (1 เสียงประเมินว่าลดดอกเบี้ยถึง 0.50%) และ 6 เสียงประเมินว่าคงดอกเบี้ยระดับเดิม ส่วนที่เหลือคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% ทั้งนี้ทิศทางเงินเฟ้อไทยค่อนข้างต่ำประกอบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ต่ำเช่นกันเราจึงเชื่อว่าที่ประชุมจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% หากเป็นเช่นนั้นก็จะดีกับกลุ่มการเงิน ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ ส่วนธนาคารพาณิชย์เชื่อว่าผลกระทบไม่มาก สำหรับหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนถูกแรงขายทำกำไรเล็กน้อยโดยเฉพาะหุ้น Tech ระยะสั้นอาจระมัดระวัง DELTA ที่การเคลื่อนไหวสอดคล้องกับ Tech ในสหรัฐฯ คืนนี้ยังไม่มีปัจจัยสำคัญเช่นเดิมเพราะสหรัฐฯยังคงปิดทำการจากความไม่ชัดเจนในงบประมาณ วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1290 – 1310 ตลาดอาจเริ่มพักตัวหลังจาก Price In ปัจจัยต่างๆ ไปแล้วประกอบกับบรรยากาศรอบด้านที่ทรงตัว (Nikkei +0.07% S&P500 -0.4%) แต่ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเลือกเป็นรายกลุ่มในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC) อสังหาฯ (AP SPALI) โรงพยาบาล (BDMS)
BDMS (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)
คาดกำไรสุทธิใน 3Q25 เติบโตแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ แม้จะมีฐานสูงด้วยจำนวนผู้ป่วยโรคระบาดที่มากในปี 2024 และแนวโน้มรายได้กลุ่ม CLMV ที่อ่อนแอ YoY ทั้งนี้คาดการเติบโตยังคงมีปัจจัยหนุนจากปัจจัยฤดูกาล ด้วยโรคระบาดหลังฤดูฝน เช่น ไข้เลือดออก และไข้หวัดใหญ่ ประกอบกับเป็นช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งมีแนวโน้มหนุนจำนวนผู้ป่วยสูงขึ้น QoQ
BEM (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.20 บาท)
คาดผลประกอบการ 3Q25 เติบโต QoQ รับปัจจัยบวกจากการเปิด Dusit Central Park และผ่อนคลายความกังวลเหตุการณ์แผ่นดินไหว แม้ว่าปริมาณการจราจรบนทางด่วนที่ลดลงกดดันกำไรให้ทรงตัว YoY ขณะที่แนวโน้มระยะกลางสดใสต่อเนื่องจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าและปริมาณการจราจรบนทางด่วนฟื้นตัว