วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้น โดยได้แรงซื้อหนุนนำโดยหุ้น DELTA ซึ่งหนุนดัชนีราว +10 จุด ตามด้วยแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน ขนส่ง และค้าปลีก เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม อีกทั้งได้แรงหนุนจากการประชุม ครม.อนุมัติโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,305.24 จุด +19.60 จุด +1.52%มูลค่าการซื้อขาย 34,987.28 ลบ. Program Trading +1,487.31 ลบ. ต่างชาติ +1,329.57 ลบ.TFEX +21,264 สัญญา ตราสารหนี้-1.04 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ +0.06% ปิดที่61.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มอุปทานน้ำมันในตลาดโลกหลังจากกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย. ขณะเดียวกันมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจปรับตัวสูงขึ้น
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า พรรครีพับลิกันกำลังเจรจากับพรรคเดโมแครตเพื่อแก้ไขปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯหรือชัตดาวน์ ซึ่งการเจรจาเป็นไปด้วยดี
+ รายงาน Global Trade Outlook and Statistics ที่มีการเผยแพร่ WTOคาดว่าปริมาณการค้าโลกจะมีการขยายตัว 2.4% ในปี 2568 จากเดิมคาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.9% ในรายงานประจำเดือนส.ค.
+ ครม. มีมติเห็นชอบ "โครงการคนละครึ่งพลัส" วงเงินงบประมาณ44,000 ล้านบาทจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจและงบกลาง ครอบคลุมผู้ได้รับสิทธิทั้งหมด 20 ล้านคน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้อัตราการขยายตัวของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ประมาณ 0.3-0.4%
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 91.99 จุด หรือ -0.20% กังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจาก FED สาขานิวยอร์กเปิดเผยผลสำรวจซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางตลาดแรงงานและเงินเฟ้อ
- การที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงปิดชัตดาวน์ ทำให้นักลงทุนขาดข้อมูลเศรษฐกิจที่ส าคัญ การชัตดาวน์ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 7 ในวันอังคารหลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ประสบความล้มเหลวเป็นครั้งที่ 5 ในการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเนื่องจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังคงมีความขัดแย้งกัน
- ธนาคารโลกคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกในปีนี้ว่าจะขยายตัว 4.8% ด้านเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะขยายตัวเพียง2.0% ต่ าที่สุดในภูมิภาค ตามหลังเวียดนามที่โตแกร่งสุด และต่ำกว่ากัมพูชา
- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนส.ค.อยู่ที่ 3.78 ล้านล้านเยน (2.49 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งลดลง 4.8%YoYโดยมีสาเหตุหลักมาจากผลตอบแทนการลงทุนในต่างประเทศที่น้อยลง
- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมหุ้นกู้ที่ผิดนัดหรือเลื่อนกำหนดชำระในช่วง 9 เดือนแรกปี 68 พบว่ามีหุ้นกู้ผิดนัดชำระมูลค่ารวม4,512 ล้านบาทจากผู้ออกจำนวน 6 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่า3,172 ล้านบาท จากผู้ออก 5 ราย และมีหุ้นกู้ที่เลื่อนกำหนดชำระมูลค่ารวมกว่า 42,679 ล้านบาท จากผู้ออกจำนวน 16 ราย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีมูลค่า 37,963 ล้านบาท จากผู้ออก 17 ราย
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหว Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “คนละครึ่งพลัส” ที่คาดว่าจะช่วยหนุนให้GDP ขยายตัว ประกอบกับนักลงทุนยังติดตามมาตรการต่างๆที่จะทยอยออกมาต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,300-1,312 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : MTC SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KK
MOTHER
- โครงการคนละครึ่งพลัส : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP MOTHER