Pi Daily วันนี้รอติดตามประชุมคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะมีการพิจารณาคนละครึ่ง (ดีต่อค้าปลีก) วานนี้เงินเฟ้อไทยติดลบ 0.7%YoY สะท้อนค่าใช้จ่ายโดยรวมที่ลดลงของผู้บริโภคดีต่อการบริโภค และอาจเห็นคณะกรรมการลดดอกเบี้ยวันพรุ่งนี้ ดีต่ออสังหาและการเงิน รวมถึงตลาดหุ้นในภาพรวม ส่วนหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนักลงทุนให้น้ำหนักแต่กับหุ้น AMD

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 63 จุด (-0.14%) แต่ดัชนี S&P500 , Nasdaq ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังมีรายงาน AMD บรรลุข้อตกลงกับ OPENAI ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.46% หลัง OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิตน้อยกว่าที่คาดการณ์

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ยังคงไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจรายงานเพราะอยู่ในช่วงหน่วยงานในสหรัฐฯ ปิดทำการ แต่อย่างไรก็ตามหากไปดู Dollar Index จะพบว่าเริ่มปรับขึ้นมาและกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าทดสอบ 32.45 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทยจะเริ่มประชุมในวันพรุ่งนี้และหลายๆคนก็คาดการณ์กันว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% ยิ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เงินบาทอาจอ่อนค่า ระยะสั้นอาจพิจารณากระแสเงินทุนต่างชาติบ้างเพราะเริ่มเห็นการขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ วานนี้ขายสุทธิ 1.4 พันล้านบาท แต่การอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทยผ่านการส่งออกและท่องเที่ยว วานนี้กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานเงินเฟ้อประจำเดือน ก.ย. พบว่า หดตัว (-0.72%YoY) ปัจจัยหลักมาจากราคาสินค้ากลุ่มพลังงานลดลงทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงตามนโยบายของภาครัฐประกอบกับราคาสินค้าสำคัญในกลุ่มอาหารสดยังคงลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด ผลไม้สด ภาวะเงินเฟ้อที่ลดลงจะดีกับการบริโภคภายในประเทศและกลุ่มร้านอาหารอาจมีกำไรที่ดีขึ้นจากต้นทุนที่ลดลง (MINT CENTEL M) วันนี้รอติดตามประชุมคณะรัฐมนตรีคาดว่าจะมีการพิจารณาโครงการคนละครึ่งเข้าที่ประชุมประเมินโครงการดังกล่าวเป็นปัจจัยจำกัด Downside ของเศรษฐกิจมากกว่าจะเพิ่ม Upside เพราะเศรษฐกิจไทยจะเตรียมเผชิญแรงกดดันเกี่ยวกับส่งออกที่จะชะลอตัว แต่โครงการข้างต้นจะดีกับกลุ่มค้าปลีก (BJC CPALL) สำหรับหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนตลาดให้น้ำหนักกับหุ้น AMD หลังประกาศว่า Open AI จะใช้งาน GPU ของ AMD ขนาดรวม 6GW ความร่วมมือนี้ไม่ได้หยุดแค่รุ่นเดียวแต่จะครอบคลุมไปถึง GPU รุ่นต่อไปในอนาคต ทำให้ตลาดคาดหวังว่า AMD จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด GPU ที่มากขึ้น (AMD +23.7% เมื่อคืนที่ผ่านมา) วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1275 – 1300 มีมุมมองที่ดีขึ้นกับตลาดในวันนี้จากการที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะทยอยประกาศออกมาผสานกับพรุ่งนี้อาจเห็นการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากรัฐบาล อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ร้านอาหาร (M) อสังหาริมทรัพย์ (AP SPALI)

AP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท)
ผู้บริหารยืนยันคงเป้าเปิดโครงการปี 2025 ที่ 6.5 หมื่นล้านบาท โดยใน 2H25 เหลือมูลค่าโครงการที่มีกำหนดรอเปิดอีก 5.3 หมื่นล้านบาท (1H25 เปิดแล้ว 18% ของเป้าปี) ซึ่งเรามองเป็นปัจจัยส่งเสริมต่อการฟื้นตัวของยอดขาย ประกอบกับคาดมีสัดส่วนการโอนคอนโด JV อัตรากำไรสูงที่มากขึ้น หนุนยอดโอนกรรมสิทธิ์ และอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นใน 2H25 แม้จะยังมีการแข่งขันราคาในตลาดแนวราบที่สูงก็ตาม

CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)
กำไร 1H25 คิดเป็น 43% ของประมาณการกำไรปี2025 เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ที่มูลค่าพื้นฐาน 26.00 บาท โดยเราคาดเห็นทยอยรับรู้ Synergy benefits ต่อเนื่องในช่วง 2H25 แม้ว่าแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงเดือนก.ค. 2025 ยังทรงตัว YoY