NIKKEI พุ่งแรง SET อาจได้แรงกระเซ็นบ้าง
HORIZON MARKET VIEW
•ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตัวราว -0.3% ถึง +0.7% และเมื่อนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ดดีตัวขึ้นราว +0.5%MTD ถึง +1.6%MTD สะท้อนถึงความกังวลGOVERNMENT SHUTDOWN ดูไม่ได้สร้างแรงกระแทกให้กับตลาดหุ้นมากนักเนื่องจากยังมีความคาดหวังดอกเบี้ยขาลงของ FED อย่างไรก็ดีผลกระทบของการปิดหน่วยงานรัฐบาล อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและกดดันดอลลาร์อ่อนค่า
• ทั้งนี้ การปิดหน่วยงานรัฐบาลกำลังเข้าสู่วันที่ 6 โดยผลการสำรวจของPOLYMARKET กว่า 70% คาดสหรัฐฯ จะเข้าสู่ SHUTDOWN ไปจนถึง 15 ต.ค.68 หรือนานกว่านั้น
• ราคาน้ำมันอาจเห็นการรีบาวด์ จากปัจจัยหนุนของแนวโน้มดอลลาร์อ่อนค่า และOPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตเล็กน้อย 137,000 บาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ย. 68

REGION RADAR
•ญี่ปุ่นเตรียมได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก โดย TAKAICHI ชนะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP โดยนโยบายหลักของ TAKAICHI คือการกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ
• ตลาดหุ้นญี่ปุ่นบวก 4% ในเช้านี้ หลังจากที่ TAKAICHI ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP พร้อมค่าเงินเยนมีการอ่อนค่าลง ดีต่อต่อหุ้นกลุ่มส่งออก แนะนำเก็งกำไร SONY80, TOYOTA80 และJAPAN10001

SYNAPSE STRATEGY
•สภาพคล่องล้นระบบ ยังหนุนตลาดโลก ญี่ปุ้น และไทยเดินหน้าต่อ แต่น้ำหนักเอนเอียงมาที่หุ้น FREE FLOAT ต่ำเป็นหลัก อาทิDELTA,AOT, TRUE, BA, MTC, WHAUP, SAPPE ขึ้นได้ดี
• แต่ค่าเงินบาทที่พลิกมาอ่อนค่าช่วงสั้นอาจส่งผลให้ FUND FLOWไหลเข้าได้เบาลง แนะเก็งกำไร หุ้นบาทอ่อน CPF, SAPPE, MINT,ERW หุ้น FREE FLOAT ต่ำ DELTA, TRUE และหุ้นย่อตัวลงมาลึกCK, PLANB หุ้นน้ำมัน PTTEP, PTT

THAI FOCUS
•วันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปไทย เดือน ก.ย.68 BLOOMBERGคาด -0.60%YOY(อาจติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6) จากหลายปัจจัยอาทิ ราคาน้ำมันและพลังงานโลกปรับตัวลดลง, อุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ
• ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวแบบนี้ ทำให้นโยบายการเงินควรจะเข้ามาเกื้อหนุน โดยการประชุม กนง.วันที่ 8 ต.ค.68 BLOOMBERGจึงคาดว่าจะลดดอกเบี้ยเหลือ 1.25% จาก 1.50%(ผ่านมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ 16ใน 21 คน)

HORIZON MARKET VIEW
GOVERNMENT SHUTDOWN ก้าวเข้าสู่วันที่ 6
ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตัวราว -0.3% ถึง +0.7% และเมื่อนับตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. ดีดตัวขึ้นราว+0.5%MTD ถึง +1.6%MTD สะท้อนถึงความกังวล GOVERNMENT SHUTDOWN ดูไม่ได้สร้างแรงกระแทกให้กับตลาดหุ้นมากนัก เนื่องจากยังมีความคาดหวังดอกเบี้ยขาลงของ FED อย่างไรก็ดีผลกระทบของการปิดหน่วยงานรัฐบาลอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและกดดันดอลลาร์อ่อนค่าทั้งนี้ การปิดหน่วยงานรัฐบาลกำลังเข้าสู่วันที่ 6 โดยผลการสำรวจของ POLYMARKET กว่า 70% คาดสหรัฐฯจะเข้าสู่ SHUTDOWN ไปจนถึง 15 ต.ค. 68 หรือนานกว่านั้น ขณะที่พรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้สำหรับข้อเรียกร้องของแต่ละฝ่าย
• พรรคเดโมแครต: ต้องการต่ออายุเงินอุดหนุนประกันสุขภาพสำหรับครัวเรือนหลายล้านราย พร้อมกับเรียกร้องให้มีการรับรองเป็นลายลักษณ์อักษรว่ารัฐบาลจะไม่ระงับการใช้จ่ายที่ได้รับอนุมัติจากรัฐสภา
• พรรครีพับลิกัน: ต้องการคงระดับการใช้จ่ายเดิมใช้การปิดหน่วยงานเป็นเครื่องมือในการต่อรองงบประมาณ รวมถึงระงับงบโครงการโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานในพื้นที่ของเดโมแครตส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อาจทำให้การจ้างงานชะลอตัว เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่งบประมาณขาดดุลเกือบ $2 ล้านล้านต่อปี ยังไม่ยั่งยืนในระยะยาว

อีกประเด็นหนึ่ง ราคาน้ำมันอาจเห็นการรีบาวด์ จากปัจจัยหนุนของแนวโน้มดอลลาร์ที่ชะลอการแข็งค่า รวมถึงOPEC+ มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 137,000 บาร์เรล/วัน ในเดือน พ.ย.68 ซึ่งเป็นปริมาณเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิต 547,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ย. นอกจากนี้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. 68 ที่มีกระแสข่าว OPEC+ ได้เตรียมประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ย. ได้กดดันราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงมากกว่า7% ซึ่งน่าจะตอบรับกับกระแสข่าวนี้ไปในระดับหนึ่งแล้ว

REGION RADAR
ญี่ปุ่นเตรียมได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก
TAKAICHI ชนะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP โดยเธอจะมาแทนคุณ ISHIBA ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีคนก่อนที่ได้ประกาศลาออกไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา การเลือก TAKAICHI เป็นประธานพรรค LDP “ถือเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของญี่ปุ่น” ซึ่งปกติแล้วญี่ปุ่นก็เป็นประเทศที่มีตัวแทนผู้หญิงเข้ามามีบทบาททางการเมืองในตำแหน่งสูงค่อนข้างต่ำ โดยนโยบายหลักของ TAKAICHI คือการกระตุ้นเศรษฐกิจและการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศรวมถึงการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ

หลังจากที่TAKAICHI ชนะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP และมีแนวโน้มค่อนข้างสูงที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่น ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นตอบรับในเชิงบวก และค่าเงินเยนมีการอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คาดจะเป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มส่งออก โดยแนะนำเก็งกำไรในหุ้น DR หุ้นญี่ปุ่นที่เน้นส่งออก ได้แก่UNIQLO80, SONY80, TOYOTA80, HONDA19, MITSU19, JAPAN10001

THAI FOCUS
เงินเฟ้อไทยเดือน ก.ย.68 มีแนวโน้มชะลอตัว เปิดประตูให้ กนง. ปรับลดดอกเบี้ยได้ในอนาคต
วันนี้ 10.30 น.ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปไทยประจำเดือน ก.ย.68 ที่ BLOOMBERG คาด -0.60%YOY(อาจติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6) ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน(CORE CPI) คาดอยู่ที่ +0.75%YOY ลดลงจากเดือนก่อนหน้า+0.81%YOY จากหลายปัจจัย อาทิ ราคาน้ำมันและพลังงานโลกปรับตัวลดลง, อุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ และแรงกดดันจากการนำเข้าสินค้าราคาถูกทดแทนตลาดภายในประเทศ ดังนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวแบบนี้ ทำให้นโยบายการเงินควรที่จะเข้ามาเกื้อหนุน โดยการประชุม กนง.วันที่ 8 ต.ค.68 BLOOMBERG คาดว่าจะลดดอกเบี้ยเหลือ 1.25% จาก 1.50%(ผ่านมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ 16ใน 21 คน) บวกับอีก 1 ปัจจัยที่CONFIRMสะท้อนจาก BOND YIELD อายุ 10 ปีอยู่ที่ 1.42% ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน(สะท้อนการลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง) โดยประเมินว่าการปรับลดดอกเบี้ย 25 BPS. จะหนุนระดับ PE ขึ้น 0.67 เท่า และดัน TARGETSET INDEX จะขยับขึ้นมาได้ราว 55-57 จุด ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นได้ประโยชน์หากอัตราดอกเบี้ยลดลง แนะนำหุ้นกลุ่มเช่าซื้อ MTC TIDLOR กลุ่มอสังหา AP SPALI และกลุ่ม HIGH YIELD ADVANCICHI

อีกทั้งนโยบายการคลังที่เตรียมอัดฉีดในช่วงปลายปี โดยรัฐบาลวางเป้า GDP 4Q25F เติบโตมากกว่า 1% ผ่าน
นโยบายเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ , คนละครึ่งพลัส, เร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และดึงการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ทำให้ GDP 2568F มีโอกาสโตเกิน 2.5%YOY ได้ส่วนในมุมตลาดทุนเตรียมได้ความเชื่อมั่นเพิ่มเติม จากมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทยที่จะแถลงวันนี้ ผ่านหน่วยงาน ก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์ฯFETCO-สศค.(สำนักเศรษฐกิจคลัง)ซึ่งต้องติดตามว่าจะมีมาตรการอะไรบ้างที่น่าสนใจ

SYNAPSE STRATEGY
สภาพคล่องล้น แนะเก็งกำไรหุ้น FREE FLOAT ต่ำ กับหุ้นบาทอ่อน
สภาพคล่องล้นระบบ ยังหนุนตลาดโลกและไทยเดินหน้าต่อ แต่เอนเอียงมาที่หุ้น FREE FLOAT ต่ำมากขึ้น โดยช่วง29 ก.ย. –2 ต.ค. SET +11.7 จุด มาจากหุ้น FREE FLOAT ต่ำ < 40% 17.5 จุด และหุ้น FREE FLOAT สูง -5.8จุด โดยหุ้น FREE FLOAT ต่ำที่ผลักดันตลาด อาทิ DELTA, AOT, TRUE, BA, MTC, WHAUP, SAPPE

อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่พลิกมาอ่อนค่าช่วงสั้นอาจส่งผลให้ FUND FLOW ไหลเข้าได้เบาลง รวมถึงความคาดหวังที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยใน 8 ต.ค. นี้ลดลง ทำให้ SET INDEX อาจขึ้นได้จำกัดในช่วงนี้

กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไร หุ้นบาทอ่อน CPF, SAPPE, MINT, ERW หุ้น FREE FLOAT ต่ำ DELTA, TRUE และหุ้นย่อตัวลงมาลึก CK, PLANB หุ้นน้ำมัน PTTEP, PTT

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์