วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ในแดนลบ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้รับ Sentimentเชิงลบจากความกังวลเฟดอาจชะลอการปรับลดอตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเผยตัวเลข GDP ไตรมาส 2/68ดีกว่าคาดการณ์ มีแรงขายกดดันมากในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย DELTA ซึ่งกดดันดัชนีราว -7 จุด ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ในช่วงเย็นวันศุกร์ และการแถลงนโยบายของรัฐบาลในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,278.74 จุด -9.52 จุด -0.74% มูลค่าการซื้อขาย36,245.78 ลบ. (ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี -13.98 จุด -1.08%) Program Trading -1,507.87 ลบ. ต่างชาติ-914.33 ลบ. TFEX -6,250 สัญญา ตราสารหนี้+953.18 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 299.97 จุด หรือ +0.65% หลังข้อมูลเงินเฟ้อเป็นไปตามคาด แต่ดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวปิดลบในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.3% และดัชนี Nasdaqลดลง 0.7% ยุติการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 3 สัปดาห์
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ -1.14% ปิดที่ 65.72ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. หลังโดรนของยูเครนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียส่งผลให้การส่งออกเชื้อเพลิงของรัสเซียลดลง
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป(Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7%YoYในเดือนส.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากระดับ 2.6%ในเดือนก.ค. ทำให้นักลงทุนยังคงมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย
+ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์จะพบปะกับผู้นำระดับสูงของทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในสภาคองเครส เพื่อหารือเรื่องการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 30 ก.ย. เพื่อเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลต้องหยุดทำการ หรือชัตดาวน์
+/- ททท.คาดหยุดยาววันชาติจีนเที่ยวไทย 2 แสนคน คาดรายได้แค่ 9.1พันล้านบาท เร่งอัดแคมเปญฟื้นท่องเที่ยวส่งท้ายปียาวถึงตรุษจีนปีหน้า

ปัจจัยลบ
- ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 1% ในช่วงเช้าวันนี้ หลังมีรายงานว่าอิรักเริ่มส่งน้ำมันดิบจากภูมิภาคเคอร์ดิสถานไปยังตุรกีอีกครั้ง หลังจากที่ระงับเป็นเวลานานกว่า 2 ปี และยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกในเดือนพ.ย. ทั้งนี้กลุ่มโอเปกพลัสจะอนุมัติการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกอย่างน้อย 137,000บาร์เรล/วันสำหรับเดือนพ.ย. ในการประชุมครั้งต่อไปในวันอาทิตย์ที่ 5ต.ค.นี้
- ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์โพสต์ว่าสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรจากยาที่มีแบรนด์หรือมีสิทธิบัตรในอัตรา 100% ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นกับบริษัทที่กำลังตั้งโรงงานผลิตยาในสหรัฐฯ
- เวียดนามมีความเสี่ยงที่จะถูกกระทบจากไต้ฝุ่นบัวลอย ล่าสุดทางการเวียดนามสั่งปิดสนามบินและเร่งอพยพประชาชนหลักหมื่นคน ขณะที่ไต้ฝุ่นบัวลอยเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศ
- ตลท. สรุปมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-26กันยายน 2568 แยกเป็นสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 5,004.04 ล้านบาทบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 19,855.96 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 92,117.65 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ116,977.64 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากการที่สหรัฐประกาศดัชนี PCEสอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่ในประเทศนักลงทุนจับตาการการแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 29-30 ก.ย. คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,270-1,285 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : MTC SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KK MOTHER
-โครงการคนละครึ่งพลัส : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP MOTHER