Today’s NEWS FEED

News Feed

JSP วางโรดแมป 5 ปี ผนึกกำลัง 5 บริษัทในเครือขึ้นแท่นผู้นำ'Health Innovation Group' ลุยโปรดักซ์ Wellness รับการเติบโตอันดับ 1 ของโลก ครอบคลุม คน-สัตว์-พืช ตั้งเป้าเติบโต 10 – 20%

90

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (25 กันยายน 2568 )-----นายสิทธิชัย  แดงประเสริฐ   ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JSP  เปิดเผยว่า JSP ได้วางโรดแมประยะยาว 5 ปี ในการก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาดสุขภาพแบบครบวงจร "Health Innovation Group" ภายใน 5 ปี ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรไปพร้อมบริษัทในเครือแบบบูรณาการ ซึ่งประกอบด้วย 1.บริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (มหาชน) (GWM)  ดำเนินธุรกิจธุรกิจโรงงานผลิตน้ำยาล้างไต (A-B Solution) ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาสำหรับผู้ป่วยฟอกไต นำเข้าเครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์  2.บริษัท ซีดีไอพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (CDIP) ประกอบธุรกิจด้านการรับจ้างวิจัยเชิงวิชาการในห้องปฏิบัติการ รับจ้าง ทดสอบและวิเคราะห์ผลทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงจัดงานฝึกอบรมและสัมมนา และส่วนงานให้คำปรึกษาการยื่นขอทุนวิจัยด้านการวิจัยและพัฒนา 3.บริษัท แคร์ซูติก จำกัด (CST) บริษัทที่ให้บริการด้านอินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ ที่มีทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงรับจ้างผลิต (OEM) ผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอาง รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับคน และสำหรับสัตว์ ที่ครอบคลุมทั้งสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน เช่น สุนัข และแมว และสัตว์ในการเลี้ยงสำหรับการทำปศุสัตว์ เช่น หมู ไก่ เป็นต้น 4. บริษัท วารี เมดิคอล จำกัด (WRM) ให้บริการด้านการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบน้ำบริสุทธิ์ (RO) และ 5. บริษัท เมดิส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Medis) ผู้ให้บริการตู้จำหน่ายยาอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง

ล่าสุด JSP ประสบความสำเร็จในการนำ GWM เข้าตลาด LiVEx ชื่อหุ้น GMW25 ซึ่งการเข้าตลาด LiVEx ก็จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ GWM สามารถเติบโตได้เองในธุรกิจการผลิตน้ำยาฟอกไต AB Solution การนำเข้าเครื่องฟอกไตหรือเครื่องฟอกเลือดมาขายแล้วก็ปล่อยเช่าให้ศูนย์ฟอกไต รวมถึงธุรกิจ RO ที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโตปีละ 10% เป็นอย่างต่ำ เนื่องจากปัจจุบันเรามีลูกค้าที่เป็นคลินิกฟอกไตอยู่ที่ 150 สาขา แต่โอกาสเติบโตยังมีอีกมากเนื่องจากทั้งตลาดมีคลินิกทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 1300 คลินิก มาร์เก็ตแชร์เราอยู่ที่ประมาณ 10% ซึ่งการเติบโตของ GWM มีผลต่อ JSP แบบบูรณาการต่อบริษัทลูกอื่นๆ เช่น  CDIP ก็จะเข้าไปคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยโรคไต เช่น ครีมสำหรับผู้ป่วยโรคไต จากนั้น CDIP จะส่งสูตรไปยัง บริษัทแคร์ซูติก ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องสำอาง  นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่เป็นกลุ่ม Wellness อาหารเสริมชงดื่ม ซึ่งผลิตที่ แคร์ซูติกหรือที่ JSP ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เพื่อรองรับเทรนด์ในอนาคตที่จะมีผลิตภัณฑ์ Wellness สำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรคที่เป็น Tailor-made medicine และ Tailor-made cosmetic มากขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจที่จะมาส่งเสริมการเติบโตของทางกลุ่มบริษัทเรา 

ดังนั้น JSP ที่ได้ตั้งโรดแมป 5 ปีในการเติบโตเป็นผู้นำในธุรกิจสุขภาพ (Wellness)  เราจะทำเวชภัณฑ์เกี่ยวกับยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง สมุนไพร ให้กับทั้งคน สัตว์ และพืช โดยเราครบวงจร เริ่มจากกระบวนการต้นน้ำคือวิจัยและพัฒนา กลางน้ำคือเรามีโรงงานผลิต และปลายน้ำคือการสร้างแบรนด์และจัดจำหน่าย เช่นการสร้างแบรนด์สุภาพโอสถที่กำลังดัง หรือที่รู้จักในแบรนด์แม่อี๊ดดวงใจ ปัจจุบันเราประสบความสำเร็จกับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคนแล้ว อีก 5 ปี เราตั้งเป้าว่า เราจะโดดเด่นในอาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยงเครื่องสำอางสำหรับสัตว์เลี้ยง และอาหารเสริมพืช 

"ทำไมถึงทำอาหารเสริมพืชเพราะคนเราก็ต้องกินพิชผักที่ดีไม่มีสารตกค้าง ซึ่งประเด็นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อธุรกิจ Wellness ของคน ถ้าพืชดีผักดีแล้วก็สุขภาพดีอันนี้คือเป้าหมายหลักของเรา ส่วนการเติบโตของผลิตภัณฑ์ ส่วนตัวตู้จำหน่ายยาก็จะเริ่มมีการปรับปรุงให้มีการพัฒนาให้ตรงใจผู้บริโภคมากขึ้นหรือการเอาสินค้าใหม่ใหม่เข้าไปจัดจำหน่ายในตู้ Vending Machine ของเรามากขึ้น แผน 5 ปีเราตั้งเป้าโต 10% - 20% ได้แน่นอน ซึ่งเป้าหมายนี้ยังไม่รวมการส่งบริษัทลูกเข้าตลาดหลักทรัพย์ถ้ามีโอกาส" นายสิทธิชัย กล่าว

นอกจากนี้ JSP ยังได้ปัจจัยหนุนที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตหลักๆจาก 2 ปัจจัยคือ การเข้าสู่โครงสร้างสังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงรัฐบาลใหม่มีแผนที่จะยกจุดแข็งด้าน Wellness ของไทยให้เป็นธีมในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติให้มาพักผ่อนในไทย เนื่องจากประเทศไทยมีชื่อเสียงด้านการแพทย์ในระดับโลก สอดคล้องกับข้อมูลจากภาคเอกชนที่พบว่าตลาด Wellness ของประเทศไทยเติบโตเป็นอันดับ 1 ของโลก ระหว่างปี 2565 - 2566 โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 28.4% มูลค่าประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก ดังนั้นการนำจุดเด่นด้านนี้มาผนึกกับการท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ จึงจะส่งผลดีมายังธุรกิจด้านยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และสมุนไพรไทยโดยตรง ดังนั้นแม้เศรษฐกิจไทยจะชะลอตัวแต่เรายังมี  Wellness ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่จะนำมาให้เศรษฐกิจโดยรวมเติบโตได้อย่างมหาศาล เนื่องจากทั้งภาคบริการและการท่องเที่ยวที่ได้ประโยชน์แล้ว ภาคการผลิตยาและอาหารเสริม ก็จะได้ประโยชน์ในวงกว้างทั้งห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ คนแปรรูปได้ประโยชน์ เกษตรกรได้ประโยชน์ รากหญ้าครัวเรือนได้ประโยชน์ 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

หนูบุกSET By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ วันนี้ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล มาเยี่ยมตลาดหุ้นไทย มาได้จังหวะดี หุ้นใหญ่ชักธงเขียว...

PTG คว้ารางวัล Premium T-VER Award

PTG คว้ารางวัล Premium T-VER Award

"88TH" กำหนดราคาไอพีโอ 5.45 บาท เปิดจองซื้อ 25-26 และ 29 ก.ย.68 เตรียมพร้อมเทรดกระดานเอ็มเอไอ เร็วๆ นี้

"88TH" กำหนดราคาไอพีโอ 5.45 บาท เปิดจองซื้อ 25-26 และ 29 ก.ย.68 เตรียมพร้อมเทรดกระดานเอ็มเอไอ เร็วๆ นี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้