สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19 กันยายน 2568)-----------สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือนครึ่ง ก่อนจะย่อตัวลงช่วงท้ายสัปดาห์
SET Index ดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ โดยยังคงมีแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากรายงานข่าวเรื่องการบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และจีนเกี่ยวกับแพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้นของบริษัทจีน (ซึ่งช่วยคลายกังวลต่อประเด็นตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนลงบางส่วน) และการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดช่วงกลางสัปดาห์ ทั้งนี้ปัจจัยบวกดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นหลายกลุ่ม นำโดย กลุ่มเทคโนโลยี ไฟแนนซ์และค้าปลีก และหนุนให้ SET Index ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือนครึ่งที่ 1,312.74 จุด ในระหว่างสัปดาห์
อย่างไรก็ดีหลังจากตอบรับปัจจัยบวกข้างต้นไปพอสมควร SET Index กลับมาแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนจะปรับตัวลงหลุดแนว 1,300 จุด ในช่วงท้ายสัปดาห์ตามแรงขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังทราบผลการประชุมเฟด ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังในการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า
• ในวันศุกร์ที่ 19 ก.ย. 2568 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,292.72 จุด ลดลง 0.07% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 44,748.98 ล้านบาท ลดลง 2.64% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.34% มาปิดที่ระดับ 255.47 จุด
• สัปดาห์ถัดไป (22-26 ก.ย. 68) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,275 และ 1,250 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,315 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ย. (เบื้องต้น) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านมือสอง รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น