Company Note
GFPT
แนวโน้มผลประกอบการ 3Q25F ยังเติบโต YoY จากมาร์จิ้นที่ดีขึ้น แม้ทรงตัว QoQ
เราคาดว่า GFPT จะรายงานผลประกอบการ 3Q25F ที่ยังเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) แม้ว่าจะทรงตัวหรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยมีแรงหนุนหลักจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง แม้ว่าราคาไก่จะอ่อนตัวลงก็ตาม สำหรับการส่งออกในไตรมาสนี้ แม้จะเป็นช่วง high season ตามปกติที่มีการเตรียมสต็อกก่อนเทศกาลปลายปี แต่ปีนี้อาจไม่เป็นไปตามฤดูกาลปกติเนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ค่าเงินผันผวน และสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกในไตรมาส 3 จะอยู่ที่ประมาณ 8,500 ตัน ลดลง 11% YoY จากฐานสูงในปีก่อนที่มีการส่งออกไปยุโรปจำนวนมาก แต่ยังทรงตัว QoQ โดยการส่งออกไปญี่ปุ่นและจีนยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า
ต้นทุนวัตถุดิบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หนุนมาร์จิ้นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวลดลงอย่างชัดเจนในไตรมาสนี้ โดยราคากากถั่วเหลืองปัจจุบันอยู่ที่ 13.85 บาท/กก. และคาดว่าเฉลี่ยในไตรมาส 3 จะอยู่ที่ 14.20 บาท/กก. ลดลงถึง -28% YoY และ -11% QoQ ส่วนข้าวโพดอาหารสัตว์ปัจจุบันอยู่ที่ 9.84 บาท/กก. โดยคาดราคาเฉลี่ยในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 9.75 บาท/กก. ลดลง -17% YoY และ -9% QoQ ด้านราคาไก่สดปัจจุบันอยู่ที่ 37.50 บาท/กก. และคาดเฉลี่ยในไตรมาส 3 จะอยู่ที่ 39.25 บาท/กก. ลดลงประมาณ -8% YoY และ -2% QoQ ขณะที่ราคาไก่แปรรูปปรุงสุกสำหรับตลาดญี่ปุ่นยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 4,800 ดอลลาร์/ตัน ส่วนยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยที่ 4,400 ดอลลาร์/ตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 10% YoY ซึ่งช่วยชดเชยผลกระทบจากปริมาณการส่งออกที่ลดลงได้บางส่วน
แรงงานกัมพูชาลดลงจากปัญหาชายแดน แต่บริษัทบริหารจัดการได้ดี กระทบเพียงเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากจำนวนแรงงานกัมพูชาที่ลดลงจากการย้ายถิ่นฐานกลับประเทศ เนื่องจากปัญหาชายแดน โดยจำนวนแรงงานกัมพูชาลดลงจากเดิม 1,000 คน (คิดเป็น 20% ของแรงงานทั้งหมด) เหลือเพียงราว 700 คน หรือคิดเป็น 14% ของแรงงานทั้งหมด ซึ่งลดลงถึง 30% อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการจ้างแรงงานทดแทนจากลาว เมียนมา และไทยเพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาในช่วงที่ขาดแคลนแรงงานราว 1 เดือน ทำให้กระทบต่อการผลิตเพียงเล็กน้อย และปัจจุบันสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
คงคำแนะนำ “ซื้อ” จากแนวโน้มกำไรที่เติบโตต่อเนื่อง และราคาหุ้นยังมี Upside
เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 เติบโต 19% จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง โดยเฉพาะราคากากถั่วเหลืองที่คาดเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 16.5 บาท/กก. ลดลงจากปีที่แล้วถึง -17.5% YoY ขณะที่ข้าวโพดอาหารสัตว์คาดทรงตัวที่ 10.5 บาท/กก. นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากการรับรู้กำไรจากบริษัทร่วมทุน Mckey และ GFN ที่มีการขยายกำลังการผลิตไก่สดชำแหละเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2026F คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอีก 3% โดยคาดราคาไก่เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 40 บาท/กก. และปริมาณการส่งออกเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 35,000 ตัน ลดลงเล็กน้อย 4% YoY จากฐานสูงในยุโรปปีที่ผ่านมา เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยอิงราคาเป้าหมายปี 2025F ที่ 12.70 บาท อ้างอิง historical PER -0.5SD เฉลี่ยที่ 7X ซึ่งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside โดย PER25F อยู่ที่ 5.7 เท่า และ Dividend Yield อยู่ที่ 3.5% ความเสี่ยงหลักยังคงเป็นความผันผวนของราคาไก่และต้นทุนวัตถุดิบ