Market Wrap-Up
- SET วันที่ 18 ก.ย.68 ปิด -9.68 จุด อยู่ที่ 1,297.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,929 ลบ. สถาบันขาย 96 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 159 ลบ. ต่างชาติขาย 3,227 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,483 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2,373 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,KTB,BH,PTT,MTC และยอดขายหุ้น ADVANC,KBANK,CPALL,CRC,TRUE มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,150 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ MEGA,TDEX,AOT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 8,610 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 28,261 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 324 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.27%, S&P500 +0.48%, Nasdaq +0.94% ได้แรงหนุนหลังเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลบวกต่อกลุ่มเทคโนโลยี +1.36%, อุตสาหกรรมม +1.06% โดย Intel +22.7% รับข่าว Nvidia ลงทุน 5 พัน ล.ดอลลาร์ในหุ้น Intel เพื่อพัฒนาการผลิตชิปที่ใช้ใน Data Center และระบบประมวลผลของ PC ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.80% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี +4.1%, สินค้าหรูหรา +1.8% และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ +1.2% หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ยต่อในปีนี้อีก 2 ครั้ง
- Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% อยู่ที่ 4.0 – 4.25% พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% และปีหน้าคาดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 1 ครั้ง ส่งผลให้ดอกเบี้ยสหรัฐในปี 69 คาดอยู่ที่ 3.4% โดยเฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ US GDP ปีนี้ที่ 1.6% & เดิมที่ 1.4% และคาด US PCE ปี 68, 69, 70 ที่ 3.1%, 6% และ 2.1% ตามลำดับ ซึ่งเหตุผลที่เฟดลดดอกเบี้ย เนื่องจากต้องการบริหารความเสี่ยงภาวะตลาดแรงงานที่มีสัญญาณชะลอตัว จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมถึงหุ้นจดทะเบียนขนาดในเล็กในดัชนี Russell 2000 ส่วนรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 33,000 อยู่ที่ 231,000 ดีกว่าคาดที่ 241,000 ราย ค่ำวันนี้ติดตามการหารือระหว่าง ปธน.ทรัมป์ – สี จิ้นผิง ในประเด็นขายหุ้น TikTok ในสหรัฐ, กรณีที่จีนสั่งระงับการซื้อชิป RTX Pro 6000D ของ Nvidia และ ม.ผ่อนปรนอัตราภาษีศุลกากรที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 10 พ.ย.
- ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ +0.80% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป เช่น ASML+7.7%, Besi +7.9% รับข่าวเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% และคาดจะลดอีก 2 ครั้งในปีนี้ ขณะที่การประชุม BOE อังกฤษมีมติ 7 – 2 เสียง คงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.0% หลังได้ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ประเด็นที่ต้องติดตาม คือ การประท้วงในฝรั่งเศสต้องการให้ ปธน.มาครง และนายก ฯ เซบาสเตียน เลอกอร์นู ยุติมาตราการรัดเข็มขัด
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +1.15% ผ่านระดับ 45,000 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี & เซมิคอนดักเตอร์ทีเติบโตตามอุปสงค์ AI เช่นเดียวกับ Kospi เกาหลีใต้ +1.4% ปิดทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและยานยนต์ นำโดย Samsung Electronics +2.9%, SK Hynix +5.8% และ Hyundai Motor +1.1% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ -1.15% ถูกแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มพลังงานใหม่ หลังทางการจีนอาจเข้าควบคุมการเก็งกำไรในตลาดหุ้น กอปรคาดรัฐบาลจีนจะเลือน ม.กระตุ้นเศรษฐกิจออกไปในปีหน้า หลัง ธ.กลางจีนคงดอกเบี้ย Repo Rate 7 วันที่ 1.40% ประเด็นเศรษฐกิจวันนี้ติดตามผลการประชุม BOJ ซึ่งคาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5% และการหารือทางโทรศัพท์ระหว่าง ปธน.ทรัมป์ – ปธน.สี จิ้นผิง
- SET วานนี้ -0.74% ปริมาณการซื้อขาย 49 หมื่น ลบ.สถาบันขาย 96 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 159 ลบ.ต่างชาติขาย 3,227 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,483 ลบ. โดยดัชนีถูกแรงขาย Sell On Fact หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดการณ์ กอปรกับหุ้นกลุ่มค้าปลีก, ท่องเที่ยว, ไฟแนนท์ ที่ปรับขึ้นตอบรับ ม.คนละครึ่งเฟสใหม่ของรัฐบาลอนุทินก็เริ่มถูกแรงขายทำกำไร ส่วนกลุ่มปิโตรเคมีก็ปรับลดลง หลังวานนี้ ธ.กลางจีนได้คงดอกเบี้ย Repo Rate 7 วันไว้ที่ 1.40% บ่งชี้ยังไม่เร่งใช้ ม.ผ่อนคลายการเงิน โดยนักลงทุนยังรอการถวายสัตย์ของ ครม.อนุทิน และการแถลงนโยบายรัฐบาลในรายละเอียดของ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่งวงเงิน 2.5 หมื่น ลบ., Easy E-Receipt เฟส2, ม.แก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่า, ม.ลดค่าไฟฟ้า และโครงการลงทุนแลนด์บริดจ์ รวมถึงข้อเสนอ ม.กระตุ้นตลาดทุน เช่น การยกเว้นภาษีปันผลหากถือหุ้นเกิน 1 ปี, ม.หักค่าลดหย่อนภาษี 5 แสนบาท หากมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 3 ปี และสนับสนุนการลงทุนในกองทุน Thai ESG สามารถหักค่าลดหย่อนได้คนละ 300,000 บาทแบบถาวร
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,290 แนวต้าน 1,310 คาดดัชนีมีโอกาส Sideway Up จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐ ส่งผลบวกต่อ Fund Flow ที่ลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลอนุทิน แนะนำทยอยซื้อ กลุ่มค้าปลีกCPALL,CPAXT,BJC,TNP,KK/ อุปโภคบริโภค CBG,OSP,ICHI,SAPPE /ไฟแนนท์ MTC,TIDLOR,KTC,AEONTS/ กลุ่ม รพ. BH,BDMS,BCH เป็นกลุ่มปลอดภัย และคาดรายได้ Q3/68 มีโอกาสฟื้นตัว QoQ
- KTC* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 32.25 บาท) แนวโน้ม 2H68 ผลการดำเนินงานยังเติบโต YoY หนุนจากความต้องการใช้สินเชื่อที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะขยายตัวได้ตามแผน นอกจากนี้ยังคาดว่า NIM จะปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนทางเงินที่ต่ำลงตามทิศทางดอกเบี้ย และการตั้งสำรองที่ลดลง ในปี 68 ผู้บริหารคาดปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต +10% พอร์ตสินเชื่อรวมโต 4-5% สินเชื่อรถยนต์พี่เบ้มตั้งเป้าไว้ที่ 3 พันล้านบาท คุม NPL ไม่เกิน 2% และจะเริ่มเห็นการดำเนินงานของธุรกิจนายหน้าขายประกันในปีหน้า ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 6 พันล้านบาท +2%YoY และ 7.89 พันล้านบาท +4%YoY
CPN* (ซื้อ / ราคาเป้าหมายBloomberg Consensus 67.13 บาท) กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 4,305 ลบ.(-6%YoY, +2%QoQ) โดยธุรกิจให้เช่าศูนย์การค้ายังดูโตได้ แต่กดดันจากธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอสังหาฯที่พักอาศัยอย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวจากครึ่งแรก หนุนด้วย 1.โมเมนตัมธุรกิจให้เช่าฯ ตามกลยุทธ Retail-Led Mixed-Use Development/เปิด Central Park, Central กระบี่2.ปัจจัยหนุนจาก”เที่ยวไทยคนละครึ่ง”/ปัจจัยตามฤดูกาลในQ4 และ 3.ยอดโอนคอนโดกลับมา/เปิดโครงการแนวราบใหม่ๆ ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของCPN* จะอยู่ที่ 17,198 ลบ.(+3%YoY) และ 18,809 ลบ.(+9%YoY
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI ต.ค.-$0.48 อยู่ที่ $63.57 / บาร์เรล, Brent พ.ย. -$0.51 อยู่ที่ $67.44/บาร์เรล หลัง EIA รายงานสต็อคน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมฮิตติ้งออยส์และดีเซล สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 4.0 ล.บาร์เรล มากว่าคาดที่ 1 ล.บาร์เรล กอปรกับกังวลเฟดลดดอกเบี้ย บ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสชะลอตัว
Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$39.50 อยู่ที่ $3,678.30 /ออนซ์ ถูกแรงขาย Sell On Fact หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาดการณ์
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -124.04 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -101.36 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -21.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.96 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 31.89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.108 %
(+) ดัชนี BDI วานนี้ +25 อยู่ที่ 2,205
(+) BitCoin เช้านี้ +0.60% อยู่ที่ 117,356 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์
และชิ้นส่วนยานยนต์
สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ
ต่างประเทศ
16 ก.ย. US ดัชนียอดขายปลีก ( ส.ค.)
17 ก.ย. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ส.ค.)
18 ก.ย. US การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
US การคาดการณ์เศรษฐกิจของคณะกรรมการนโยบายธนาคารกลาง
US ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (ก.ย.)
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง, Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง
(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*
(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*
(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*
(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*
(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*
(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th