Today’s NEWS FEED

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET ไซด์เวย์ หลังนักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิสูง พร้อมกับค่าเงินบาทที่มีช่วงกลับมาอ่อนค่า

102

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 19 กันยายน 2568)-------InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 19 กันยายน 2568คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิสูง พร้อมกับค่าเงินบาทที่มีช่วงกลับมาอ่อนค่า เป็นสัญญาณกดดันจิตวิทยาเรื่องเงินทุนไหลเข้า มีข่าว ว่าที่ รมว. คลัง เตรียมแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าหลังเข้ารับตำแหน่งทันที ติดตามว่าจะเป็นในแนวทางใด ทางเทคนิค ตลาดมีแนวต้านที่ 1300/1303 หากกลับไปยืนเหนือได้จะกลับมาเป็นการแกว่งตัวขึ้น ยืนไม่ได้ยังมีโอกาสพักตัวต่อ ลงไปทดสอบแนวรับ 1287/1280 ที่จะมีช่วงชะลอการลง

 


ประเด็นสำคัญ

• นายกฯ พร้อมว่าที่ รมว. และ รมช. คลัง, รมว. พลังงาน และ รมว. พาณิชย์ เข้าหารือสภาหอการค้าไทยและรับ 7 ข้อเสนอฟื้นฟู ศก. ไทย ได้แก่ สร้างความเชื่อมั่น นลท., เพิ่มสภาพคล่อง, ลดค่าครองชีพ, ส่งเสริมการค้า-ลงทุน, ยกระดับความปลอดภัย, เตรียมรับผลกระทบสงครามการค้า และกระตุ้นกำลังซื้อ
• แหล่งข่าวกระทรวงการคลังเผยรัฐบาลใหม่เตรียมจัดสรรงบเพื่อเร่งกระตุ้น ศก. ช่วง 2H68 ผ่านมาตรการ “คนละครึ่ง” ที่มีวงเงินจากงบกระตุ้น ศก. ที่เหลือจากปีงบ 2568 และของปีงบ 2569 ที่ 2.6 และ 2.5 หมื่นลบ. ตามลำดับ และมีงบกลางสำรองอีก 9.8 หมื่นลบ. และมาตรการ “Easy e-Receipt” ที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้ว
• ว่าที่ รมว. คลัง กังวลอาจมีเงินไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่เร็วกว่าที่คิด หลังเฟดได้ลดดอกเบี้ยและส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อ และได้หารือกับผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ ถึงมาตรการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทไว้แล้ว เช่น การซื้อขายทองคำ และการตรวจสอบเงินทุนไหลเข้า
• ปธน.ทรัมป์เผยวันนี้ (19 ก.ย.) 20:00 น. เวลาไทยจะมีการสนทนาทางโทรศัพท์กับ ปธน. สี จิ้นผิง ได้แก่ การขยายเส้นตายภาษีการค้า, ซื้อกิจการ TikTok โดย Oracle และประเด็นที่จีนสั่งห้ามซื้อชิป Nvidia
• ตลท. เผยความคืบหน้าโครงการส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของ บจ. หรือ JUMP+ ว่าปัจจุบันมีบริษัทเข้าร่วมโครงการแล้ว 50 บริษัท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งจาก SET และ mai ทั้งนี้โครงการยังเปิดให้ บจ. เข้าร่วมได้ถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2568
• Nvidia ตกลงจะลงทุนในบริษัท Intel มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้ข้อตกลงร่วมพัฒนาชิปสำหรับ Data Center และ PC หนุนราคาหุ้น Intel ปรับขึ้นมากถึง 22.7% วานนี้ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เข้าถือหุ้นสัดส่วน 10% และ SoftBank ได้ลงทุนใน Intel มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสไซด์เวย์ในกรอบ โดยมีแนวต้านบริเวณ 1300-1320 จุด ทั้งนี้ประเมินตลาดจะให้น้ำหนักหลักกับปัจจัยต่างประเทศอย่างการประชุมนโยบายการเงิน FOMC ที่ประชุมมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ และ Dot Plot ชี้ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งหรือ 50bps ในปีนี้ และอีก 1 ครั้งในปี 2569 ส่วนการประชุมนโยบายการเงิน BoE มีมติคงดอกเบี้ยที่ 4% เป็นไปตามที่ตลาด และตลาดคาด BoJ จะมีมติคงดอกเบี้ยเช่นกัน ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอติดตามข่าวความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพิ่มจากโครงการคนละครึ่ง ซึ่งจะมีผลต่อการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนให้ฟื้นตัวและการทยอยไหลเข้าของ Fund Flow ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 


แนวรับ – แนวต้าน : 1287/1280– 1300/1303


ล็อคเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ หลังเฟดมีมติลดดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ และ Dot Plot บ่งชี้การลดดอกเบี้ยต่อ ส่วนในประเทศติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและปัจจัยบวกเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือ ดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็งค่า) แนะนำ REITs (DIF) อสังหาฯ (AP SIRI) เช่าซื้อ (MTC) และโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF) 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วมในไทย แนะนำ TASCO BJC HMPRO GLOBAL และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์จากออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และ/หรือ ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น ได้แก่ ค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) เครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) ท่องเที่ยว (CENTEL) นิคม (AMATA WHA) วัสดุก่อสร้าง (SCC) ขณะที่แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากเงินบาทแข็งค่าอย่าง อิเล็กทรอนิกส์ (KCE HANA DELTA) และอาหาร (TU CPF GFPT) ซึ่งมีรายได้บางส่วนอยู่ในรูปดอลลาร์

 

Daily top picks
BCH: มีปัจจัยกระตุ้นจากโอกาสส่งต่อผู้ป่วยคูเวตเข้ามารักษาในไทยดีขึ้น หลังรัฐบาลคูเวตเชิญร่วมงาน Rediscovering Health and Wellness Tourism in Thailand ซึ่ง BCH มีรายได้จากคูเวต 6% สูงสุดในกลุ่ม ขณะที่ 2H68 คาดผลประกอบการดีขึ้นและยังซื้อขาย PER 2569F ที่ 19 เท่า ต่ำกว่า -2SD ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 14 บาท

HANA: มีปัจจัยกระตุ้นจากบาทที่มีโอกาสอ่อนค่า และความหวังต่อสินค้าใหม่ด้าน AI อย่าง Solid-state Cooling Device บริษัทจะติดตั้งสายการผลิตใน 4Q68 และจะเริ่มผลิตใน 1H69 เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ AI ที่มีโอกาสหนุนผลประกอบการในอนาคต โดยคาดว่าลูกค้ารายนี้จะมีศักยภาพในการเติบโตสูง ราคาเป้าหมายระยะสั้นที่ 26.50 บาท

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้